หลังจากทานของหวานเสร็จภานุก็พาหญิงสาวมาซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ยังไงเธอก็ต้องได้ใช้อยู่แล้วซื้อเก็บไว้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เขาพาเธอมานั่งตรงโซฟาก่อนจะมองหารองเท้าแบรนด์เดียวกับที่เขาใส่ เพราะมันนุ่มและสบายที่สุด
"ลองคู่นี้ครับ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวหาไซส์ให้นะคะ"
พนักงานเดินไปหาไซส์ที่ตรงกับเท้าของลูกปลา เธอนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วรอให้พนักงานหยิบมาให้ ชายหนุ่มมองเธอสวมใส่ก่อนจะพิจารณาว่ามันเหมาะกับหญิงสาวมากน้อยขนาดไหน
"คู่นี้เหมือนของคุณภาณุเลยค่ะ"
ลูกปลายิ้มกว้างออกมาก่อนจะก้มมองเท้าตัวเองสลับกับเท้าของเขา ภานุเดินมานั่งยองๆลงตรงหน้าเธอก่อนจะเอ่ยถาม
"ชอบรึเปล่า"
"ค่ะ ใส่สบายดีนุ่มมาก"
"งั้นเอาคู่นี้นะ"
ลูกปลาพยักหน้าอย่างไม่เรื่องมาก เธอใส่คู่ไหนก็ได้ถ้าชายหนุ่มมองว่ามันไม่ดีเขาไม่ซื้อใส่หรอก ภานุเอาอีกข้างออกมาจากกล่องก่อนจะจับข้อเท้าเธอมาสวมให้เหมือนกันทั้งสองข้าง ลูกปลารีบดึงเท้าตัวเองกลับเพราะเขาอายุมากกว่าเธอเกรงว่าคนอื่นมองแล้วมันไม่เหมาะสม
"อ๊ะ! ลูกปลาใส่เองค่ะ"
"ไม่เป็นไรฉันใส่ให้"
"แต่มันไม่เหมาะสมนะคะ คุณภานุเป็นเจ้าของห้างนะทำแบบนี้คนอื่นจะมองไม่ดีนะคะ"
ภานุรัดสายข้อเท้าให้เธอเสร็จก็เงยหน้ามองหญิงสาวด้วยความสงสัย ทำไมเขาจะทำแบบนี้ไม่ได้ มันแปลกตรงไหนกัน
"ใส่รองเท้าให้เมียนี่มันแปลกตรงไหน..."
ลูกปลาถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเขาเรียกเธอเมียเต็มปากด้วยสีหน้าเรียบเฉย ภานุลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงหญิงสาวให้ลุกขึ้นตาม
"เดินสบายใช่มั้ยไม่เปลี่ยนไซส์นะ"
"ค่ะ"
เธอเบือนหน้าหลบสายตาของชายหนุ่ม ยังรู้สึกเขินกับคำพูดของเขาเมื่อครู่อยู่เลย พนักงานในนั้นต่างพากันมองในสิ่งที่เขาทำ ไม่คิดจะรักษาภาพพจน์ของตัวเองหน่อยหรือไง
"ไปเถอะจ่ายเงินแล้ว"
เขาส่งบัตรให้พนักงานแปบเดียวก็เสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนกุมมือกันเดินออกไปจากร้านก่อนจะเดินออกไปยังหน้าห้างเพื่อขึ้นรถไปอีกสาขาหนึ่ง
ตลอดทางลูกปลาก็ถามนั้นนี่ เธอมีความสงสัยในการทำงานของเขาอยู่ตลอด แถมยังชวนคุยเรื่องอื่นจนเขาตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เอาจริงๆลูกปลาเป็นเด็กขี้สงสัยและพูดเยอะมากต่างจากเขาที่ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่อาจจะเพราะเวลาของเขามันมีค่าการพูดอะไรให้รัดกุมและละเอียดที่สุดมันทำให้ไม่เสียเวลา พอมาอยู่กับเด็กพูดมากเขาค่อนข้างจะปวดหัวแต่ก็ไม่ได้รำคาญ
"ทำไมเราพูดเยอะจัง"
"ก็ลูกปลาชอบคุยนี่นา คุณแม่ยังบอกว่าลูกปลาคุยสนุกเลย"
หญิงสาวเอ่ยอย่างภาคภูมิใจในความพูดมากของตัวเอง ชายหนุ่มไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมแม่ของเขาถึงชอบเด็กคนนี้ คงคุยกันถูกคอไปเรื่อยเปื่อยและมีความชอบหลายอย่างที่เข้ากันได้
"คุณภานุครับที่สั่งให้ผมไปเอามาได้แล้วนะครับ อยู่ตรงเบาะนั่งข้างหลัง"
เชที่นั่งอยู่หน้าเขาเอ่ยขึ้น ภานุหันหลังไปหยิบถุงใบเล็กออกมาก่อนจะเปิดออกแล้วส่งไปให้ลูกปลาที่มองเขาอยู่เช่นกัน
"อะไรคะ"
"โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด ฉันซื้อให้เธอใหม่พร้อมกับเบอร์มงคล เปลี่ยนด้วยเวลาฉันโทรหาจะได้ติดต่อกันได้"
ลูกปลารับโทรศัพท์จากมือของเขามาดูก่อนจะตาโตเมื่อมันคือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ท่าทางจะแพงน่าดูแต่เธอก็มีโทรศัพท์อยู่แล้วนี่นาทำไมต้องซื้อให้อีก
"ลูกปลามีโทรศัพท์อยู่แล้วนะคะ ไม่เห็นต้องซื้อให้ใหม่เลย"
"เบอร์นี้ฉันไปประมูลมาราคาเป็นแสน แต่ไม่ได้ใช้ก็เลยยกให้เธอ อีกอย่างเอาไว้ตามตัวเธอไงเผื่อหนีเที่ยวจะได้แอบโกหกไม่ได้"
ลูกปลาถึงกับพูดไม่ออก อึ้งตั้งแต่เบอร์ราคาแพงแล้วแถมยังให้ใช้โทรศัพท์เพราะจะตามตัวเธออีก ทำไมรู้สึกไม่ส่วนตัวเลยเนี้ย
"แกล้งพูดใช่มั้ยคะเนี้ย"
"ล้อเล่นน่า ให้ก็รับไปเถอะ เปลี่ยนเบอร์ด้วยนะแล้วมีไอดีของตัวเองรึเปล่า"
ลูกปลากดเปิดโทรศัพท์มันถูกเซตเครื่องมาเรียบร้อยแถมซิมยังมีอินเตอร์เน็ตพร้อมใช้งานอีก เธอต้องวุ่นวายย้ายข้อมูลแถมยังต้องไปธนาคารทำเรื่องเปลี่ยนเบอร์อีกวุ่นวายไปหมด แต่ก็ต้องทำไม่อย่างนั้นจะโดนเขาดุว่าเรื่องมากอีก
"มีค่ะ งั้นลูกปลาใส่เลยนะ"
"อืม ใส่เลย แล้วแอดไลน์มาหาหน่อยฉันยังไม่มีโซเชียลของเธอเลยซักอย่าง"
"ลูกปลาไม่ค่อยเล่นหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวแอดไลน์ไว้ค่ะ"
ภานุลูบผมหญิงสาวมองเธอกดย้ายข้อมูลนั้นนี่ ใช้เวลาไม่นานเพราะอินเทอร์เน็ตที่เขาทำให้ค่อนข้างแพงและเร็วมาก จึงไม่ต้องรอการดาวน์โหลดอะไรนานมากนัก
"แล้วลูกปลาต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตยังไงคะ"
"จ่ายเป็นรายปีให้แล้ว ใช้ไปเถอะ"
"ขอบคุณค่ะคุณภานุคนใจดี"
ลูกปลายกมือไหว้ชายหนุ่มแนบอกก่อนจะหันไปสนใจของดีตรงหน้าต่อ รุ่นที่เธอใช้มันเป็นรุ่นเก่าที่ซื้อนานแล้วแต่พอเปลี่ยนใหม่มันจะงงๆหน่อยแต่ว่าไม่ยากที่จะใช้งาน แปบเดียวเธอก็คล่องแล้ว
"ถึงแล้วลงมาได้ล่ะ"
ภานุยื่นมือไปให้หญิงสาวจับไว้ ทั้งสองคนเดินลงมาจากรถหน้าห้างก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นของออฟฟิศเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของสาขา
ผู้จัดการสาขาและพนักงานคนอื่นรีบออกมาต้อนรับท่านประธานตรงบริเวณทางเข้า ภานุยกมือไหว้ทักทายทุกคนอย่างน้อยเขาอายุเด็กกว่าหลายคนในนี้และเขาถูกสอนมาให้อ่อนน้อมกับผู้ใหญ่กว่า จึงเป็นที่รักของทุกคนไม่ยากเลย
"สวัสดีครับท่านประธาน ยินดีมากเลยที่วันนี้ท่านมาตรวจสาขาด้วยตัวเอง"
"สวัสดีครับ วันนี้ผมว่างนะ เดือนหน้าอย่าลืมไปที่สาขาเชียงใหม่ด้วยนะ"
"คุณเชแจ้งมาผ่านหนังสือแล้วครับ ยังไงผมจะล่วงหน้าไปก่อนสักสองสามวัน"
"ดีครับ ยังไงเจอกันที่นั้นเลย แล้วเป็นยังไงบ้างครับยอดขายสาขาของเดือนนี้ ทะลุเป้าที่วางไว้หรือยัง"
ตลอดทางที่เขาคุยกับผู้จัดการสาขา ชายหนุ่มไม่ลืมที่จะพาลูกปลาเดินเคียงข้างไปด้วย เขาหันมาสนใจหญิงสาวอยู่เสมอกลัวว่าเธอจะรู้สึกเขินที่ต้องมีคนเดินตามมากมายขนาดนี้
"อยากนั่งพักมั้ย"
"ไม่ค่ะลูกปลาเดินไหว คุณภานุทำงานเลยค่ะ"
ลูกปลาเอ่ยออมาอย่างรู้งาน เธอสัญญากับคุณท่านไว้แล้วว่าจะไม่ทำให้คุณภานุรำคาญใจ เธอจะเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ยิ่งดูเขาตั้งใจทำงานขนาดนี้เธอว่ามันเพลินตาดีออก
"เชช่วยไปซื้อน้ำส้มคั้นให้ผมหน่อย"
"ได้ครับ"
เขาสั่งผู้ช่วยให้ไปซื้อน้ำมาให้หญิงสาว กลัวว่าเดินเยอะแล้วเธอจะเหนื่อย ลูกปลามองนั้นนี่อย่างตื่นตา เธอไม่เคยรู้หรอกว่าระบบงานของห้างมันเป็นอย่างไร เพราะเธอไม่เคยทำงานห้างใหญ่แบบนี้ แต่วันนี้มันทำให้เธอได้เปิดโลกกว้างขึ้นเยอะเลย งานที่คุณภานุทำค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เขาเก่งมากนะจำได้ทุกรายละเอียดเลย
"เดือนนี้จัดอีเวนท์ให้เยอะที่สุดเลยนะ เห็นว่าทางไอทีอยากจะจัดกันทุกวัน"
"ใช่ครับ แต่คงต้องแบ่งวันให้ เพราะไม่งั้นจะชนกันมันจะดูงงๆไปหมด"
"ผู้จัดการก็จัดการได้เลย แบ่งเป็นเดือนให้แต่ละโซนก็ได้ อ่อ รถไฟฟ้าผมเซ็นเบิกให้แล้วนะสามคัน น่าจะพอใช่มั้ย"
"พอแล้วครับ ที่นี่มีสองคันแล้ว ห้างเรามีห้าชั้นเพิ่มมาอีกสามก็พอดี เอาไว้บริการลูกค้าที่เดินไม่ไหวเพราะห้างนี้เดินเป็นวงกลม ผมเกรงว่าบางคนอายุมากแล้วจะเดินไม่ทั่ว"
ภานุพยักหน้าอย่างพอใจ ยอมรับว่าผู้จัดการสาขานี้เขาเป็นคนเก่งมีแนวคิดที่ดีกว่าบางสาขา ห้างนี้ถือว่าทำยอดดีที่สุดติดอันดับหนึ่งในห้า เชส่งแก้วน้ำส้มไปให้เจ้านาย ภานุรับมาก่อนจะยื่นส่งต่อไปให้หญิงสาวที่ยืนอ่านบอร์ดอยู่
"ลูกปลาดื่มน้ำส้มคั้นก่อน"
หญิงสาวหันมาก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณชายหนุ่มแล้วรับแก้วมา เธอกำลังหิวน้ำอยู่พอดีเลย ลูกปลากำลังจะดูดหลอดแต่ว่าไม่เห็นมีแก้วของเขาก็เลยยังไม่กินแล้วเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างสงสัย
"ของคุณภานุล่ะคะ"
"ไม่ได้ซื้อ ฉันให้เชซื้อให้เธอคนเดียว"
"คุณภานุพูดเยอะกว่าลูกปลาอีก งั้นเรากินด้วยกันมั้ยคะ ลูกปลาให้คุณภานุกินก่อนเลย"
หญิงสาวยืนแก้วไปตรงหน้าชายหนุ่ม เขาอมยิ้มก่อนจะดูดน้ำส้มของเธอเพียงนิดเดียวเท่านั้น
"พอแล้วเรานะกินเถอะ"
เขาลูบผมลูกปลาก่อนจะโอบเอวเธอให้เดินเคียงข้างไปด้วยกัน คนที่เดินตามมาเหมือนจะพอเดาออกแล้วว่าผู้หญิงที่เดินมาด้วยนั้นเป็นใครทุกคนจึงต้องเกรงใจเธอเป็นพิเศษทั้งๆที่ลูกปลานอบน้อมถ่อมตนกับคนอื่นมาก ที่ทุกคนมองออกเพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่จนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มไม่ละสายตาจากเด็กคนนี้เลย พูดเรื่องงานแต่สายตามองเด็กสาวตลอด
"น้ำส้มอร่อยจังเลยค่ะ"
"อร่อยก็กินเยอะๆ เดี๋ยวเย็นนี้จะพาไปทานของอร่อย"
"สัญญาแล้วนะคะ"
"อืม สัญญา"