เช้าวันต่อมา...
ลูกปลาลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาปกติ เธอหันไปมองชายหนุ่มที่นอนกอดเอวเธออยู่ เมื่อคืนเราสองคนต่อปากต่อคำกันอยู่นานจนเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วเลิกเถียงก็เลยจบลงตรงนั้น
หญิงสาวค่อยๆดึงแขนชายหนุ่มออก ภานุที่รู้สึกตัวก็ดึงหญิงสาวมาไว้ในอ้อมแขนตามเดิม
"จะไปไหน"
หญิงสาวเอาคางวางไว้บนหน้าอกของชายหนุ่มมองเขากระพริบตาปริบๆก่อนจะเอ่ยออกมา
"ไปทำอาหารเช้าค่ะ"
"ให้แม่บ้านทำสิ"
"ลูกปลาบอกคุณแม่แล้วค่ะว่าวันนี้จะทำของอร่อยให้ทาน"
"แต่เธอเพิ่งจะหายดีไม่ใช่เหรอ"
เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย พูดกับคนดื้อมันก็จะเถียงหัวชนฝาแบบนี้แหละ
"หายแล้วค่ะ"
"ตามใจแล้วกัน ขี้เกียจพูดแล้ว"
เขาดึงมือออกจากเอวของหญิงสาวก่อนจะปล่อยให้เธอลุกออกไปโดยไม่รั้งไว้อีก ลูกปลายิ้มกว้างออกมาก่อนจะเอ่ยถามชายหนุ่มเสียงสดใส
"อยากทานอะไรมั้ยคะ"
"อะไรก็ได้"
ลูกปลาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม
"งั้นเดี๋ยวลูกปลาทอดไข่ให้แล้วกันนะคะ"
"มุกใช่มั้ยถามจริง..."
เขาเอ่ยแกมประชดหญิงสาว ลูกปลาหัวเราะออกมาก่อนจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วจะเดินออกไปข้างนอกก็เจอภานุกำลังยืนรอเธออยู่
"กลับห้องได้แล้วค่ะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"
ลูกปลาดันตัวเขาออกไปนอกห้อง ภานุหันมามองเธอก่อนจะดึงเข้าไปจุ๊บแก้มอย่างหมั่นไส้
"อื้อ! อย่าแกล้งลูกปลาสิ"
"เก็บของไปไว้ที่เดิม"
เขาเอ่ยอย่างกดดันหญิงสาว ลูกปลาส่ายหน้าก่อนจะปิดประตูห้องนอนแล้วหันมาคุยกับชายหนุ่ม
"บอกแล้วไงคะว่าให้ไปคุยกับคุณแม่"
"ยัยเด็กแสบ!"
เขาตะโกนไล่หลังหญิงสาวเสียงไม่ดังมากนัก ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะแตกตื่นกันหมด ทำไมลูกปลาถึงไม่เชื่อฟังเขาเลยบอกให้กลับไปนอนที่ห้องก็ไม่ยอมไป
เขาตัดใจเดินกลับเข้าห้องไปโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนแอบเห็นทั้งสองคนออกจากห้องนอนมาด้วยกัน หญิงสาวมาถึงในครัวก็ยิ้มแก้มปริอย่างมีความสุข ทำไมถึงรู้สึกดีแปลกๆก็ไม่รู้
เธอตั้งใจทำของอร่อยให้ทุกคนทานและวันนี้มีของคุณภานุด้วย หลังจากทำเมนูเสร็จเรียบร้อยแม่บ้านก็นำมาเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร
"หนูลูกปลาดีขึ้นแล้วเหรอ ทำไมไม่นอนพักอีกหน่อย"
คุณพ่อเอ่ยทักด้วยความเป็นห่วง เห็นภรรยาบอกเมื่อคืนว่าไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลมา แสดงว่าคงหนักพอสมควร
"ลูกปลาหายแล้วค่ะคุณลุง ทานให้อร่อยนะคะลูกปลาจะไปรดน้ำต้นไม้"
หญิงสาวยิ้มให้ทุกคนก่อนจะหันหลังเดินออกมาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกเสียงหนึ่งเรียกไว้ก่อน
"มานั่งทานข้าวเดี๋ยวนี้ลูกปลา"
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบนี้ทำให้เธอหันกลับมามองเขาอย่างสงสัย คนที่โต๊ะก็รู้สึกเหมือนเช่นกับเธอเพราะโดยปกติภานุจะไม่สนใจว่าเธอจะร่วมโต๊ะอาหารด้วยหรือไม่
"แต่ลูกปลา..."
"มาเถอะลูกมานั่งข้างแม่นี่มะ"
ลูกปลาเดินคอตกมานั่งลงข้างคุณหญิง แม่บ้านตักข้าวต้มให้เธอเพราะเพิ่งฟื้นไข้ควรทานของอ่อนๆก่อน
หญิงสาวตักทานไม่กี่คำก็เขี่ยเล่นไปมา ภานุลอบสังเกตหญิงสาวที่ทานข้าวน้อยมากและไม่ใช่แค่มื้อนี้ เธอทานน้อยแทบทุกมื้อ
"ทานข้าวให้มากกว่านี้"
"แต่ลูกปลาอิ่มแล้วค่ะ"
ลูกปลาเอ่ยเสียงเบาแต่ก็ถูกชายหนุ่มมองด้วยสายตาดุ ลูกปลากลั้นใจทานอาหารอีกจนเกือบหมดเพราะไม่อย่างนั้นจะต้องถูกเขามองกดดันไม่เลิกแบบนี้ มันรู้สึกอึดอัดแปลกๆ
และการกระทำของลูกชายอยู่ในสายตาของผู้เป็นแม่ คุณหญิงรู้สึกว่าลูกชายมีท่าทีแปลกไปตั้งแต่เมื่อวาน มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน
"ทานเยอะๆลูกจะได้ไปกินยา"
"ค่ะคุณแม่"
ลูกปลาฝืนใจทานต่อจนไม่ไหวก็วางช้อนลง ภานุลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกไม่ลืมที่จะลากหญิงสาวให้ตามออกไปด้วย
"อย่าลากลูกปลาสิคะ"
"หัดทานข้าวให้มันเยอะๆหน่อย ผอมอย่างกับไม้เสียบผี"
"ก็ลูกปลาทานเยอะกว่านี้ไม่ได้นี่คะ"
"ยังจะเถียงอีก!"
เขามองเธออย่างเหลือเชื่อ ลูกปลาทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา
"ขอโทษค่ะ ลูกปลาจะพยายามทานให้เยอะขึ้นค่ะ ไปทำงานเถอะค่ะเดี๋ยวสายนะ"
ลูกปลายิ้มกว้างออกมาก่อนจะสะกิดให้ชายหนุ่มเดินออกไปขึ้นรถ เขามองเธอก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
"เอาของไปไว้ที่เดิม เข้าใจที่พูดใช่มั้ย"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ลูกปลามองตามชายหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมา
"ก็คุณแม่ไม่ยอมให้ไปนี่นา"
เธอทำหน้าลำบากใจก่อนจะเดินเข้าไปในสวนเพื่อรดน้ำต้นไม้ คุณหญิงที่เห็นทั้งสองคนมีท่าทีสนิทสนมกันก็รู้สึกแปลกใจในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน พิมเดินเข้ามาหาคุณหญิงก่อนจะกระซิบเสียงเบา
"คุณหญิงคะเมื่อเช้าพิมเห็นคุณภานุออกมาจากห้องนอนของหนูลูกปลาค่ะ ออกมาพร้อมกันเลย"
คุณหญิงหันไปมองพิมอย่างตกใจ และสิ่งที่เธอสงสัยมันเริ่มกระจ่างมาทีละนิดแล้ว
"หมายถึงว่าสองคนนอนด้วยกันเหรอเมื่อคืน"
"ไม่รู้ว่าคุณภาณุไปหาตอนเช้ารึเปล่า แต่ดูจากท่าทางเหมือนจะนอนค้างที่ห้องหนูลูกปลามากกว่า อ่อ หอมแก้มกันด้วยนะคะ"
คุณหญิงตาโตก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มมุมปาก คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ก็คือหนูลูกปลาคนเดียวเท่านั้น เด็กคนนี้ไม่โกหกหรอก
"ฉันจะไปหาหนูลูกปลา"
คุณหญิงรีบเดินไปยังสวนทันที เจอลูกปลากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ท่านเดินไปปิดน้ำก่อนจะดึงแขนเด็กสาวมานั่งลงที่ม้านั่ง
"มีอะไรคะคุณแม่"
"ไหนบอกแม่มาสิว่าหนูกับตาภานุมีความสัมพันธ์กันถึงขั้นไหนแล้ว"
ลูกปลากลืนน้ำลายดังอึก มองคุณหญิงด้วยสีหน้าที่ลำบากใจไม่รู้ว่าจะพูดดีรึเปล่า ท่านก็ลุ้นหนักมากว่าหญิงสาวจะตอบแบบไหน ขอให้สิ่งที่เธอคิดเป็นจริงสักที
"ลูกปลาพูดได้เหรอคะ"
"ได้สิพูดมาเลย"
"คือลูกปลากับคุณภาณุ..."
หญิงสาวอึกอักไม่กล้าพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกไปต่อหน้าผู้ใหญ่ คุณหญิงพอดูออกว่าหญิงสาวค่อนข้างเขินอายก็เลยพูดออกมาแทน
"นอนด้วยกันแล้วใช่มั้ย"
ลูกปลามองคุณหญิงก่อนจะพยักหน้าอย่างเขินอาย
"ค่ะ ลูกปลาขอโทษนะคะ"
เธอรีบยกมือไหว้เพื่อขอโทษท่าน คุณหญิงถึงกับยิ้มแก้มปริดีดดิ้นไปมาอย่างตื่นเต้นแทนหญิงสาวตรงหน้า
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก"
"วันที่ลูกปลาไปมหาวิทยาลัยค่ะ เราสองคน..."
"อร๊ายยย ขอโทษทำไมกันหนูทำดีมากเลยลูก แม่ก็ว่าทำไมตาภานุถึงได้โวยวายตอนที่หาหนูไม่เจอ เป็นแบบนี้นี่เอง"
เธอยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก็ว่าทำไมสองวันมานี้ลูกชายของเธอมีท่าทีที่แปลกไป ให้หนูลูกปลาย้ายออกจากห้องออกมาก็ทำเหมือนไม่พอใจ เป็นอย่างนี้นี่เอง
"แล้วคุณภาณุสั่งให้ลูกปลาเอาเสื้อผ้ากลับไปไว้ที่ห้องของเขาเหมือนเดิมด้วยค่ะ แต่ลูกปลาบอกว่าคุณแม่ไม่ให้ลูกปลาไปนอนแล้ว"
"แม่จัดการเอง แบบนี้หนูก็จะท้องแล้วนะสิ ตายแล้วแม่ต้องให้ป้าพิมต้มยาบำรุงร่างกายให้หนูเยอะๆเลยจะได้แข็งแรง ไม่ต้องทำงานบ้านแล้วนะแม่ไม่อนุญาตแล้ว ไปนอนพักผ่อนเดี๋ยวนี้เลย"
คุณหญิงดึงแขนลูกปลาให้ลุกขึ้นก่อนจะพาขึ้นไปในห้องเพื่อนอนพักผ่อน และเธอต้องดื่มน้ำสมุนไพรบำรุงร่างกายของตัวเอง ไม่รู้ว่าท่านไปสรรหามาจากไหนเยอะแยะ...
"ลูกปลาต้องกินเหรอคะ"
"ต้องกินจ๊ะหนูจะได้ท้องไวๆไงลูก"
ลูกปลายิ้มแห้งก่อนจะดื่มน้ำสมุนไพรที่ป้าพิมต้มมาให้ด้วยความจำใจ ขมมากที่สุดในโลกเลยแต่ก็ไม่กล้าขัดใจผู้ใหญ่เลยต้องอดทนกลืนมันลงไป