บ้านต้องห้ามจริงๆ กลางวันว่าน่ากลัวแล้ว กลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ เป็นไปได้จะไม่เฉียดตัวไปใกล้อีกแล้ว จะไม่ไปแล้ว ไม่อยากรู้อยากเห็น ไม่อยากเจอเจ้าของฟาร์มแล้ว แต่ก็นั่นแหละ มันแปลกทำไมเธอจะอยากเจอเจ้าของฟาร์มเจ้านายโดยตรงไม่ได้ล่ะ
เฮ้อ!
พุดซ้อนถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของเสียงทุ้มต่ำน่ากลัวนั้นคือใคร เพราะไม่กล้าจะหันไปมอง พอมาตอนนี้ก็อยากเห็นเจ้าของน้ำเสียงที่ดังขึ้นข้างแก้มเมื่อคืน ไม่น่าเลย ไม่น่ากลัวจนไม่สนใจอะไร ไม่น่ากลัวจนต้องรีบวิ่งหนีกลับที่พักเลย
“หมอน้องถอนหายใจมีอะไรรึเปล่าครับ” น้ำเสียงทุ้มสุภาพเอ่ยถามขึ้นจากด้านหลัง พลช สัตวแพทย์หนุ่มวัย 30 ปี รุ่นพี่ที่ทำงานที่ฟาร์มแห่งนี้มาแล้วสี่ปี
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่หมอไม้”
“วันนี้พี่จะเข้าไปในเมืองนะ หมอน้องอยากได้อะไรไหม หรือจะไปด้วยกัน” รุ่นพี่เอ่ยถาม
“น้องไปด้วยดีกว่าค่ะ พอดีของที่จะฝากพี่หมอไม้ซื้อให้ไม่ได้” เธอบอกเขายิ้มๆ แล้วสลัดเรื่องที่รบกวนในหัวออกแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงร้อยห้าสิบสามเซนติเมตรของตัวเอง พอยืนขึ้นเทียบกับพลชแล้วก็ต่างกันเหลือเกิน เธอดูแล้วรุ่นพี่น่าจะสูงประมาณร้อยแปดสิบเซนติเมตร
“งั้นพี่เอาของไปเก็บในห้องก่อนนะ และจะเปลี่ยนเสื้อด้วย” พลชเอ่ยบอกรุ่นน้องสาว ในฟาร์มหนึ่งพันสามร้อยไร่แห่งนี้มีแพทย์ประจำฟาร์มทั้งหมด 25 คน แต่ละคนทำงานแยกกันไปอยู่ประจำจุด และเขากับพุดซ้อนนั้นทำงานด้วยกันจึงสนิทกันเป็นพิเศษ
“น้องก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกันค่ะพี่หมอไม้ เพราะชุดนี้เปื้อนขี้หมูตอนไปฉีดยาให้พวกน้องๆ โดนดีดสะบัดขี้ใส่ เหม็นมาก” พูดแล้วก็ก้มลงมองเสื้อตัวเองที่เปื้อน
“อือ...งั้นเจอกันที่รถพี่นะครับ”
“ค่ะพี่” แล้วทั้งสองก็แยกจากกันไปคนละทาง
มุมปากหนาของคนที่อายุพันสามร้อยปียกยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินบทสนทนาของสัตวแพทย์ของตนเอง ก่อนจะหันมาสั่งงานพาทีคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง
“คืนนี้เธอต้องอยู่บนเตียงของฉัน” น้ำเสียงเรียบตึงเอ่ยสั่งงานคนสนิท
“ครับท่าน” พาทีรับคำยิ้มกริ่ม เพราะนานแล้วที่เจ้านายไม่สนใจในสตรีคนไหน แต่กับสัตวแพทย์สาวคนนี้ทำไมถึงต้องการ ถึงอยากรู้เหตุผล แต่ก็ไม่กล้าซักถามผู้เป็นนาย
นาสูรยกยิ้มยกมือขึ้นคลึงกลีบปากตัวเองไปมาเมื่อนึกถึงกลิ่นกายหอมๆ ที่สูดดมเมื่อคืนแล้วก็หลับตาเคลิ้บถึงยามที่เจ้าหล่อนบิดกายดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างยามเขาสอดใส่กระแทกกายเนื้อหนักหน่วงเข้าออกเป็นจังหวะ แค่เพียงคิดถึงเขาก็ร้อนรุ่มขึ้นมาแล้ว และมันก็ทำให้นาสูรอดสงสัยความต้องการตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้รู้สึกอยากแนบกายสัมผัสสัตวแพทย์สาว ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาไม่เคยสนใจพนักงานของตัวเองเลย ยามกระหายกามเขามักจะให้พาทีไปจัดเตรียมสาวๆ จากในเมืองมาให้ตลอด แต่ครั้งนี้เพียงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของหล่อน เขาก็อยากแนบอิงชิดใกล้มากกว่าที่ได้สัมผัสมาเมื่อคืน
หึหึ
พาทีเหลือบตามองเจ้านายที่อยู่ๆ ก็ขำออกมา เขารู้สึกขนลุกหวาดกลัวแทนผู้หญิงคนเมื่อกี้ขึ้นมาทันที ด้วยรู้จักเจ้านายดี ภายใต้ใบหน้าแสนจะเย็นชานั้นมันซุกซ่อนเทพแห่งกามไว้ หากผู้หญิงคนไหนถูกหมายมาดไว้แล้วไม่มีทางจะรอด และถึงขั้นหมดแรงคลานลงจากเตียงเลยทีเดียว
คนที่ไม่รู้อนาคตกำลังหัวเราะคิกคักกับรุ่นพี่ที่แสนจะอบอุ่น บอกได้เลยว่าตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ได้ร่วมงานกัน ทำงานด้วยกัน เธอรู้สึกดีมาก แต่บอกไม่ได้ว่ามากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องไหม พุดซ้อนแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์เมื่อเพื่อนรักโทรมาหา ส่วนพลชก็เดินเลือกซื้อของรอหญิงสาวที่มาด้วย
“ไงแก” ทันทีที่กดรับสายก็ทักปลายสายทันที
“หายเงียบไปเลยนะแก เนี่ยทำงานหรือจีบรุ่นพี่ฮึ” ฟ้าใสเอ่ยแซวมาใส่สาย เพราะเพื่อนรักชอบเล่าเรื่องสัตวแพทย์รุ่นพี่ที่ทำงานคู่กันให้ฟังเป็นปะจำ
“บ้าแก ใครจะจีบ เราแค่พี่น้องกัน ว่าแต่แกเถอะ ที่ฟาร์มแกไม่ยุ่งเหรอถึงโทรมาหาได้วันนี้”
“ไม่อ่ะ ว่างทั้งวัน แล้วแกเถอะ ว่างคุยไหมหรือยุ่งกับวัว ควาย หมู หมา กา ไก่ อยู่”
“ว่าง ออกมาซื้อของกับพี่หมอไม้”
“แหม! ละบอกไม่จีบ แต่มาซื้อของด้วยกันเนี่ยนะ ฉันว่าพี่หมอไม้หน้าตาดีเลยนะ หล่อชะลูดก้นปอดเลยแก” ก็เพื่อนชอบแอบถ่ายรูปส่งมาให้ดูและเธอก็กรี๊ดทุกครั้งที่เห็นรูปที่เพื่อนแอบถ่ายชายหนุ่มส่งมาให้
“ก็ไม่ได้จีบ แค่มาซื้อของ แค่นี้ก่อนนะแก ค่อยคุยกันใหม่ ฉันเกรงใจพี่หมอไม้น่ะ ติดรถพี่เขามา”
“อือ...แล้วค่อยคุยกัน ว่าแต่ไม่จีบแน่นะ ถ้าไม่...ฉันขอนะแก”
“อือ...ไม่จีบ” เธอยืนยันไม่เต็มเสียงพร้อมกดวางสายจากเพื่อนแล้วเดินกลับไปหาคนที่เดินเลือกซื้อของในร้านรอท่าตัวเองอยู่