บทที่ 10 ขอย้ายมาประจำที่บ้านเกิด

1619 Words
เมื่อตู้เซียงเหมยกลับเข้าไปอาบน้ำ พ่อตู้จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเปล่า ทำไมอาเหมยต้องเข้าไปอาบน้ำ “เกิดเรื่องเล็กน้อย พ่อไม่ต้องเป็นกังวล อาเหมยเอาอยู่” จากนั้น พี่ใหญ่ตู้จึงเป็นตัวแทนเล่นเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อกับแม่ฟัง โดยเว้นเรื่องการค้าไว้เพราะต้องการให้น้องสาวมาบอกเอง หลังจากที่แม่ตู้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจึงตบเข่าด้วยความโมโห “ถ้าแม่เป็นอาเหมยนะ แม่จะเล่นงานหนักยิ่งกว่านั้นอีก กล้าดียังไงลูกเขยยังไม่ทันจะหย่ากับอาเหมย แต่กลับวิ่งโร่มาเสนอตัวถึงบ้าน ถ้าเกิดลูกเขยอย่างหยวนต้าเล่นด้วย แม่จะประจานและแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าทั้งสองคนคบชู้กันก่อนจะหย่า อาเหมยรับไม่ได้จึงหอบลูกน้อยกลับมาบ้านด้วยความช้ำใจ ทีนี้คอยดูเถอะว่าจะยังมีหน้ามีตากล้ารับราชการทหารอีกไหม นังผู้หญิงคนนั้นจะกล้าเดินลอยหน้าลอยตาในหมู่บ้านอีกหรือเปล่า” แม่ตู้พูดด้วยความแค้นใจลูกสาวของเธอยังไม่ทันหย่าสามี กลับมีหญิงสาวใจกล้ามาเสนอตัวเสียแล้ว และยังมาหาเรื่องลูกสาวเธออีก มันน่ากระชากผมมาตบสักหลายฉาด สามคนพ่อลูกได้แต่มองตากันปริบ ๆ ทำไมตั้งแต่น้องสาวคนเล็กของบ้านหอบหลานตัวน้อยกลับมา แม่ของพวกเขาจึงกลายร่างเป็นแม่เสือแบบนี้ เมื่อมองหน้ากันแล้วไม่มีคำตอบจึงได้แต่นั่งกลืนน้ำลายลงคอและนั่งฟังแม่ตู้ด่าแม่เฒ่าเหวินต่อไปจนตู้เซียงเหมยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว จึงได้เข้าบ้านไปคุยเรื่องสำคัญกันต่อ โรงพยาบาลในค่ายทหาร “แน่ใจแล้วเหรอว่าจะกลับบ้านสภาพนี้ นายยังอาการไม่ดีเลยนะ” นายพลกวนเอ่ยถามผู้ใต้บังคับบัญชา “จริงด้วยผู้พันเหวิน ฉันว่านายพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายอีกสักพักดีกว่าไหม บ้านนายไม่หนีไปไหนหรอก” นายพลโจสหายของนายพลกวนที่ออกไปทำภารกิจด้วยกันครั้งนี้เอ่ยอย่างเป็นห่วงเช่นกัน “ตอนนี้ร่างกายผมพอจะฟื้นตัวแล้ว ผมขอกลับไปรักษาตัวที่บ้านต่อดีกว่าครับ อีกทั้งภรรยาผมคลอดลูกมาหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ผมคิดถึงลูกครับ” เหวินหยวนต้าตอบไปตามความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง “อะไรกันพี่หยวนต้ามีภรรยาแล้วเหรอ” หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อได้ยินว่าคนที่ตัวเองหมายปองมีภรรยาแล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ผมมีภรรยาแล้วผิดกฎหมายข้อไหน หรือว่าผิดกฎกองทัพ” เหวินหยวนต้าก็ยังเป็นเหวินหยวนต้า บุรุษผู้เย็นชาและไม่สนโลก ถ้าหากตู้เซียงเหมยมาเห็นภาพนี้เธอคงจะเข้าใจว่าเธอไม่ใช่คนเดียวที่สามีเย็นชาใส่ “พี่ก็รู้ว่าฉันคิดยังไงกับพี่ เมียบ้านนอกพี่จะดีกว่าลูกสาวนายพลแบบฉันได้ยังไง” “รู้ แต่ไม่สนใจ เมียผมคนบ้านนอกก็จริง ผมเองก็คนบ้านนอก หากคนบ้านนอกมันน่ารังเกียจ ท่านนายพลกวนช่วยย้ายผมกลับไปที่ค่ายทหารบ้านเกิดผมด้วย ถ้าหากย้ายไม่ได้ผมจะได้เขียนใบลาออก” เหวินหยวนต้าพูดเหมือนเรื่องปกติ ‘แล้วยังไง ย้ายให้ไม่ได้ก็ลาออก แค่นั้น’ “หา!” สองนายพลได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนที่นายพลกวนจะตวัดสายตาไปมองลูกสาวด้วยความไม่ชอบใจ แม้ว่าผู้พันเหวินจะเป็นคนดีและมีอนาคตไกล แต่ฐานะทางบ้านย่ำแย่อีกทั้งมีลูกและภรรยาแล้ว ไม่วางมองด้านไหนจึงไม่คู่ควรกับลูกสาวเขาเลย “นายกลับไปพักฟื้นร่างกายที่บ้านก่อนก็แล้วกัน เรื่องย้ายฉันจะแจ้งทีหลัง อย่าลืมนายเป็นถึงผู้พัน การย้ายไปประจำที่อื่นมันยุ่งยากและใช้เวลามากกว่าพลทหาร หรือนายทหารยศต่ำกว่า” “ครับท่าน ขอบคุณมากครับที่ส่งเสริม” เหวินหยวนต้ากล่าวขอบคุณ ก่อนจะเบือนกลับหน้าเก็บของต่อโดยไม่สนใจว่าผู้บังคับบัญชาทั้งสองคนจะทำสีหน้าอย่างไร “นายจะเดินทางกลับบ้านวันไหน” นายพลกวนเอ่ยถาม “พรุ่งนี้ครับ รถประจำตำแหน่งที่ผมใช้ กุญแจผมฝากเจ้าหน้าที่ไปแล้วนะครับ” แม้ว่าจะเป็นการลาแต่รถคันนี้เป็นของกองทัพ แม้ว่าเขาจะได้ย้ายแต่การเอาของติดตัวไปด้วยไม่ใช่เรื่องดี “แม้ว่านายจะย้าย แต่ตำแหน่งงานของนายยังคงเหมือนเดิมนายขับรถคันนั้นกลับบ้านเถอะ ถ้าขับไม่ไหว ให้พลทหารขับกลับไปให้ แล้วค่อยให้เขานั่งรถไฟกลับมา เมื่อย้ายได้แล้วนายจะได้ไม่ต้องทำเรื่องขอรถคันไหม” นายพลกวนคิดว่าเอารถคันนี้ไปก็ดี เพราะอย่างไรก็ต้องทำเรื่องขอใหม่อยู่แล้ว อีกทั้งพื้นที่บ้านเกิดของผู้พันเหวินในความดูแลของสหายรุ่นน้องของเขา เหวินหยวนต้าใช้เวลาคิดไม่นานจึงตอบตกลง จากนั้นจึงเก็บของต่อโดยไม่สนใจ เพียงแค่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อคิดว่าจะได้กลับไปเจอหน้าลูกสาว ส่วนภรรยาไม่มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบมองผู้หญิงที่หน้าตาสวย แต่พอนึกถึงเรื่องที่เธอทำกับเขา เขาชอบไม่ลงเหมือนกัน แต่ในเมื่อเป็นสามีภรรยากันแล้ว ต่อให้เธอร้ายกาจแค่ไหนเขาไม่เคยคิดที่จะนอกใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หวังว่าย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในบ้านเกิดครั้งนี้ทั้งเขาและภรรยาคงจะต้องคุยและปรับตัวเพื่อเรียนรู้กันและกันเสียที กลับมาที่บ้านตู้ เมื่อตู้เซียงเหมยจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเรียกทุกคนเข้ามาในบ้านและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง “แล้วเราจะทำได้เหรออาเหมย แม้ว่าแม่จะเคยทำสบู่ใช้เอง แต่มันจะขายได้เหรอ” แม่ตู้เอ่ยอย่างกังวล “ได้สิ ฉันพอจะมีแหล่งซื้อวัตถุดิบ และวันนี้ฉันซื้อมาแล้ว ต้นทุนซื้อมาแค่สามสิบหยวน แต่เราขายได้สี่ร้อยหยวนแม่และทุกคนคิดว่าคุ้มไหม แต่ว่าเราอาจจะเหนื่อยหน่อย พอจัดร้านเสร็จก็ต้องไปขายของอีก ฉันจึงคิดว่าอยากจะหาซื้อบ้านในอำเภอ แต่กลัวทุกคนไม่เห็นด้วย อีกอย่างฉันจำได้ว่าฝีมือการปักผ้าของแม่นั้นไม่เป็นสองรองใคร พี่ซือถงรับซื้อเหมือนกันฉันถามมาแล้ว พอว่างจากทำสบู่แม่จะได้ไม่เหงาไง แต่ก็แล้วแต่ทุกคนนะ ส่วนบ้านในหมู่บ้าน ในเมื่อเป็นที่ดินของบรรพบุรุษเราก็เก็บไว้เหมือนเดิม หรือไม่ก็สร้างหลังเล็ก ๆ ไว้ เผื่อว่าวันไหนจะกลับมานอนที่นี่ ทุกคนว่ายังไง อีกอย่างพวกเราเก็บเงินไม่นานก็สามารถหาซื้อบ้านหลังขนาดกลางอยู่ได้แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันทำอะไรเกินตัว แต่ฉันอยากมีสังคมที่ดีให้กับลี่ลี่ หากอยู่เห็นหน้าบ้านเหวินทุกวันฉันอกแตกตายพอดี แม้ว่าฉันประกาศว่าจะหย่ากับพี่หยวนต้า แต่ทุกคนก็รู้ว่าฉันรักเขามากแค่ไหน และถ้าต้องเห็นเขาและภรรยาใหม่พลอดรักกัน ใจฉันคงทนไม่ได้” เมื่อเห็นว่าพ่อและแม่มีสีหน้าลังเลไม่อยากทิ้งที่นี่ไปอยู่ในอำเภอ เธอจึงเอาปมของร่างเดิมมาเป็นข้ออ้าง สำหรับเธอนั้นใครจะพลอดรักกันก็ช่างหัวสิ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ให้นี่นา สองสามีภรรยาเห็นว่าลูกสาวพูดเรื่องสามีและว่าที่ภรรยาใหม่สีหน้านั้นสลดลงไม่น้อย ด้วยความเป็นพ่อแม่ที่รักลูก จึงตอบตกลงโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว “ตกลงลูก เรามาช่วยกันทำงานเก็บเงิน และหาซื้อบ้านย้ายไปอยู่ในอำเภอกันเถอะ หากวันใดคิดถึงบ้านเราค่อยกลับมาค้างสักคืน เรื่องนี้พ่อเห็นด้วย” พ่อตู้ไม่ได้มีความรู้สึกกับคนในหมู่บ้านนี้มากสักเท่าไร เพราะครอบครัวตู้ของเขานั้นจนจึงไม่ค่อยมีใครคบหาด้วย “แม่ก็ตกลง เรามาร่วมด้วยช่วยกันนะ ขอแค่ลูกทั้งสามของแม่ และลี่ลี่หลานสาวตัวน้อยมีความสุข อะไรแม่ก็ยอมทั้งนั้น” แม่ตู้ยิ้มให้ลูกทั้งสามคน ลี่ลี่เมื่อได้ยินว่ายายจ๋าเรียกเธอเด็กน้อยจึงตีมือแปะ ๆ แต่ไม่ใช่ตีมือตัวเองนะ ตีตรงขาลุงรองเพราะแขนข้างหนึ่งต้องค้ำยันไว้กลัวว่าตัวเองจะเอียงซ้ายเอียงขวาแล้วหน้าทิ่ม “ลี่ลี่ จะปรบมือหนูต้องใช้มือสองข้างประกบกันแบบนี้ ไม่ใช่มาตีที่ขาลุง” ตู้เหรินหนานจึงอุ้มเด็กน้อยมานั่งตรงหว่างขาเพื่อให้หลังของหลานสาวพิงมาที่ตัวเขา ก่อนจะจับมือทั้งสองข้างประกบและตีเข้าหากันเบา ๆ เด็กน้อยชอบใจหัวเราะลั่น แต่พอลุงรองของเธอหยุดสอน เด็กน้อยพยายามเอียงคอมอง และส่งเสียงประมาณว่าหยุดทำไม “แอ๊ ๆ ๆ” แต่ละคนมองภาพลุงกับหลานด้วยรอยยิ้ม หวังว่าบรรยากาศดี ๆ แบบนี้จะอยู่ไปตลอด ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน ขอเพียงบ้านตู้มีความสุขและเสียงหัวเราะตลอดไปก็พอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD