เจียชีเกาคางของอีกฝ่ายด้วยแววตาเอ็นดู เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ต่อต้าน นางก็ลุกขึ้นไปนั่งบนตักของเขา ประคองใบหน้าของชายหนุ่มเอาไว้ พร้อมกับมอบจุมพิตให้กับอีกฝ่าย
ในปากของเฉิงคุนยังมีรสชาติของน้ำส้มอยู่ เมื่อนางใช้ลิ้นโลมเลียทั่วปากของเขา หญิงสาวจึงสัมผัสได้ถึงรสหวานของส้ม...
เมื่อได้จุมพิตกับนางอย่างลึกซึ้ง ชายหนุ่มก็รู้สึกร้อนวูบวาบ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำเรื่องที่สนิทสนมกับบุรุษได้อย่างหน้าตาเฉย เขาหวนคิดไปว่า หากว่าไม่ใช่เขาที่นางเจอเมื่อคืน...นางก็จะทำเช่นเดียวกันกับอีกฝ่ายใช่หรือไม่ แต่เมื่อเฉิงคุนจินตนาการถึงภาพของนางจูบกับบุรุษผู้อื่น ในใจของเขาก็บังเกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา!
เมื่อนางถอนริมฝีปากออก สีหน้าของเขาก็บึ้งตึง เขารู้สึกไม่ยินยอมจึงดึงนางมาจูบอีกครั้งด้วยแรงอารมณ์ ใช้ลิ้นสากของเขาเป็นฝ่ายควบคุมนางบ้าง
เมื่อเฉิงคุนผละริมฝีปากออกมาก็เห็นสีหน้าที่เคลิบเคลิ้มเต็มไปด้วยความพอใจของนาง
“ท่านอิ่มหรือยัง” ชายหนุ่มกระซิบถามนางเสียงแผ่ว เจียชีนั่งบนตักของเขาสองแขนโอบแขนรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ หญิงสาวร่างกายอ่อนระทวยพยักหน้าตอบเขาด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม
"อืม"
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะของคนทั้งสอง เจียชีค่อยๆ ลุกขึ้นจากตักของชายหนุ่ม ใช้มือจัดชุดและทรงผมให้เรียบที่สุด ก่อนจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองแสร้งทำเป็นจับตะเกียบ
หญิงสาวเหลือบมองที่เฉิงคุนส่งสัญญาณให้เขาออกไปก่อน ชายหนุ่มก็เข้าใจความหมายจากสายตาของนาง เขาใช้กำลังภายในหายตัวออกไปจากห้องทันที
สาวรับใช้คนสนิทของนาง นามว่าเสี่ยวเหมยเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "ฮูหยินหลี่ให้คนมาบอกว่าวันนี้...คุณหนูต้องไปเรียนปักผ้ากับอาจารย์หญิงเจ้าค่ะ"
เจียชีพยักหน้ารับรู้ "ข้ารู้แล้ว...แต่คงเป็นช่วงบ่ายๆนะ"
เสี่ยวเหมยพยักหน้า นางไปแจ้งคนของฮูหยินลี่ตามที่คุณหนูบอก เจียชีมองตามหญิงสาวรู้สึกว่าตนเองโหยหาอิสรภาพมากขึ้นทุกวัน นางไม่ชอบที่ต้องคอยทำตามของแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับบุรุษที่ไม่เคยรู้จักเพื่อเสริมอำนาจให้กับท่านพ่อ
ในช่วงเวลาหลายปีมานี้นางมักจะเก็บตัวอยู่คนเดียว ยิ่งนางรู้ว่าคู่หมั้นของนางป่วย เวลาแห่งอิสระของนางได้ยืดออกไป นางก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก ตอนนี้นางเฝ้าภาวนาให้คู่หมั้นของนางไม่มีทางหายดี แม้จะรู้ว่าความคิดเช่นนี้มันผิด แต่นางก็ไม่อยากแต่งกับอีกฝ่ายเลยจริงๆ!
เจียชีออกไปเดินเล่นย่อยอาหาร ในเวลานี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิดอกไม้งดงามเบ่งบาน ดูสวยละลานตาไปหมด หญิงสาวชอบดอกไม้ที่อยู่บนยอดสูงๆ เนื่องจากได้รับแสงแดดที่เพียงพอ มันจึงดูงดงามมากที่สุด นางสั่งให้คนเอาบันไดไม้กับกรรไกรมาให้ หญิงสาวจะลงมือตัดดอกไม้ด้วยตนเอง เพราะกลัวว่าสาวใช้จะตัดได้ดอกที่ไม่ถูกใจนาง
เหล่าสาวใช้ต่างจับบันไดไม้เอาไว้แน่นด้วยกลัวว่าคุณหนูของตนจะตกลงมา "คุณหนู...ให้บ่าวตัดให้เถอะเจ้าค่ะ"
"ข้าทำเอง พวกเจ้าจับบันไดเอาไว้ให้แน่นๆ"
หญิงสาวเอื้อมมือไปตัดดอกไม้บนยอด เมื่อได้มันมาไว้ในมือ นางยิ่งมองก็ยิ่งพึ่งพอใจ ในขณะที่กำลังไต่บันไดลง...ชายกระโปรงก็ไปเกี่ยวกับกิ่งไม้ด้านล่างโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว!
เจียชีกำลังจะตกลงไปที่สระน้ำด้านข้างของส่วน หญิงสาวตื่นรู้สึกตื่นตระหนก แต่ทันใดนั้นนางก็ตกอยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแกร่ง
ชายหนุ่มกอดนางแน่นแล้วใช้กำลังภายในขพาเหาะไปจากสระน้ำ หลังจากพานางส่งถึงพื้น เขาก็กำลังจะเดินจากไป แต่หญิงสาวก็จับแขนเสื้อของเขาเอาไว้เสียก่อน เขายืนสบตากับนางต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดอะไรออกมา...
ในช่วงเวลาที่ทั้งสองต่างจ้องมองตากัน ผีเสื้อก็บินมาเกาะบนช่อดอกไม้ในกำมือของนาง ผีเสื้อบินอ้อยอิ่งอยู่บนดอกไม้ชั่วครู่ หลังจากนั้นมันก็บินโฉบไปเหนือศีรษะของเฉิงคุน
เจียชีหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ "มันชอบเจ้า"
เฉิงคุนโบกมือไล่มัน แต่ผีเสื้อไม่ยอมบินจากไป มันกลับบินมาเกาะที่ไหล่ของเขาแทน เมื่อเขาเห็นสายตาเป็นประกายของสตรีตรงหน้าในยามที่มองผีเสื้อบนไหล่ของเขา ชายหนุ่มก็หยุดนิ่งไม่ได้คิดที่จะไล่มันไปอีก น้อยครั้งที่ผีเสื้อจะมาบินเข้าใกล้คนในระยะใกล้เช่นนี้ หากว่านางชอบดูเขาก็จะปล่อยให้มันเกาะไหล่ของเขาต่อไป...
ปีกของผีเสื้อนั้นเป็นสีเหลืองสดใส มันเกาะนิ่งอยู่บนไหล่ของเฉิงคุน ท้ายที่สุดมันก็บินเข้าหาใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา และโฉบไปเกาะที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม
ผีเสื้อบินมาเกาะที่ริมฝีปากของเฉิงคุนราวกับกำลังจูบเขา ผีเสื้อตัวนี้ช่างเลือกได้ถูกคนจริงๆ!
"ดูสิ...มันชอบเจ้าจริงๆด้วย" เจียชีหัวเราะอย่างมีความสุข เฉิงคุนขมวดคิ้วและก้าวถอยหลังหนีผีเสื้อตัวนั้น แต่ผีเสื้อยังคงบินไล่ตามเขา หญิงสาวจึงใช้ช่อดอกไม้ในมือไล่มันไป
เมื่อผีเสื้อบินออกไปแล้ว เจียชีก็มองริมฝีปากของเขาที่เต็มไปด้วยผงสีเหลืองบนปีกของผีเสื้อนางใช้นิ้วเช็ดมันออกให้เขา ริมฝีปากของชายหนุ่มช่างดึงดูด นางเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหวดึงคอเสื้อของเขาลงมา
เฉิงคุนก้มตัวลงตามแรงฉุดของนางอย่างเชื่อฟังหญิงสาวยืนบนเท้าของชายหนุ่ม แล้วจูบริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา จูบครั้งนี้มันนุ่มนวลและอบอุ่น ต่างฝ่ายต่างคลอเคลียกันอย่างอ้อยอิ่ง
ในยามที่พวกเขากอดกันอย่างแนบแน่น เจียชีสัมผัสได้ถึงการเต้นหัวใจของเขา หญิงสาวรู้สึกมีความสุขมาก นางไม่อยากให้เขาต้องเป็นองครักษ์เงาคอยหลบซ่อนตัว นางอยากจะพาเขาเดินจูงมือชมดอกไม้ด้วยกันอย่างเปิดเผย แต่ความเป็นจริงก็ฉุดรั้งนางขึ้นมา สิ่งที่นางคิดไม่มีทางเป็นไปได้…
เจียชีผละออกจากจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม หลังจากนั้นนางก็รีบเดินหันหลังหนีไปทันที หญิงสาวพบว่าความคิดของนางในเวลานี้ช่างอันตรายยิ่งนัก
มันไม่ควรเป็นเช่นนี้เลย!