สาเหตุอันปวดร้าว
ณ สนามบินใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ‘จูจู หรือ อัสมา’สาวไม่น้อยวัย 35 กะรัต สาวลูกผสมไทยจีนแถมอิสลามอีกนิดหน่อยจากทางฝั่งย่าที่มาจากภาคใต้สุดของประเทศไทย เจ้าของร้านสปาขนาดย่อมในย่านท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองกรุง กำลังนั่งฟังเพลงปล่อยอารมณ์รอขึ้นเครื่องอย่างเหงาหงอยหลังจาก’ต้นอ้อ’เพื่อนสาวคนสนิทที่นัดกันไว้ในทริป’เซี้ยงไฮ้ในฝัน 6คืน7วัน’ที่เธอเป็นฝ่ายคะยั้นคะยอให้นางยอมไปเที่ยวด้วย ฉลองการเป็นโสดในรอบที่เท่าไหร่เธอก็ไม่อยากจะนับต้องลงไปเคลียร์งานด่วนที่มีปัญหา เสร็จแล้วถึงจะตามเธอไปในอีก 2วันข้างหน้า
เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องดังขึ้นพร้อมกับที่ทุกคนเริ่มทยอยเดินตามกันไปยังประตูทางออก หลังจากนั่งประจำที่พร้อมรัดเข็มขัด หญิงสาวก็ทอดสายตามองลงไปยังเบื้องล่างเห็นเจ้าหน้าที่กำลังส่งสัญญาณให้นักบินถอยพร้อมเตรียมนำเครื่องขึ้น
แสงแดดจ้าที่ส่องมาทำให้สายตาเริ่มพร่ามัว ความนึกคิดต่างๆก็วนกลับเข้ามาในสมอง น้ำตาก็เริ่มปริ่มคล้ายจะร่วงหล่น เธอนึกไปถึงคนไกลที่เคยอยู่ในห้วงคำนึงมาถึง5ปี คนที่เธอเคยตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นคนที่จูงมือกันไปจนถึงวันแต่งงานจนยอมมอบกายมอบใจให้เขาครอบครอง ความสาวที่เธอหวงแหนนักหนาแต่เพราะรักจึงตัดสินใจยอมเป็นของเขาอยู่กินกับเขาโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน รอวันที่เขาพร้อมจัดงานแต่งของเรา แต่สุดท้ายคำว่ารักแท้แพ้ระยะทางมันก็เป็นจริง หากแต่ระยะทางหรือจะทำร้ายความรักได้หากใจของเรามั่นคงต่อกัน
ในความห่างไกลแค่ปีกว่าๆที่เขาไปทำงานต่างประเทศ มีเพียงแค่เสียงตามสาย หากจะได้เห็นหน้าก็เมื่อเวลาที่เขาว่างจริงๆเท่านั้น ในข้ออ้างของการไม่ค่อยมีเวลาโทรหา กลับกลายเป็นว่าเขามีคนอยู่ข้างกายตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น นึกไปแล้วก็ตลกนักหากผู้หญิงคนนั้นไม่ท้องเธอก็คงยังเป็นคนโง่ในสายตาเขา ถึงเขาจะอ้างว่าผู้หญิงคนนั้นปล่อยให้ท้องเพื่อจะจับเขา แต่หากเขาไม่ยุ่งกับเธอมีหรือจะเกิดเรื่องขึ้นได้ อีกทั้งมีคนพูดกันลับหลังว่าพวกเขาแอบคบกันมานานแล้ว และหากไม่มีผู้หวังดีเล่าให้เธอฟัง เธอก็คงไม่รู้อะไรเลย นานไปหากวันนึงได้แต่งงานกันเธอก็คงจะได้รับตำแหน่งเมียหลวงโดยไม่รู้ตัว
แต่ก็ช่างเถอะต่อไปนี้ก็ทางใครทางมัน ถึงแม้จะเสียทั้งตัวเสียทั้งใจแต่มันก็สายเกินกว่าที่จะแก้ไข อีกทั้งเธอเองก็กำพร้าไร้พ่อแม่ที่จะมาอับอายหากไม่ได้แต่งงาน หากจะมีก็แต่ญาติห่างๆที่ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันซักเท่าไหร่ คงไม่มีใครมาสนใจเรื่องราวในชีวิตเธอหรอก เพื่อนฝูงที่มีก็ไม่มาก หากใครจะถามก็คงไม่น่าอายเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกเท ถึงแม้ว่าการเทครั้งนี้จะทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงมือสองที่เป็นหม้ายขันหมาก จากนี้ก็คงต้องพึ่งงานเป็นยาสมานใจอีกครั้ง ร่างบางปลอบใจตัวเองพร้อมทั้งรีบเช็ดน้ำตาเมื่อพนักงานบนเครื่องเสริฟเครื่องดื่มมาใกล้ถึงที่นั่งของเธอ
”รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ” พนักงานสาวร่างโปร่งในชุดยูนิฟอร์มสวยงามเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ
”ขอเป็น แจ๊คแดเนียลผสมโค้กค่ะ”
เอาวะ!ขอกระแทกดื่มเพื่อลืมเธอซักหน่อยเถอะ มาเทกันในวัยใกล้หลักสี่แบบนี้ เคยนึกบ้างมั้ยว่าชั้นจะหาเนื้อคู่ใหม่ได้ยากแค่ไหน พูดแล้วมันขึ้นจริงๆ *…*
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าร่างกายไม่นานความง่วงก็มาเยือน เธอจึงผลอยหลับไป โดยมารู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อมีมือมาเขย่าตัวและส่งเสียงร้องเรียกอยู่ข้างๆหู
“ฮูหยินรอง!ฮูหยินรอง!ตื่นเถิดเจ้าค่ะ”
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นพร้อมขยับลุกนั่ง แต่ก็ต้องร้องครางออกมาเมื่อสัมผัสกับความเจ็บปวดที่ศรีษะ
“เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้ปวดหัวอย่างนี้ หรือเราจะดื่มหนักเกินเลยแฮงค์”เธอคิดพร้อมกับเงยหน้ามองรอบตัวแล้วก็ต้องนั่งตัวแข็งทื่ออย่างตกตะลึง