คุณหญิงและลูกปลาเดินเล่นอยู่บนห้างในเครือของครอบครัว ปกติงานอดิเรกของเธอคือสะสมของแบรนด์เนม เธอจะมีห้องควบคุมอุณหภูมิที่เอาไว้เก็บสมบัติล้ำค่าของเธอ ซื้อไปเพราะว่าชอบและสุดท้ายมันก็สามารถตีเป็นเงินทองได้อยู่ดี ของบางอย่างยิ่งนานยิ่งมีราคาบางชิ้นเธอไม่ใช้เลยด้วยซ้ำแต่ซื้อไว้เพราะชอบแค่นั้น
"ที่ฉันสั่งไว้ได้หรือยัง"
"ของคุณหญิงได้แล้วค่ะ เพิ่งเข้ามาชิ้นเดียวเองดิฉันล็อคไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ จะรับไปเลยมั้ยคะ"
"เอามาเลยจ๊ะอย่าให้รอ"
คุณหญิงยิ้มให้ผู้จัดการร้านก่อนจะเดินดูใบอื่นต่อ โดยที่ลูกปลาทำได้เพียงแค่มองนั้นนี่ตามประสา เพราะเธอไม่มีความสามารถมองให้มันสวย อาจจะเพราะคนระดับเธออยู่ง่ายกินง่ายก็เลยไม่มีความต้องการอยากได้นั่นนี่
"ทำไมไม่เลือกสักใบสองใบล่ะลูก เผื่อเอาไว้ไปไหนจะได้ใช้"
"ลูกปลามีอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าราคาก็หลักพันใช้มานานแล้วค่ะทนมาก แต่เห็นราคาในร้านนี้แล้วลูกปลาขอถอยดีกว่าค่ะ"
เธอมองกระเป๋าหนังของตัวเองก่อนจะมองเทียบกับของในร้าน ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว กระเป๋าร้านนี้ใบหนึ่งตกอยู่หลักแสน แล้วที่คุณหญิงกำลังซื้อใบนั้นหลักล้าน เธอยังไม่ชินกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนรวยระดับมหาเศรษฐี พวกเขาซื้อกระเป๋าในละล้านโดยที่ไม่คิดว่ามันคือเงินจำนวนมาก ถ้าวันหนึ่งเธอมีเงินมากขนาดนี้ก็คงคิดว่าหลักล้านมันคือเศษเงินเหรียญ
"บัตรที่ตาภานุให้นะซื้อไปเลย"
"ไม่เอาเด็ดขาดเลยค่ะ"
ลูกปลารีบส่ายหน้าทันที เธอไม่อยากใช้เงินเขามากมายแบบนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้คงจะซื้อเสื้อผ้าราคาหลักร้อย แต่คงไม่ถึงขั้นใส่เสื้อผ้าหลักหมื่นแบบคนอื่นหรอก เธอรู้ว่าเงินที่พวกเขามีมันมากมายมหาศาลแต่สำหรับเธอที่ทำงานเงินเดือนหมื่นสองหมื่น มันมีค่ามากจริงๆ
"เรานี่นะ ยังไม่ชินอีกเหรอ อนาคตจะเป็นภรรยาเจ้าของห้างดังระดับประเทศ หนูต้องชินกับของพวกนี้นะ ฝึกไว้ลูกปลาเราไม่ได้มีไว้อวดใคร แต่มันคือหน้าตาของการเป็นภรรยาที่เหมาะสม ภานุให้หนูไว้เพราะเวลาหนูไปไหนใครจะไม่ดูถูกเอาได้ อย่ามองความหวังดีแปรเป็นอื่น"
ลูกปลาพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่เธอไม่ได้อยู่ในฐานะภรรยาของคุณภานุ ไม่รู้ว่าเธอจะถูกทิ้งวันไหน การจะยกตัวเองขึ้นไปจุดสูงสุดลืมว่าตัวเองเป็นใคร แล้วถ้าตกลงมาเมื่อไหร่ไม่มีใครเห็นใจหรอก
"ลูกปลาเข้าใจค่ะคุณท่านว่าทุกคนหวังดี แต่ลูกปลาไม่ได้เกิดมามีฐานะร่ำรวย และไม่รู้ว่าคุณภานุจะเบื่อวันไหนด้วย คุณแม่ก็ทราบว่าลูกปลาอยู่ในฐานะอะไร"
คุณหญิงรู้สึกสงสารเด็กสาวมาก เธอมีความคิดว่าตัวเองต่ำกว่าคนอื่นและไม่เคยจะยกตัวเองไปเทียบกับใคร สิ่งเดียวที่ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดได้คือภานุต้องยกย่องลูกปลาเป็นภรรยาออกหน้าออกตา แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเป็นเรื่องราว ถ้าเธอเป็นหญิงสาวคงคิดไม่ตก เพราะผู้ชายก็ไม่ได้ให้ความมั่นใจว่าจะยกย่องเราขึ้นสูง ทุกอย่างในตอนนี้อยู่ที่ลูกชายของเธอเท่านั้นว่าจะทำให้ลูกปลาเชื่อใจในตัวเขามากน้อยขนาดไหน
"หนูอย่าคิดมากสิ ตอนนี้หนูมีแม่ดูแลและอนาคตก็ต้องอุ้มท้องทายาทของอภิศิริกุล ไม่ต้องกังวลนะทุกอย่างมันจะดี อ่อ แม่ให้ช่างทำร้านเบเกอรี่ให้หนูแล้วนะจ๊ะ ซื้อที่ดินแล้วก็สร้างร้านพร้อมกับบ้านเป็นพื้นที่เดียวกัน หนูจะได้เปิดร้านคงอีกไม่นานแล้วล่ะ"
ลูกปลาแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว ทำไมเธอถึงโชคดีมากขนาดนี้ที่ได้มาเจอคนแบบคุณหญิง ท่านให้เธอทุกอย่างในขณะที่เธอทำได้แค่เท่านี้
"ลูกปลาไม่รู้จะพูดอะไรเลยค่ะ"
"แม่บอกแล้วไงว่าหนูตัดสินใจไม่ผิด อีกอย่างเรื่องของตาภานุ หนูอย่าเพิ่งกังวลว่าเขาจะทิ้งหนูวันไหน แม่อยากจะให้หนูทำตัวน่ารักมัดใจสามีให้อยู่หมัด แม่เชื่อว่าภานุไม่มีทางทิ้งหนูแน่นอน ทำได้มั้ย"
คุณหญิงพยายามแนะนำและเรียกความมั่นใจของหญิงสาวให้กลับมา เธอเชื่อว่าตาภานุจะเลือกหนูลูกปลาเป็นภรรยาในอนาคตแน่นอน
"ค่ะ ลูกปลาจะไม่ดื้อ จะไม่ทำตัวให้คุณภาณุรำคาญใจค่ะ"
"หนูเป็นคนเก่ง เป็นคนดี มองโลกในแง่บวก ผู้ชายคนไหนได้ไปก็ไม่มีทางทอดทิ้งแน่นอน ป่ะ แม่พาไปซื้อชุดสวยๆหนูจะได้เอาไว้ออกงานเวลาตาภานุชวนไป"
ลูกปลายิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินตามท่านไปอีกร้าน ตอนนี้เธอจะทำให้คุณภานุรักและพอใจในตัวของเธอตามที่คุณหญิงแนะนำ ทุกอย่างมันคืออนาคตแต่ปัจจุบันเธอจะทำเท่าที่ทำได้
"ไหนมาดูก่อนว่าหนูใส่ชุดไหนสวย"
ลูกปลายืนเป็นตุ๊กตาให้คุณหญิงเลือกชุดให้ลองหลายชุด เป็นที่ถูกใจท่านมากเพราะเด็กสาวรูปร่างหน้าตาสวยอยู่แล้ว ใส่อะไรก็น่ามองไปหมด
ทางด้านของภานุวันนี้เขาเดินตรวจตามปกติ และบังเอิญมาห้างเดียวกันกับที่คุณแม่และลูกปลามาเดินพอดี
"คุณภานุครับ คุณท่านอยู่ห้างนี้ครับ"
"หมายถึง.. แม่ฉันเหรอ"
"ครับ"
ภานุหันไปถามผู้ช่วยของเขาที่กลับมาจากเชียงใหม่ เขาชื่อเชทำงานที่บริษัทตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว
"แล้วอยู่ที่ไหน"
"ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมชั้นสามครับ"
เขาเดินลงบันไดไปหนึ่งชั้นก่อนจะมองหาคุณแม่ของเขา แสดงว่าลูกปลาคงมาด้วย ตอนแรกคิดว่าแม่จะไปเดินห้างอื่นซะอีก
"อยู่ร้านนั้นครับ"
ภานุเดินเข้าไปในร้านก็เจอคุณแม่ของเขากำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ คุณหญิงหันมาเจอลูกชายพอดีก็ยิ้มทักทาย
"มาตรวจห้างเหรอเรานะ"
"ครับแม่แล้วนี่เลือกอะไรเยอะแยะครับ"
"แม่จะซื้อชุดให้หนูลูกปลานะ นั้นไงมาพอดีเลย อร๊าย สวยมาก"
ภานุหันไปมองหญิงสาวก่อนจะชักสีหน้าแววตาไม่พอใจอย่างชัดเจน ลูกปลาในตอนนี้อยู่ในชุดเดรสโชว์แผ่นหลังโชว์ไหล่สวยงามมาก แต่เหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ค่อยชอบผู้หญิงแต่งตัวโป๊จึงมีสีหน้าที่ไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก
"ลูกปลารู้สึกเย็นหลังจังเลยค่ะคุณแม่"
ลูกปลารู้สึกแปลกๆยิ่งถูกภานุมองแบบนั้นด้วยแล้วมันยิ่งขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
"ผมว่าโป๊ไปครับ"
"โป๊ตรงไหน ออกงานใครก็ใส่แบบนี้"
"โป๊ไปครับ"
เขายังยืนยันคำเดิม ลูกปลากอดแขนคุณแม่ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"ลูกปลาว่าเปลี่ยนชุดดีกว่าค่ะ"
"ตามใจแล้วกัน"
หญิงสาวรีบเดินกลับเข้าไปในห้องลองชุด กำลังจะปิดประตูก็ต้องตกใจเมื่อภานุเดินตามเข้ามาด้วย
"อ๊ะ! คุณภานุคะ นี่มันห้องลองชุดนะ"
"ฉันไม่ชอบผู้หญิงแต่งตัวโป๊ อย่าใส่อีก"
ลูกปลาหลบสายตาของชายหนุ่ม ก้มหน้าลงต่ำก่อนจะเอ่ยแก้ตัวเสียงอู้อี้
"คุณแม่เลือกให้นี่นา"
"ไม่ชอบก็ต้องบอก ไม่ใช่ยอมซะทุกอย่าง"
"รู้แล้วค่ะ"
ลูกปลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ภานุรู้สึกว่าตัวเองดุหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแรงไปก็ดึงเธอมากอดแนบอก
"ไปกินไอศครีมมั้ยเดี๋ยวพาไป"
ลูกปลาเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามด้วยความใสซื่อ
"แล้วไม่ทำงานเหรอคะ"
"ก็ไปด้วยกันเนี้ยแหละ ฉันเดินตรวจห้างเฉยๆไม่ได้ทำอะไรมากมาย ไปมั้ย"
ลูกปลายิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าด้วยความดีใจ
"ไปค่ะ ลูกปลาอยากกินบิงชูด้วย"
ภานุลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู ทำไมรู้สึกว่ายิ่งมองเธอยิ่งน่ารักก็ไม่รู้
"อืม รีบเปลี่ยนชุดสิฉันไปรอข้างนอก"
เขาจุ๊บแก้มหญิงสาวจนเธอเขินอายหน้าแดงก่ำ ภานุเดินออกไปจากห้องลองชุดทิ้งให้ลูกปลาเอามือปิดแก้มตัวเองบิดตัวไปมาอยู่ในนั้นคนเดียว
"ทำไมต้องหอมแก้มด้วยเล่า"