ตอนที่ 14/2 'คมเขี้ยวของคนน้อง'

4187 Words
แต่แล้วบรรยากาศดีๆ ชวนให้จิตใจสงบก็ถูกทำลายด้วยเสียงหวีดแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งและตามมาด้วยอีกสองสามเสียงน่ารำคาญหู นิมมานโผล่หน้าออกมาจากหลุมหลบภัยอย่างสนอกสนใจ จ้องมองไปทางต้นตอของเสียงพวกนั้น ขณะที่ไตรวิชญ์ดวงตาดำมืดด้วยโทสะคุกรุ่น คิ้วเข้มขมวดแน่น รังสีไอเย็นแผ่ออกมาบาง ๆ อย่างข่มกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ “มีคนทะเลาะกันนี่ พวกเราไปดูกันเถอะ” มือเล็กเรียวเขย่าไหล่คนพี่พลางดันตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรงพลางดิ้นขลุกขลักจะลงจากตักแกร่ง แต่อัลฟ่าหน้าดุกลับกอดแน่นไม่ยอมปล่อยตัวไป แถมยังคำรามเสียงต่ำในลำคอเป็นเชิงขู่ให้นั่งนิ่ง ๆ “ไม่ต้องยุ่งเรื่องคนอื่น” “แต่ดุด่ากันเสียงดังแบบนี้จะไม่เป็นอะไรเหรอ” “จะเสือกเรื่องคนอื่นทำไม มึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” น้ำเสียงหงุดหงิดเจือปนไม่พอใจดังขึ้น ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวตวัดมองไปยังต้นเสียงที่ยังฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดไม่หยุด ไอ้เด็กมะลินี่ก็อยากจะไปดูเหตุการณ์ตรงนั้นให้ได้จนชักจะรำคาญแล้ว “มึงอยากถูกจับโยนลงน้ำเย็น ๆ ตอนนี้ไหม ดิ้นทำซากอะไร!” “ก็นิมจะไปดูนี่! ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยสักทีเล่า!” คนพี่ตวาดมาเสียงดังเท่าไหร่ คนน้องก็ตะโกนเสียงดังกลับไปเท่านั้น มีคนจะฆ่ากันตายอยู่รอมร่อ อัลฟ่าเถื่อนเสียงโหดคนนี้ก็ยังไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ใจดำอำมหิตมาก ทำไมถึงไม่เห็นใจคนอื่นบ้าง “มึงอยากไปก็ไป แต่กูจะไม่เข้าไปช่วยถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมึง” “ก็เอาสิ นิมไม่ง้อเฮียหรอก จำไว้เลย” นิมมานแยกเขี้ยวยิงฟันเสร็จก็ปีนลงจากตักไตรวิชญ์ พอยืนทรงตัวได้ก็รีบวิ่งลิ่วไปยังที่เกิดเหตุ ทำเอาใบหน้าคมคายหล่อเหลาดำทะมึนเหมือนพายุฝนกำลังตั้งเค้า นัยน์ตาดุดันแข็งกร้าววาวโรจน์ลุกโชนด้วยเปลวไฟโหมแรง ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงกำยำยกมือขึ้นเสยผมพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับอารมณ์ฉุนเฉียวแล้วลุกขึ้นยืนเดินตามร่างบอบบางของเจ้าก้อนกลมดุ๊กดิ๊ก ซึ่งกระตือรือร้นจะยุ่งเรื่องชาวบ้านชาวช่องโดยลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่โอเมก้า ถ้าบังเอิญไปเจอเข้ากับพวกเขาอัลฟ่าจะต่อกรได้ยังไง แต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากเห็นว่าสิ่งที่นิมมานได้เรียนรู้ไปจากเขาจะเอามาปรับใช้กับสถานการณ์จริงอย่างไร หวังว่าพอถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นสู้ นิมมานจะเข้มแข็งพอรับมือคนอื่น เพราะเขาคงปกป้องมันทุกที่ทุกเวลาไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้คู่ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ไม่มีใครรู้ว่าในภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ในสงครามของเหล่าอัลฟ่าที่ต้องการช่วงชิงตำแหน่งผู้นำจ่าฝูง มีทั้งความโหดเหี้ยมและการทารุณ อาจมีคนมากมายต้องตายเพื่อการแย่งชิงอำนาจในครั้งนี้ ทางฝั่งนิมมานที่เพิ่งเดิมมาถึงสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ได้ทะเล่อทะล่าเข้าไปอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ เขาแอบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ที่บังมิดตัวโผล่แต่ลูกตาสองข้างออกมาดูความวุ่นวายตรงหน้าเท่านั้น เห็นผู้หญิงสามคนกำลังรุมทึ้งผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ส่วนเจ้าของเสียงแว้ด ๆ แสบแก้วหูก็ผลักไหล่โอเมก้าคนนั้นด้วยสีหน้ารังเกียจ “ฉันไม่นับลูกเมียน้อยอย่างแกเป็นพี่หรอก โอเมก้าชั้นต่ำไร้ค่าอย่างแกไม่น่าเกิดมาในวงศ์ตระกูลฉันให้ต้องอับอายขายหน้าคนอื่นเลย! แกกับแม่แกทำให้แม่ของฉันต้องเสียใจ ฉันไม่จบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่!” “พี่ขอโทษ ถึงแพรวจะไม่นับว่าพี่เป็นพี่ แต่พี่ก็ถือว่าแพรวเป็นน้องถึงได้มาเตือน อย่าไปยุ่งกับคนไม่ดีพวกนั้นเลยนะ พี่ขอเถอะ มันไม่จริงใจกับแพรว” “ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน แกอยากเจอดีนักหรือไง ถึงตามวุ่นวายป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวฉันให้รำคาญตา! แค่เห็นหน้าแกฉันก็อยากอาเจียนแล้ว แกเป็นลูกคุณพ่อจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย บางทีแม่ของแกอาจจะสำส่อนมั่วผู้ชายแล้วดันเกิดท้องโต ถึงต้องหอบแกมาหาคุณพ่อเพื่อให้รับเป็นพ่อเด็กก็ได้ ดีเอ็นเอก็ไม่เคยตรวจ แม่แกก็ดีแต่ร่านใช้ร่างกายยั่วยวนจนพ่อฉันหลงหัวปักหัวปำ” “มันจะมากเกินไปแล้วนะแพรว ด่าพี่พี่ยังพอทนได้ แต่นี่ลามปามไปถึงแม่พี่ พี่ยกโทษให้ไม่ได้ ขอโทษแม่พี่มาเดี๋ยวนี้เลย!” “ฉันไม่ขอโทษ! ก็แม่แกมันร่าน! โอเมก้าอย่างพวกแกทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ดีแต่ใช้ร่างกายยั่วยวนพวกอัลฟ่าแลกกับเงิน” “โอเมก้าไม่ได้เป็นเหมือนกันหมด แพรวก็รู้ว่าแม่พี่มาก่อนแม่ของแพรว แม่แพรวมาที่หลังแต่ได้จดทะเบียนสมรสก็ไม่ได้หมายความว่าพี่เป็นลูกเมียน้อย!” นิมมานฟังถึงตรงนี้ก็ถึงบางอ้อเข้าใจทุกอย่างชัดเจนแล้ว วินาทีถัดมาก็รู้สึกจุกเพราะคำด่าทอของผู้หญิงคนนั้นที่เหมารวมให้โอเมก้าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด ในสายตาผู้คนรอบข้างมองว่าพวกเขาใช้กลิ่นฟีโรโมนล่อลวงให้พวกอัลฟ่าหลงใหลเพื่อหลอกเอาเงินก้อนใหญ่มาใช้จ่ายกินอยู่อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องลำบากทำงาน แต่พวกอัลฟ่าหัวสูงจะรู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาบ้าง คนพวกนั้นไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วยความหวาดระแวงในทุก ๆ วัน ต่อให้ต่อสู้เก่งมีทักษะเอาตัวรอดมากแค่ไหน แต่ถ้าโดนฝูงอัลฟ่ารุมทึ้งก็หมดทางหนีอยู่ดี อัลฟ่ากับโอเมก้าแตกต่างกันในเรื่องของขนาดตัวและพละกำลัง ถ้าไม่มีศิลปะป้องกันตัวที่เหนือชั้นกว่าก็ยากจะเอาชนะได้ ไหนจะกลิ่นที่สามารถใช้กดดันพวกเขาได้อีก อย่างตอนที่ไตรวิชญ์โกรธก็ชอบเผลอปล่อยกลิ่นอายคุกคามออกมาจนรู้สึกถึงแรงกดดันหนักอึ้ง คล้ายกับมีเงาชั่วร้ายกำลังยื่นมือมาบีบรัดคอพวกเขาไว้ ที่มากกว่าความทรมานก็คือความกลัวเมื่อถูกนักล่าหมายหัวเข้า ผู้หญิงสามคนนี้เป็นอัลฟ่าปีหนึ่งจากคลาส A รุ่นเดียวกับเขา สังเกตจากริมขอบสีแดงระบุชั้นปีตรงกระเป๋าเสื้อสูทสีเทาและตัวอักษรสีทองที่ปักไว้ตรงปกเสื้อเชิ้ต ขณะที่โอเมก้าชายคนนั้นอยู่ชั้นปีเดียวกันแต่ตรงปกเสื้อกลับปักตัวบีไว้ว่ามาจากคลาส B ทั้งที่เป็นพี่น้องพ่อเดียวกันระดับชั้นกลับต่างกัน เพียงเพราะผู้ชายคนนี้เป็นลูกนอกสมรสที่ดันเกิดก่อน ทว่าไม่ได้รับการยอมรับจากทุกคน มหาวิทยาลัยแห่งนี้ออกกฎข้อบังคับให้นักศึกษาทั้งหมดใส่ชุดยูนิฟอร์มที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยแบ่งระดับตั้งแต่คลาส S A B C ตามลำดับ โดยระบุไว้บนปกเสื้ออย่างชัดเจน ส่วนชั้นปีให้ดูจากขอบกระเป๋ากับริมขอบปกเสื้อสูท สีแดงแทนปีหนึ่ง สีส้มปีสอง สีม่วงปีสาม และสีเขียวปีสี่ โดยเสื้อเชิ้ตด้านในมีให้เลือกใส่แค่สามสีเท่านั้น สีดำ สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน ดูเหมือนพวกเขาจะเพิ่งกลับมาจากข้างนอกแล้วก็แอบมาคุยกันลับ ๆ ที่นี่เพื่อไม่ให้ใครรู้เห็นสินะ ส่วนที่เขาสงสัยก็คือมีคนนอกรู้ไหมว่า โอเมก้าคนนี้เป็นพี่น้องกับคนชื่อแพรว เพราะระดับคลาสมันต่างกันหนึ่งขั้น ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหว จากที่เขาศึกษาข้อมูลมาพบว่าคลาส B กับ C ไม่ต่างกันมากนัก โดยใช้หลักเกณฑ์เรื่องการประกอบธุรกิจหรือดูจากกิจการของครอบครัวรวม ๆ เพื่อจัดสรรให้นักศึกษาคนนั้น ๆ ได้อยู่ในคลาสที่เหมาะสม สิทธิประโยชน์ของแต่ละคลาสก็จะแตกต่างกันไป คลาส A มีอยู่ไม่มากจึงทำตัวเยี่ยงราชาคอยข่มพวกคลาสต่ำกว่าอย่างสะใจ และถึงเขาจะเพิ่งได้มาสัมผัสกับบรรยากาศที่นี่ครั้งแรกก็มองออกว่าอะไรเป็นอะไร เงินคือตัวตัดสินว่าใครจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายวางท่าดุจนางพญาและใครจะได้ใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงทาสคอยถูกพวกที่แข็งแกร่งกว่ากดขี่ข่มเหง หาเรื่องชวนทะเลาะไม่เว้นวาย ดวงหน้าเรียวเล็กน่ารักย่นหัวคิ้วเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจผู้หญิงสามคนนี้ ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าที่ไม่ถูกชะตากับโอเมก้า แต่เป็นนิสัยใจคอมากกว่า มิหนำซ้ำทุกคำที่พ่นออกมายังหยาบคายเหมือนคนขาดการศึกษา ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเหมือนกับอีกฝ่ายต่ำต้อยกว่าทั้งที่ก็เป็นพี่น้องกันทางสายเลือด มีพ่อบังเกิดเกล้าคนเดียวกัน แพรวามองเพลินตาด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์เหมือนกับมองของสกปรกโสมมที่ไม่น่าเข้าใกล้ เธอเกลียดพวกโอเมก้าที่ชอบเร่ขายตัวให้อัลฟ่ารวย ๆ เพื่อเอาเงินมายกฐานะต้อยต่ำของตัวเอง ทำเป็นเชิดหน้าชูคอ อยากมายืนบนสังคมเดียวกับเธอ โดยเฉพาะแม่ของมันที่ตอนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังเดียวกับพวกเธอ ทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทองงอมืองอเท้าไม่ทำอะไร กลางคืนก็แอบย่องเข้าห้องคุณพ่อที่รักหลงมันจนโงหัวไม่ขึ้น ตั้งแต่ที่พวกมันโผล่หัวมาอ้างสิทธิ์ความเป็นเมียและลูกของคุณพ่อ แม่ของเธอก็ไม่มีความสุขอีกเลย บ้านหลังนี้ถูกพวกมันสองแม่ลูกยึดครองไปหมดแล้ว! “ฉันเกลียดแก แม่แกมันแพศยา ผ่านผู้ชายมากี่ร้อยคนแล้วยังกล้ามาทวงสิทธิ์อะไรอีก! ถ้าพวกแกไม่โผล่มาฉันก็คงไม่ต้องทนใช้อากาศหายใจร่วมกับพวกแก ทั้งที่ขยะแขยงแทบอ้วกเวลาเห็นหน้า!!” “แกจะไปเสียเวลาพูดกับพวกไร้ค่าทำไม จัดการมันไปเลยสิ” “ใช่แล้วยายแพรว พวกฉันอยากกลับห้องแล้ว ฉันเหนื่อยมาทั้งวัน แกจะตบจะตีจะสั่งสอนมันก็รีบๆ เข้า ฉันจะช่วยแกอีกแรงเอง” “ถ้าอย่างนั้นพวกแกสองคนก็ไปจับมันไว้ ฉันจะตบสั่งสอนมันให้รู้จักเจียมตัวซะบ้าง จะได้เลิกทำตัวตีเสมอฉัน แกเป็นใคร และฉันเป็นใคร ลูกนอกสมรสอย่างแกอย่ามาเทียบชั้นกับฉัน! ไปจับตัวมันสิ พวกแกมัวยืนบื้ออะไรเนี่ย!” “แพรว! แบบนี้มันเกินไปหน่อยแล้วนะ ไม่ยอมรับพี่ก็ช่าง แต่ถึงขั้นทจะทำร้ายร่างกายกัน พี่คงต้องตอบโต้กลับ” “แล้วแต่แกเลย ถ้ามีปัญหาสู้พวกฉันได้! จับมันไว้!” “แกนี่ลีลาจริง ๆ ฉันนึกว่าจะไม่ได้ออกแรงก่อนนอนแล้ว” ผู้หญิงหน้าแหลมมัดแกะสองข้างแต่งหน้าจัดเดินเข้าไปหาโอเมก้าคนนั้น อีกฝ่ายก็ตั้งท่าพร้อมสู้กลับ แต่ติดตรงที่คู่กรณีเป็นอัลฟ่าทั้งหมด โอเมก้าแรงมดจะไปงัดข้อกับคนแรงช้างได้ยังไง ถึงจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ถ้าอยู่ในชนชั้นอัลฟ่าก็มีแรงเยอะเทียบเท่ากับเบต้าชาย คิ้วเรียวโก่งสวยมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะถอนหายใจยาวพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ถ้าเขาไม่ออกไปช่วยโอเมก้าคนนี้ได้โดนรุมทึ้งตัวถลอกปอกเปิกแน่ แล้วทันทีที่นิมมานตัดสินใจจะช่วยเหลืออีกฝ่ายก็กระโดดเข้าไปขวางคว้าจับมือที่เหวี่ยงมาจะฟาดหน้าไว้แล้วผลักกลับไป “เป็นพี่น้องกันคุยกันดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย” “กรี๊ดดด! แกเป็นใคร โผล่เข้ามาเสือกเรื่องของฉันทำไม!” เสียงแหลมปี๊ดตวาดแหวลั่นตีหน้ายักษ์เอาเรื่องเขา นิมมานกะพริบตาปริบ ๆ คลี่ยิ้มอ่อนส่งให้ นี่เสียงคนหรือนกหวีด กรีดร้องทีทำหูแทบดับแน่ะ “แค่คนที่ผ่านทางมาแล้วบังเอิญได้ยินเสียงอีกาตัวดำจิตใจต่ำทรามร้องเลยเดินมาดู อีกาสามตัวนี้หน้าตาขี้เหร่ไม่พอ ยังชอบเหยียดใส่คนอื่นเพราะถือว่าตัวเองบินอยู่สูงกว่า แต่แท้จริงแล้วก็ไม่ได้สูงส่งสักเท่าไหร่” “นี่แกกำลังด่าพวกฉันอยู่งั้นเหรอ! พวกโอเมก้าชั้นต่อย่างพวกแกกล้าดียังไงมาพูดจาแบบนี้กับฉัน!!” “โอ๊ย! พวกคุณอย่าตะโกนเสียงดังสิ ผมยิ่งใจบางตกใจง่ายอยู่ด้วย แล้วเกิดเป็นโอเมก้ามันผิดตรงไหน ไปแบมือขอตังค์บ้านคุณกินใช้หรือไง ถึงได้เจ็บแค้นเคืองโกรธเหมารวมว่าพวกเราเหมือนกันหมด และโอเมก้าก็ไม่ใช่พวกชั้นต่ำ อย่างนี้ถ้าคุณอารัญได้ยินคำพูดนี้เข้าจะว่ายังไง พวกคุณน่าจะรู้จักคุณอารัญที่อยู่คลาส S นะ” นิมมานยังคงทำหน้าตาใสซื่อฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีกหน่อย ดวงตาดำขลับเปล่งประกายสดใส แต่กลับแฝงแววบางอย่างที่อันตรายไว้ ซึ่งพวกเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรถึงได้รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาวูบหนึ่ง แพรวาเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง จิกตามองโอเมก้าอวดดีตรงหน้าที่จู่ ๆ ก็เข้ามาขัดขวางพวกเธอจากการสั่งสอนเพลินตา โอเมก้าชั้นต่ำที่พยายามจะให้ใครต่อใครให้คนอื่นรู้ว่าเป็นพี่ชายเธอ ซึ่งเธอไม่เคยมองมันเป็นพี่ชายเลยสักครั้งเดียว “ฉันจะรู้จักหรือไม่รู้จักแล้วยังไง โอเมก้าร่าน ๆ ดีแต่ส่ายตูดล่อผู้ชายอย่างแกกล้ามากที่คิดจะมีเรื่องกับฉัน แกเป็นเพื่อนมันใช่ไหม อยากออกโรงปกป้อง ก็ได้ ฉันจะได้เล่นงานพวกแกสองคนพร้อมกันไปเลย ตัวเสนียดอย่างพวกแกจะได้ไสหัวออกไปจากที่นี่สักที!” คราวนี้นิมมานเงียบไม่พูดอะไรสักคำ เพียงมองดูผู้หญิงสามคนที่เดินเข้ามารุมล้อมหน้าล้อมหลังพวกเขาสองคนไว้พลางแสยะยิ้มร้ายเหมือนกับมั่นใจว่าข่มให้พวกเขากลัวได้ แต่พวกเธอเข้าใจผิดถนัด ที่เขาเงียบก็เพื่อทำให้อีกฝ่ายตายใจ พอย่ามใจก็จะระวังตัวน้อยลง และทันทีที่แพรวาพุ่งตัวมาจะเล่นงานเขา เท้าซ้ายก็ยกขึ้นเตรียมจะถีบ ถ้าไม่ติดว่าโอเมก้าอีกคนเอาตัวมาขวางไว้ ผู้หญิงน่าโมโหนี่โดนเขาถีบกระเด็นไปแล้ว เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือตอนกระทบแก้มดังพอสมควร นิมมานเพียงแค่ชะงักไปชั่วครู่ก็หันไปรับมือกับผู้หญิงอีกสองคนที่เหลือ เขาพอจะเดาออกว่าทำไมคนคนนี้ถึงเข้ามาขวางไว้ ไม่ใช่เพราะกลัวคนนอกอย่างเขาจะโดนทำร้าย แต่ห่วงใยน้องสาวคนนี้จนไม่ต้องการเห็นคนอื่นทำร้ายเธอเลยยอมเจ็บตัวแทนเขาซะเอง พลั่ก! ตุ้บ!! “กรี๊ดดดด!!” เสียงดังแปดหลอดของผู้หญิงสองคนที่โดนเขาผลักคนหนึ่งและถีบท้องอีกคนหนึ่งจนล้มไปกองกับพื้นคู่กัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำร้ายผู้หญิง แต่พูดให้ถูกก็คือเขาป้องกันตัวจากอัลฟ่าหญิงสองคนที่กำลังจะรุมเล่นงานเขา เมื่อเป็นการป้องกันตัวจะหาว่าเขาทำผิดต่อพวกเธอไม่ได้หรอกนะ ถึงแรงผลักกับถีบจะไม่มากนักแต่ล้มไปอย่างนั้นก็คงจะจุกอยู่เหมือนกัน ปล่อยให้นั่งกองอยู่ตรงนั้นสักครู่ สองพี่น้องคู่นี้จะได้เคลียร์ปัญหากัน ทว่ามันคงจะยากเกินไปเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลือกจะเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน พอแพรวาจะยกมือตบอีกครั้ง นิมมานก็ทนไม่ไหวก็ก้าวไปคว้าข้อมือเธอไว้แล้วบีบเต็มแรง ท่ามกลางสีหน้าตกใจพี่ชายเธอที่มองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เหมือนจะไม่พอใจที่เขาทำร้ายน้องสาวตัวเอง “จะหาว่าเสือกก็ได้นะ แต่ทนมองอยู่เฉย ๆ ไม่ได้จริงๆ มีน้องสาวที่ไหนตบหน้าพี่ชาย จะต่ำทรามแค่ไหนก็ควรมีขอบเขต ถ้าเตือนกันดี ๆ แล้วไม่ฟังก็ต้องใช้กำลัง แล้วฝ่ายที่เริ่มก่อนก็ไม่ใช่ผมด้วย ถึงมีความผิดก็คงไม่มากเท่ากับน้องคุณ” “โอ๊ย! นี่แกปล่อยฉันนะ อย่าเอามือสกปรกๆ ของแกมาแตะต้องตัวฉัน!!” แพรวาพยายามจะสะบัดข้อมือให้หลุดจากมือที่กำแน่นของอีกฝ่ายพลางใช้อีกมือข่วนหลังมือขาวจนเลือดออกซิบ ๆ “อยากแตะตายแหละ ว่าแต่คนอื่นเขาสกปรก ตัวเธอต่างหากที่สกปรกทั้งกายใจ ทั้งคำพูดและการกระทำ น่าเกลียดยิ่งกว่าโอเมก้าอย่างพวกเราซะอีก!” นิมมานสะบัดมืออีกฝ่ายทิ้งด้วยท่าทีรังเกียจไม่แพ้กัน อยู่ตรงนี้นานๆ แล้วเขารู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียน อัลฟ่าที่ทำตัวสูงส่งเหมือนอยู่เหนือคนอื่นอย่างเธอกลับมีจิตใจหยาบช้า แสดงกิริยาต่ำ ๆ เหมือนคนไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนมาก่อน ต่อให้ร่ำรวยมีเงินทองมากแค่ไหนก็ทำใจมองหน้าไม่ไหว “อย่าเอาพวกฉันไปเปรียบกับแก พวกฉันสูงส่งกว่าแกเยอะ! โอเมก้าร่านๆ อย่างแกก็ดีแต่อ้าขาให้อัลฟ่ารวยๆ เอา หลอกเงินไปเท่าไหร่แล้วล่ะ ถึงส่งตัวเองมาเรียนที่นี่ได้ หรือว่ามีตาแก่หน้าโง่ที่ไหนส่งเสียเลี้ยงดูแกอยู่ ท่าทางจะมีเขาอยู่บนหัวถึงดูไม่ออกว่ากำลังถูกแกปอกลอกอยู่!” “ฉันเพิ่งรู้ว่าพวกคลาส A อย่างเธอมีสิทธิ์มาเผยอปากด่าพวกเราคลาส S ด้วย ใจกล้าไม่เบา ตระกูลของเธอคงสูงส่งมากจนหาเรื่องกับใครก็ได้ อยากจะลองท้าทายกับฉันดูสักตั้งไหม ถ้าครอบครัวเธอไม่ล้มละลายไม่เลิกรา” น้ำเสียงเย็นยะเยียบเหมือนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือมาพร้อมกลิ่นอายคุกคามน่ากลัว การปรากฏตัวของไตรวิชญ์ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้หนักอึ้งเป็นสิบเท่า อย่าว่าแต่โอเมก้าสองคนที่รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก อัลฟ่าหญิงอีกสามคนก็มีสีหน้าทรมานเพราะรับรู้ถึงแรงกดดันที่ส่งผ่านมาจากกระแสความโกรธจัดพุ่งตรงเล่นงานพวกเธอ แพรวาถึงกับหน้าซีดเผลอถอยหลังไปหลายก้าว ทันทีที่เห็นว่าเจ้าของเสียงอำมหิตเลือดเย็นนี่คือใคร ทั้งร่างก็ราวกับถูกผลักตกจากที่สูง หัวใจหล่นวูบไปกองอยู่ที่พื้น ใครบ้างที่ไม่รู้จักไตรวิชญ์ ทายาทของหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนี้ แต่ถ้าจะพูดถึงชื่อเสียงของเขาที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจริง ๆ ก็ต้องเป็นความน่ากลัวในโลกเบื้องหลังของเขาซึ่งห่างไกลจากคำว่าคนดี “พะ…พวกเราทำอะไรผิด พวกเราไม่ได้ไปหาเรื่องคุณเลยนะ ไตรวิชญ์” “ใช่ เธอไม่ได้หาเรื่องฉัน แต่หาเรื่องเมียฉัน คิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอลอยนวล จำใส่สมองที่มีอยู่น้อยนิดของเธอให้ดีว่าคนที่กำลังมีเรื่องด้วยคือคนของฉัน และฉันจะเรียกค่าตอบแทนความโง่ของเธอในครั้งนี้อย่าง สาสม!” ไตรวิชญ์ตวัดดวงตาแดงก่ำดำมืดเพราะโกรธจัดไปมองยังโอเมก้าตัวดี ทำเอาคนถูกจ้องสะดุ้งสุดตัวอยากจะมุดรูหนีลงใต้ดิน และคล้ายกับจะเห็นแววขู่เข็ญในดวงตาดุดันเปี่ยมโทสะของคนพี่ นิมมานก็ขยับก้าวขาไปทีละเล็กละน้อยไปหาร่างสูงใหญ่แผ่รังสีดำทะมึนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “หาเรื่องจนได้เรื่อง สมน้ำหน้า” อุ้งมือใหญ่กุมมือคนตัวบางให้เข้ามายืนใกล้ ๆ พลางคว้ามือข้างที่มีรอยข่วนจนได้เลือดขึ้นมาดู เพียงชั่วพริบตาบรรยากาศก็ทวีความหนาวเย็นเหมือนถูกแช่แข็งไว้ในช่องฟรีซ เลือดในกายพลันแข็งตัว ลมหายใจถูกกลั้นไว้ด้วยความกลัว มีบางคนทนรับแรงกดดันมหาศาลนี้ไม่ไหวถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยทีเดียว ส่วนนิมมานก็ไม่กล้าพูดจาต่อล้อต่อเถียงเพราะสัมผัสได้ถึงโทสะ คุกรุ่นในใจ ความร้อนจากฝ่ามือที่กุมมือเขาไว้ทำให้รู้สึกดีมาก แต่กลิ่นอายอันตรายที่ถูกปล่อยออกมาช่างน่าสะพรึงกลัว เหมือนสัตว์ป่าตัวใหญ่จ้องจะครุบเหยื่ออ่อนแอ เพียงใช้กรงเล็บตะปบทีเดียวก็เอาชีวิตไม่รอดแล้ว “ถ้าตระกูลเธอสูงส่งนัก ฉันนี่แหละจะกระชากลงมาให้ดูเอง!” ไตรวิชญ์พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็ลากตัวคนอวดเก่งให้เดินตามมา โดยมีเสียงหวีดร้องอ้อนวอนอยู่ข้างหลังดังแว่วมาเรื่อย ๆ จนนิมมานสงสัยเลยต้องหันกลับไปดู ท่าทางแบบนั้นไม่เหลือเค้าของคุณหนูผู้เย่อหยิ่งอีกต่อไป มีแต่ความกลัวที่ส่งมายังคนข้างกายเขาเท่านั้น ราวกับว่าชีวิตของเธออยู่ใน กำมือไตรวิชญ์ คนที่จะตัดสินอนาคตของเธอหลังจากนี้ยังไงยังงั้น เขาก็พอรู้นะว่าคนพี่น่ากลัวมาก แต่นึกไม่ถึงว่าจะทำให้คนรอบข้างหวาดกลัวตัวสั่นได้มากขนาดนี้ “ทำดีมาก กูขอชื่นชมมึงจากใจเลย แต่จะดีกว่านี้ถ้ามึงไม่เอาแผลติดตัวกลับมาด้วย” เสียงทุ้มเข้มดังลอดไรฟัน พยายามระงับความเดือดดาลไว้ไม่ให้จับตัวคนน้องมาเขย่าแรง ๆ “เฮียเห็นแล้วทำไมไม่เข้ามาช่วยกันบ้างล่ะ นิมโดนรุมสามต่อหนึ่งเลยนะ เลือดออกซิบๆ เลย เจ็บมาก” นิมมานทำปากคว่ำตาวาวเหมือนคนจะร้องไห้ ขณะลอบมองซ้ายขวาดูว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม พอทางสะดวกก็ยื่นหลังมือที่โดนข่วนแทบจะติดหน้าอีกฝ่ายพร้อมเบียดตัวเข้าหาอย่างออดอ้อนออเซาะ ต้องทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ คนโหดเถื่อนจะได้เลิกตีหน้ายักษ์ใส่สักที “กูบอกแล้วว่าจะไม่ช่วย มึงเสือกเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเองทำไม ต่อไปกูสั่งห้ามมึงเด็ดขาด ห้ามไปยุ่งวุ่นวายกับคนอื่นหรือเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อันตรายอีก หรือถ้าใครมาหาเรื่องมึงก็ให้รีบวิ่งหนีออกมา ไม่ต้องไปสู้ให้เจ็บตัว” “แล้วถ้าหนีไม่ได้ล่ะ” “หาทางยื้อเวลาให้นานที่สุด แล้วกูจะตามไปช่วยมึงออกมาเอง ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหนก็จะไม่ทิ้งมึงให้เผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง ต่อให้รอนานแค่ไหนมึงก็ห้ามถอดใจคิดว่ากูจะไม่ช่วยเหลือมึงเด็ดขาด” ฝ่ามือใหญ่กุมมือเรียวบางแน่นขึ้น ดวงตาคู่คมทอแววอ่อนโยนเล็กน้อยจับจ้องรอยเล็บข่วนบนหลังมือขาวจัด สีแดงของเลือดตัดสีผิวของนิมมานชัดเจนยิ่งทำให้ดูเด่นสะดุดตา กรามแกร่งขบแน่นสะกดกลั้นความโกรธจัดไว้ ถึงบาดแผลจะเล็กมากเหมือนถูกแมวข่วน แต่ไตรวิชญ์ก็ไม่ชอบใจอยู่ดีเวลาที่เห็นคนของตัวเองมีแผลบนร่างกาย “วันนี้มึงเก่งมาก อย่างน้อยก็ไม่เสียแรงที่เคี่ยวเข็ญมึงเช้าเย็นมาเกือบเดือน” “นิมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แถมยังทำตัวแย่ๆ ถีบผู้หญิงอีก” นิมมานยู่ปากรู้สึกผิดนิด ๆ ที่ทำร้ายผู้หญิง “จะผู้หญิงผู้ชาย ถ้าคิดจะทำร้ายเราก็ต้องสู้กลับถูกต้องแล้ว อย่ายืนเซ่อปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว และถ้าจะให้ดีก็คือมึงไม่ไปแส่หาเรื่องเจ็บตัวเพราะคนอื่นอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้าคราวหน้าไม่ฟังจับขังลืมในห้องปิดตายแน่!” ไตรวิชญ์ยื่นคำขาดไม่เหลือหนทางรอดให้นิมมานได้เถียงกลับไปแม้แต่คำเดียว เด็กหนุ่มหน้าสวยเบะปากย่นจมูกอย่างหมั่นไส้ เขาแค่หวังดีออกไปช่วยคนแปลกหน้าให้รอดพ้นจากการถูกรุมทำร้าย ไม่ได้ไปแส่หาเรื่องเหมือนกับที่ถูกกล่าวหาสักหน่อย ทำดีแล้วยังจะถูกดุอีก ไม่เข้าใจโลกมนุษย์เลยจริง ๆ ว่าทำไมมันถึงอยู่ยากขึ้นทุกวัน เป็นคนดีก็ผิดด้วย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD