งูพิษที่เริ่มเผยตัว

2334 Words
จู่เช่อหนิง ส่งยิ้มหวานพลางเดินแช่มช้อยอย่างรักษากิริยามาหยุดที่หน้าประตู ย่อตัวลงยามปากเอ่ยคำ “ลุกขึ้นเถิด คุณหนูจู่ “ อ๋องสามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงอ่อนล้า ”เปิ่นหวางก็หวังเช่นนั้น นี่คือแม่นางหม่า นามเหลียนเฟย หมอหญิงที่จะมาช่วยรักษาเรา“ ”ยินดีที่ได้พบท่านหมอ ข้าจู่เช่อหนิง เป็นญาติผู้น้องของพระสนมเอก จู่เหมยฮัว เจ้าค่ะ” "ยินดีที่ได้พบเจ้าค่ะ” นางพยักหน้าเอ่ยตอบรับก่อนยื่นห่อยาให้เด็กสาวพร้อมเอ่ยกำชับ “เหยาเอ๋อร์เจ้าไปต้มยาในห่อนี้ให้ข้า คอยเฝ้าดูเวลาให้ดีเล่าเพราะยานี้หากต้มนานหรือเร็วเกินไป สรรพคุณจะจางลงได้ เสร็จแล้วรีบนำมันมาให้ข้า” ”เจ้าค่ะ พี่เหลียนเฟย” เด็กสาวรับคำพร้อมทั้งนิ่วหน้าอย่างคลางแคลงสงสัย แต่ก็หาได้เอ่ยคำใด เร่งเดินตามนางกำนัลออกไป “มีสิ่งใดหรือไม่ หรือเสด็จแม่ทรงมีรับสั่งสิ่งใดถึงเปิ่นหวาง” อ๋องสามเอ่ยปากเมื่อเห็นจู่เช่อหนิงนิ่งเงียบพลางมองตามหลังนางกำนัลที่เดินจากไป ”ไทเฮาทรงมีรับสั่ง หากท่านหมอเสร็จจากการรักษาท่านอ๋องแล้ว ให้เชิญตัวไปเข้าเฝ้าเพคะ” “อย่างนั้นหรอกหรือ ถ้าอย่างนั้นวานเจ้าไปทูลพระองค์ว่า หากเสร็จทางนี้แล้ว เปิ่นหวางจะให้องครักษ์เกาพาแม่นางหม่าไปเข้าเฝ้า” “เพคะ อย่างนั้นหม่อมฉันทูลลา ขอพระอาการทรงดีขึ้นเร็วๆนะเพคะ” ย่อเข่าคำนับแล้วนางก็หันมายิ้มพร้อมเอ่ยกับหญิงสาวก่อนเดินออกจากประตูไป “แล้วพบกันนะ ท่านหมอหม่า” “เจ้าค่ะ” ผ่านไปราวๆเกือบครึ่งชั่วยาม หนี่เหยาเอ๋อร์ก็เดินกลับเข้ามา ในมือถือถ้วยขนาดใหญ่ที่ข้างในเต็มไปด้วยน้ำยาสีเข้ม เด็กสาววางลงก่อนจะหันมายิ้มพร้อมทั้งพ่นลมหายใจพรูออกจากปากเสียงดัง ”ได้แล้วเจ้าค่ะ ข้านั่งเฝ้าดูเวลาต้มไม่ขาดไม่เกิน มิได้ละสายตาเลยเจ้าค่ะพี่เหลียนเฟย“ “ทำดีมากจ้ะ เอาผ้าสะอาดมาให้พี่ด้วย เดี๋ยวพี่จะใช้ชุบยาทาแผลให้ท่านอ๋องเอง ไม่มีสิ่งใดให้ช่วยแล้วเจ้าไปนั่งพักเถิด” “ ขออนุญาติเจ้าค่ะ “ว่าพลางขยับไปทรุดกายลงนั่งด้านข้างชายหนุ่ม ยกถ้วยสมุนไพรขึ้นมาก่อนจะใช้มือแตะลงบนน้ำยาสีเข้มนั้น ชั่วสูดลมหายใจเข้าออกพลันยิ้มน้อยๆก็เกิดที่มุมปากบาง ”อาจจะแสบแผลนิดนะเจ้าคะ “ ” ขออนุญาตกระหม่อม แม่นางเหยาเอ๋อร์ มากับข้าเถิด ข้าจะพาไปกินของอร่อยระหว่างนั่งรอ “ ว่าแล้วองครักษ์หนุ่มก็ฉวยข้อมือเด็กสาวจูงให้เดินตามออกไป หลังจากทายาลงบนทุกบาดแผลที่เกิดจากพิษกำเริบแล้วก็เป็นเวลารับสำรับเที่ยงของชายหนุ่ม หากแต่นางกำชับให้คนครัวทำแต่สำรับอ่อนๆเน้นซุปชนิดต่างๆเพื่อบำรุงกำลังโดยเฉพาะ เพราะหากร่างกายยิ่งอ่อนแอก็จะยิ่งเป็นผลร้ายคนป่วย หากแต่ระหว่างที่เหล่าบ่าวไพร่และนางกำนัลกำลังลำเลียงสำรับเข้ามานั้น อ๋องสามเกิดอาการพิษกำเริบจนกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ตามลำตัวเริ่มมองเห็นการเคลื่อนไหวของพิษที่พยายามจะเคลื่อนตัวหนีออกจากตัวยาที่ทาไว้ ทำให้หญิงสาวต้องป้อนยาสบั้นพิษซึ่งเป็นยาสกัดพิษได้ทุกชนิดชั่วคราวให้เขาได้คลายความเจ็บปวดลงไปบ้าง ผ่านไปชั่วครู่อาการของชายหนุ่มจึงค่อยๆดีขึ้น หลังจากอาการอ๋องสามสงบลงและสามารถรับสำรับได้นางก็ขอตัวออกมาเพื่อจะไปเข้าเฝ้าองค์ไทเฮา ระหว่างเดินตามองครักษ์เกาไปตามทางนั้น หญิงสาวก็เฝ้าครุ่นคิดถึงอาการของชายหนุ่ม เพราะยาที่นางทาลงบนบาดแผลของเขานั้น เป็นยาชนิดรุนแรงยิ่งนักเนื่องจากสกัดมาจากรากสมุนไพรที่หายาก สรรพคุณจึงดีกว่ายาทั่วไป และตัวยานี้สามารถสกัดพิษที่เกิดจากสัตว์เลื้อยคลานได้เกือบทุกชนิด ดังที่นางใช้ทาแก้พิษให้กับองครักษ์เกาไปเมื่อคราวก่อนก็เป็นตัวยาชนิดนี้เช่นกันแต่อาจจะมีสรรพคุณเบาบางกว่า และส่วนใหญ่พิษเหล่านี้หากไม่มีตัวกระตุ้นก็จะไม่กำเริบ นอกจากจะเวียนครบรอบขวบวันของพิษ คิดได้ดังนั้นนางจึงเอ่ยปากถามผู้ที่คาดว่าน่าจะอยู่ใกล้ชิดอ๋องหนุ่มมากที่สุด “ท่านองครักษ์เกา ข้าขอรบกวนสอบถามเกี่ยวกับพิษของท่านอ๋องเพิ่มเติมหน่อยนะเจ้าคะ" "ต้องการรู้สิ่งใดเพิ่มหรือ แม่นางหม่า โปรดถามมาอย่าได้เกรงใจ” "ยามใดที่พิษมักจะกำเริบหรือเจ้าคะ" "อันที่จริงพิษชนิดนี้มักจะกำเริบยามที่พระจันทร์เต็มดวงขอรับ มีแต่ช่วงนี้ที่พิษกำเริบบ่อยขึ้นโดยหาสาเหตุมิได้" ‘!กำเริบโดยหาสาเหตุไม่ได้หรือ ไม่สิ มันต้องมีสาเหตุ!’ หญิงสาวครุ่นคิด พลันนึกไปถึงตอนที่นางสัมผัสได้ถึงสมุนไพรต่างชนิดออกไปที่ผสมมากับใบเปียหยู ใช่แล้วจะต้องมีใครคนใดคนนึงที่ใช้สมุนไพรบางชนิดกระตุ้นพิษให้กำเริบขึ้นมา น่าเสียดายนักที่ตอนนั้นนางไม่มีสมาธิมากพอที่จะแยกชนิดว่าเป็นสมุนไพรแบบใดที่ปนมา อาจจะเป็นเพราะการป่นจนผสมกันทำให้ยากจะแยกชนิดได้รวดเร็วเหมือนดังสัมผัสทั้งต้นหรือใบ ”แม่นางๆ แม่นางหม่า!” ”พี่เหลียนเฟยเจ้าคะ เป็นอะไรรึปล่าวเจ้าคะ “ เสียงเรียกพร้อมกับมือของเด็กสาวที่ยื่นมาแตะทำให้นางคืนสติจากการครุ่นคิด “ถึงแล้วเจ้าค่ะ ข้ารออยู่ข้างนอกนะเจ้าคะ” เด็กสาวร้องบอกก่อนจะถอยไปนั่งรอตรงตั่งไม้ข้างประตูทางเข้า หญิงสาวจึงก้าวเข้าไปพร้อมองครักษ์เกาถึงด้านในห้องใหญ่ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่มีความหรูหราบ่งบอกถึงความชอบของเจ้าของสถานที่ได้เป็นอย่างดี มีเหล่านางกำนัลยืนประจำที่ทั้งด้านนอกและในห้องตามตำแหน่งต่างๆ ทั้งสองก้าวเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่ ณ ตรงกลางห้องบนตั่งไม้ขอบทองสำหรับนั่งขนาดใหญ่ที่วางเกือบติดผนัง ปรากฎร่างของหญิงสาววัยกลางคนในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์นั่งอิงหมอนใบยาวอยู่ ใบหน้าของนางปรากฎเค้าความงามที่บ่งบอกถึงอดีตว่าเคยเป็นหญิงงามล้ำผู้หนึ่ง องครักษ์เกาก้าวนำนางไปทรุดตัวลงคุกเข่าพร้อมเอ่ย “ถวายพระพร ไทเฮาพะย่ะค่ะ ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆปีพะย่ะค่ะ เพคะ” ”ลุกขึ้นเถิดองครักษ์เกา ไม่ต้องมากพิธี เจ้าด้วย“ ”ขอบพระทัย พะย่ะค่ะ เพคะ” ทั้งสองลุกขึ้น เกาฉางเย่ขยับตัวแยกไปยืนด้านข้าง ปล่อยให้หญิงสาวยืนก้มหน้าอยู่ที่เดิม ”ทูลไทเฮาเพคะ นางคือหมอหญิงแซ่หม่า ผู้ที่กำลังทำการรักษาพระอาการของท่านอ๋องเพคะ” เสียงหวานของจู่เช่อหนิงทูลรายงาน ”ท่านหมอหม่าอย่างนั้นหรือ เจ้ายังดูอ่อนวัยยิ่ง แต่กลับมีความสามารถถึงเพียงนี้ เพียงแต่เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าจะรักษาอ๋องสามได้จริงๆ“ ”ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันเพียงแต่มีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง นับว่าโชคดียิ่งนักที่พิษที่ท่านอ๋องได้รับหม่อมฉันพอจะรู้ตำรับยาแก้พิษ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะแก้พิษชนิดนี้ได้เพคะ” ”หากเจ้ารักษาชุนเอ๋อร์ได้จริง ไม่ว่าเจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล เปิ่นกงให้ได้ทั้งนั้น ขอเพียงให้เขาหายดีเป็นปกติ” ”หม่อมฉันจะพยายามสุดความสามารถเพคะ” “ต้องรบกวนเจ้าแล้ว จู่เอ๋อร์” พระนางทรงโบกมือเบาๆ จู่เช่อหนิงจึงยกถาดที่มีถุงผ้าสีทองวางอยู่มาย่อเข่ายื่นถวาย ”นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากเปิ่นกง” ”ขอบพระทัยเพคะ” พระนางทรงซักถามอาการต่างๆของบุตรชายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย จากนั้นจึงอนุญาติให้นางกลับออกมาโดยมีจู่เช่อหนิงเดินตามออกมาส่ง ”พระองค์ทรงกังวลยิ่งนักเกี่ยวกับพระอาการของท่านอ๋อง ทรงไหว้พระสวดมนต์ขอพรทุกวันเพื่อให้ทรงหายดีโดยไว หวังว่าท่านหมอจะสามารถแก้พิษได้ในเร็ววันนะเจ้าคะ” หญิงสาวยิ้มหวานส่งให้พร้อมทั้งขอตัวเข้าไปถวายการรับใช้ไทเฮา ผ่านไปไม่ถึงเสี้ยวชั่วยาม ปรากฎนกพิราบน้อยโผบินออกจากข้างกำแพงจวน คนผู้หนึ่งยืนมองจนนกน้อยลับตาจึงก้าวจากไป ด้านจวนเล็กที่พักของอ๋องสามองครักษเกาก้าวเร็วๆเข้ามาด้านใน โบกมือไล่ข้ารับใช้ในพระองค์แล้วจึงปิดประตูหน้าต่าง ก่อนประคองมือรายงาน ”เป็นดังที่พระองค์คาดไว้พะย่ะค่ะ งูพิษเริ่มโผล่หางออกมาอีกครั้งแล้ว” ว่าพลางค้อมกายถวายกระดาษแผ่นเล็กถึงพระหัตถ์ ทรงคลี่อ่านข้อความด้านในแล้วส่งคืนให้องครักษ์หนุ่ม !!มีมดปลวกตัวใหม่ คาดว่าจะช่วยให้ปลาคายเหยื่อได้ เร่งลงมือ!! ชายหนุ่มอ่านออกเสียงเบาก่อนจะเงยหน้ามองพระพักตร์ “พวกมันคงหมายถึงหมอหม่า แล้วที่เราให้ไปจัดการเป็นอย่างไร” ”ตามพระประสงค์ทุกอย่างพะย่ะค่ะ” “ดี เอาเครื่องเขียนมาให้เรา เปิ่นหวางจะส่งสารให้ถึงที่หมายของพวกมันอย่างที่มันต้องการ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมแค่นยิ้ม ‘!ไม่นานหรอกงูพิษ ข้าจะคว้าคอเจ้าออกมาให้ได้!’ ”พี่เหลียนเฟยเจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้าค่ะ” เด็กสาวเอ่ยขึ้นระหว่างทางกลับบ้านซึ่งตอนนี้พวกนางกำลังนั่งอยู่ในรถม้าจากจวนอ๋องที่กำลังนำพวกนางกลับไปส่งโดยมีทหารคุ้มกันมาแทนองครักษ์เกาเนื่องจากชายหนุ่มเกิดมีงานด่วน ”ไหนว่ามาซิ สาวน้อยของพี่ สงสัยสิ่งใดกัน”หญิงสาวแกล้งหยอกล้อ เพราะนางนึกรู้ว่าเด็กสาวสงสัยสิ่งใด ”ข้าอยากรู้ว่าทำไมพี่เหลียนเฟยถึงเปลี่ยนมาต้มยาทาแผลให้ท่านอ๋องแทนการแช่น้ำสมุนไพรเจ้าคะ ข้าจำได้ว่าท่านเคยบอกว่าต้องล้างแผลให้สะอาดดีเสียก่อนถึงจะทายาซึ่งจะได้ผลดีกว่า” ”เอาเป็นว่าพี่ขอให้เป็นความลับไว้ก่อนก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาแล้วพี่จะบอกเจ้านะ” เด็กสาวยู่หน้าเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็เผยรอยยิ้มสดใสดังเดิม “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นแล้วข้าจะรอฟังนะเจ้าคะ" หญิงสาวยกมือเรียวขึ้นลูบศีรษะงามเบาๆทั้งยิ้มอ่อนให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูนั้น นับตั้งแต่หลุดมาอยู่ในยุคอดีตแห่งนี้ นอกจากฝางฮูหยินแล้วก็มีเพียงเด็กสาวข้างกายนี่แหละที่คอยอยู่เคียงข้างนางเสมอ แม้จะพึ่งพบกันไม่นานหากเทียบกับเวลาที่นางอยู่กับฝางฮูหยินแต่ก็ให้รู้สึกราวกับว่ารู้จักคุ้นชินกันมานานแสนนาน และหากเป็นไปได้นางยังอยากจะรักษาความไร้เดียงสาของเด็กสาวเอาไว้ถึงแม้จะไม่รู้ถึงอนาคตข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะหากดูจากสถานการณ์ในจวนอ๋องสามวันนี้แล้ว ดูท่าว่าการช่วยเหลือคนอย่างที่นางตั้งใจเอาไว้ คงมิได้ง่ายดายดังที่คิดไว้เสียแล้ว หากแต่อาจจะมีอันตรายรอบด้าน แต่ไม่ว่ายังไง หากวันนึงเกิดเหตุร้ายขึ้นมาจริงๆนางก็จะทำทุกวิถีทางให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยให้จงได้ สองสาวนั่งพูดคุยหยอกล้อกันจนมาถึงจุดหมายปลายทาง เรือนหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ที่พวกนางเช่าอยู่อาศัยมาแรมเดือนนับตั้งแต่เดินทางเข้ามาอยู่ในเมืองนี้ ซึ่งแม้ว่าทางองครักษ์หนุ่มจะได้แจ้งถึงความประสงค์ของอ๋องสามที่อยากจะให้พวกนางพักอยู่ที่จวนแห่งนั้น เพื่อจะสะดวกในการรักษา แต่นางเห็นว่าหากพากันไปอยู่จริงๆ คราวนี้เห็นทีฝางฮูหยินคงจะต้องรับรู้แน่ว่านางมีความสามารถในการแก้พิษ ฉะนั้นกว่าจะบอกเล่าอธิบายที่มาที่ไปก็คงจะยุ่งยากเอาการ และไหนจะข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆที่นางใช้ในการผลิตครีมออกขาย ทั้งเหล่าต้นสมุนไพรบางชนิดที่นางเริ่มจะนำมันมาจากป่าเพื่อปลูกอยู่บ้างประปราย อีกทั้งนางยังชมชอบความเป็นส่วนตัวอยู่มาก เกรงว่าหากเข้าไปอยู่ในจวนที่บ่าวไพร่พลุกพล่านขนาดนั้นคงจะลำบากใจพอดู คิดพลางถอนหายใจพร้อมก้าวลงจากรถม้า สองตาพลันเห็นรถม้าสภาพกลางใหม่กลางเก่าจอดอยู่หน้าเรือน หญิงสาวนึกฉงนใจเพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่พวกนางไม่เคยติดต่อหรือไปมาหาสู่กับผู้เป็นใหญ่เป็นโตเลยซักรายนอกจากอ๋องสาม แต่ในยามนี้หากดูจากขนาดของรถม้า คาดว่าน่าจะเป็นของผู้มีอันจะกินพอประมาณ มิเช่นนั้นคงไม่สามารถมีรถม้าพร้อมสารถีเช่นนี้ "รถม้าของผู้ใดกันเจ้าคะ พี่เหลียนเฟย หรือจะเป็นของลูกค้าที่ต้องการสั่งสินค้าของเรากัน" เด็กสาวเอ่ยถามขึ้น ฉับพลันแว่วเสียงร้องไห้ดังออกมาจากด้านใน ทั้งสองมองหน้ากันแล้วจึงรีบสาวเท้าเข้าไปด้านใน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD