ในเวลานี้ห้วงความคิดของเจียชี มันเต็มไปด้วยภาพการร่วมสังวาสของคู่รักชายหญิงใต้ต้นไม้ หญิงสาวกลับไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ และพบว่าหน้าท้องส่วนล่างมีกระแสความร้อนไหลออกมา
อ่า...ข้าเป็นรอบเดือนเช่นนั้นหรือ!
เจียชีรีบถอดกางเกงชั้นในออกมาดูว่ามีคราบเลือดติดอยู่หรือไม่ แต่นางพบว่าไม่มีเลือด มันมีเพียงของเหลวเหนียวใสติดอยู่กับกางเกงชั้นในเท่านั้น
เมื่อนึกถึงภาพการร่วมสังวาสนั้น เจียชีก็รู้สึกว่าปากและลำคอของนางแห้งผาก หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือลงไปใต้กระโปรงที่ไม่มีกางเกงชั้นในกั้น นิ้วชี้ของนางคลำนิ้วเข้าไปในรอยแยกที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน ปลายนิ้วของนางสัมผัสกับติ่งเนื้อน้อยด้านนอก อาการเสียววูบที่เกิดขึ้นทำให้นางรู้สึกดี และสบายไปทั้งร่าง
"อ่า..." หญิงสาวส่งเสียงครางออกมาอย่างพึงพอใจ ดูเหมือนว่าติ่งเนื้อน้อยตรงส่วนนั้นจะทำให้นางมีความสุข ยิ่งสัมผัสมันของเหลวสีใสก็ยิ่งไหลออกมาเปรอะเปื้อนมือของนาง…
ทันใดนั้นนางก็นึกบางอย่างขึ้นได้ องครักษ์เงาที่แอบซ่อนตัวอยู่ต้องเห็นนางทำเรื่องลามกเมื่อสักครู่นี้แน่!
ใบหน้าของเจียชีแดงก่ำ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา ทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน แต่นางก็ยังรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง
"ออกมา!" หญิงสาวไม่ใช่คนที่ชอบหนีปัญหานางต้องการที่จะพูดคุยกับเขาให้มันชัดเจน “ข้ารู้ว่าเจ้าเห็นหมดแล้ว” นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขออภัยคุณหนู...ข้าน้อยจะควักลูกตาตัวเองเดี๋ยวนี้” พูดจบอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นเตรียมจะโจมตีไปที่ดวงตาของตนเอง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เจียชีตะคอกด้วยความตกใจ รีบยึดแขนของชายหนุ่มเอาไว้ ไม่ให้เขาทำร้ายดวงตาของตนเอง เมื่อเห็นว่าเขายอมนั่งอยู่นิ่งๆ นางก็วางใจแล้วค่อยปล่อยมือออกจากแขนของเขา
เจียชีมองสำรวจองครักษ์เงาที่นั่งอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มคนนี้มีช่วงไหล่และเอวอันแข็งแกร่ง เสื้อผ้ารัดรูปสีดำยิ่งขับเน้นรูปร่างของเขาเป็นอย่างดี นางมองกล้ามเนื้อแข็งแรงเป็นมัดๆ ของชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชม
เมื่อลองคิดอีกทีตอนที่มารดาได้มอบองครักษ์เงาไว้ให้กับนางซึ่งเป็นเด็กหนุ่มหลายคน ในเวลานั้นเจียชียังคงเป็นเด็กหญิง นางไม่เข้าใจในสิ่งที่มารดาพูด "คนเหล่านี้สามารถปกป้องเจ้าให้ปลอดภัยได้…และในอนาคตเจ้าสามารถใช้พวกเขาสร้างความสำราญใจให้ตนเองได้" คำพูดของมารดาในตอนนั้นนางยังคงไม่เข้าใจว่าองครักษ์เงาจะสร้างความสำราญอันใดให้กับนาง แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าจะใช้องครักษ์เงาทำอะไร
เจียชียิ้มที่ตรงมุมปากนางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ พร้อมกับกวักมือเรียกให้เขามาหา "เจ้ามานี่"
องครักษ์เงาลุกขึ้นและเดินไปหานาง
หญิงสาวชี้ไปที่หน้ากากของชายหนุ่ม “ถอดหน้ากากออกแล้วให้ข้าดูหน้าของเจ้าอย่างชัดๆ”
ชายหนุ่มถอดหน้ากากออกอย่างเชื่อฟัง เผยใบหน้าที่หล่อเหลา ดวงตาสีเข้ม สีหน้าไร้ความรู้สึก มุมปากของเขาเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เจียชีนึกชื่นชมนางรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นพวกที่ควบคุมตัวเองได้ดี
“ข้ารู้ว่าว่าเจ้ารูปงาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเจ้าดูเป็นชายชาตรีมากขึ้นกว่าเดิม...รูปร่างหน้าตาเช่นนี้ของเจ้าทำให้ข้าชอบมาก” เจียฉีโน้มตัวลงไปใกล้กับเขา “คุณหนูเช่นข้า...ต้องการให้เจ้าทำอะไร...เจ้าพอจะเดาได้หรือไม่”
“ข้าน้อยโง่เขลา...ทำเรื่องเช่นนั้นไม่เป็นขอรับ” ชายคนนั้นก้มศีรษะ
“ไม่เป็นไร ข้าจะค่อยๆ สอนเจ้าเอง...ว่าควรทำเช่นไร แต่ว่าข้าเองก็เพิ่งเรียนรู้ได้ไม่นาน หากสอนได้ไม่ดี...เจ้าอย่าหัวเราะเยาะข้าเชียวละ” เจียชีค่อยๆ ยกกระโปรงตัวบางขึ้น เผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลของนาง
“มาสิ...คุกเข่าลง”
ชายหนุ่มมองหน้าด้วยความตกตะลึง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงคุกเข่าลงระหว่างขาของนาง
เจียชีพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ข้าจำได้ว่าองครักษ์เงาอยู่หลายคน แต่คนที่รูปงามที่สุดชื่อหลงเย่..." นางเรียกเขาอย่างไม่แน่ใจ ในความทรงจำของนางโดยเหมือนว่าองครักษ์เงาของนาง คนที่รูปงามที่สุดมีนามว่าหลงเย่ นางและแม่เลี้ยงแม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นมิตร แต่เพราะว่านางเป็นเพียงแค่ลูกสาวจึงไม่สามารถแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดจวนโหวกับลูกชายของนางได้ แม่เลี้ยงจึงไม่ได้อยากให้นางตายเพียงแค่กลั่นแกล้งกันเล็กน้อยเท่านั้น หญิงสาวจึงไม่ค่อยได้เรียกใช้องครักษ์เงา นางจึงจำไม่ได้ว่าองครักษ์เงาของนางชื่ออะไรกันบ้าง
ชายหนุ่มก้มศีรษะลงและพูดเสียงต่ำ "เฉิงคุน"
"อ้อ...หลงเย่รูปงามที่สุดไม่ใช่เหรอ" เจียชีถามพร้อมกับเอียงศีรษะ
"ข้าน้อยไม่ทราบ" เป็นเพราะองครักษ์เงาต่างผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้ายาม พวกเขาไม่ค่อยคุยกันและไม่เปิดเผยใบหน้าให้ใครเห็น
"ช่างเถอะ...ข้ามองเจ้าแล้วก็รู้สึกชอบมากเช่นกัน" นางยื่นเท้าไปเหยียบที่ไหล่ของเขา "ถอดถุงเท้าของข้าออก"
เฉิงคุนถอดถุงเท้าของนางออกอย่างเชื่องช้า หญิงสาวมองเขา แล้วรออย่างอดทน "เจ้าเห็นว่าข้าทำเรื่องเช่นนั้น...เจ้าคิดอย่างไร"
"..." ชายหนุ่มไม่ตอบเขาขมวดคิ้วและยังคงปิดปากเงียบ