บทที่ 11 ภัยกำลังมาเยือน

1551 Words
ตู้เซียงเหมยเดินเข้ามาในครัวเพื่อจะทำอาหาร วันนี้เธอหยิบอาหารเสริมของของลี่ลี่ออกมาด้วย เธอหยิบของหลายอย่างออกมาจากตะกร้า เมื่อเช้าข้าวสารและแป้งยังพอมีอยู่เธอจึงไม่ได้เอาออกมาเยอะเพราะกลัวจะถูกสงสัย จากนั้นจึงเอาเครื่องปรุงต่าง ๆ ออกมาใส่ไหใบเล็กไว้และเขียนกระดาษแปะไว้ว่าคืออะไรบ้าง เผื่อว่าแม่ทำอาหารจะได้รู้ หญิงสาวหยิบเนื้อหมูออกมา จากความทรงจำบ้านตู้จะกินเนื้อหมูแบบนี้น้อยครั้งมาก ถ้าพี่ใหญ่และพี่รองไม่เข้าป่าล่าสัตว์ ยากที่จะได้กิน ไม่เช่นนั้นต้องรอตอนแบ่งอาหารอย่างเดียว เมื่อเอาของทุกอย่างออกมาจากตะกร้าครบแล้วรวมทั้งอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำสบู่ เธอตั้งใจว่าจะทำพรุ่งนี้ จากนั้นจึงได้ลงมือทำอาหาร “มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” ตู้เปียวซวนหลังจากที่เล่นกับหลานตัวน้อยจึงเดินเข้ามาในครัว เพื่อจะดูว่ามีอะไรให้เขาช่วยได้บ้าง “ไม่เป็นไรพี่ใหญ่ ฉันทำได้ ถ้าให้ดี เอาอาหารของหนูน้อยไปป้อนให้หลานหน่อยได้ไหม ฉันจะได้ทำอาหารต่อ นี่ก็เที่ยงแล้ว” “ป้อนอาหารลี่ลี่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่บ้านเรากินเพียงสองมื้อเท่านั้นนะอาเหมย” ตู้เปียวซวนขมวดคิ้ว เรื่องป้อนอาหารหลานไม่ใช่เรื่องใหญ่ เด็กน้อยควรจะกินอาหารให้ครบมื้อ แต่ผู้ใหญ่แบบพวกเขาเคยกินกันเพียงแค่สองมื้อเท่านั้น ตอนทำงานในแปลงนาจึงจะกินสามมื้อ คือมื้อเช้าพอ รองท้อง และมื้อเที่ยงคือมื้อหนัก และมื้อเย็นอีกเล็กน้อย แต่ตอนนี้ไม่ได้ใช้แรงงานมากและไม่จำเป็นต้องกินถึงสามมื้อไหม “ต้องกินอาหารให้ครบทั้งสามมื้อ และต่อไปจะเป็นเช่นนี้ตลอด พี่อย่าลืมว่าบ้านเราไม่ได้มีเงินเพียงไม่กี่สิบหยวนเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ เราสามารถกินอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่ ร่างกายจึงจะได้แข็งแรง พี่ไม่อยากอยู่กับลูกกับหลานไปนาน ๆ เหรอ” ตู้เซียงเหมยหันหน้ามายิ้มให้พี่ชายและอธิบายเรื่องประโยชน์ของการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ ตู้เปียวซวนแม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่น้องสาวพูดแต่ชายหนุ่มยังคงพยักหน้าด้วยความเต็มใจ “พี่ถามเราหน่อยสิ เล่นงานหลานสาวแม่เฒ่าเหวินขนาดนั้น ไม่กลัวบ้านนั้นจะมาเอาเรื่องเหรอ” สาเหตุที่ถามไม่ใช่เพราะกลัว แต่อยากรู้ว่าน้องสาวของเขานั้นตั้งรับยังไง “ไม่เลยพี่ใหญ่ ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ตั้งมากมายว่าฉันไม่ใช่คนที่เริ่มก่อน แต่เป็นผู้หญิงคนนั้นมากกว่าที่พูดจาไม่ดีใส่ฉันก่อนนะ และที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเรื่องเชื่อฉันสิ มีเรื่องแน่ ๆ” ตู้เซียงเหมยยังคงพูดติดตลก ถ้าหากบ้านนั้นไม่มาหาเรื่องสิจะแปลกมาก “เอาเถอะ ยังไงพี่ก็ต้องช่วยเราอยู่แล้ว ก็เราน้องพี่นี่นา” ตู้เปียวซวนขยี้หัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู เขาลืมได้อย่างไรว่าเมื่อก่อนตู้เซียงเหมยนั้นเป็นอย่างไร “ลูกไม่ต้องหรอกเจ้าใหญ่ หากบ้านนั้นมาหาเรื่องจริง ๆ แม่คนนี้จะออกหน้าเอง ลูกเป็นผู้ชาย จะโดนชาวบ้านมองไม่ดี” แม่ตู้เดินเข้ามาได้ยินในสิ่งที่ลูก ๆ ทั้งสองพูดคุยกันจึงเอ่ยขึ้น ลองให้บ้านเหวินมาหาเรื่องสิ อย่าคิดว่ามีมือมีเท้าคนเดียว เธอก็มีเหมือนกัน “แม่เอาจริงเหรอ แม่กลายร่างเป็นแม่เสือแล้ว ลำบากพ่อแล้วละพี่ใหญ่” ตู้เซียงเหมยอบอุ่นในหัวใจ แต่ก็ยังพูดแหย่แม่ให้หัวเราะ “ทะเล้นใหญ่แล้วนะ ตาแก่นั่นจะลำบากอะไร แล้วมีอะไรให้แม่ช่วยบ้าง มาแม่ช่วย เจ้าใหญ่ไปช่วยเจ้ารองดูหลานหน่อย หน้าตาเปียกไปด้วยน้ำลายลี่ลี่เต็มหมดแล้ว” แม่ตู้ส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อนึกถึงลูกชายที่เล่นกับหลานสาวเจ็ดเดือน สรุปไม่รู้ใครมีความสุขมากกว่ากันระหว่างหลานกับลุง “อ้าว ทำไมละจ๊ะแม่ ลี่ลี่แกล้งพี่รองอีกเหรอ” “เปล่า ก็เจ้ารองนะสิเป่าปากให้หลานดู ลี่ลี่จึงทำตาม ทีนี้ไม่ใช่แค่ลมนะสิที่ออกมา น้ำลายเต็ม ๆ จากนั้นก็หอมแก้มลุงทั้งน้ำลายพอตัวเองทำได้ แม่ละจนใจ ตั้งแต่ลี่ลี่มาอยู่นี่เจ้ารองทำตัวเหมือนเด็กเข้าไปแล้ว” แม้ว่าจะบ่นลูกชายแต่ใบหน้านั้นกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “ถ้วยไหนของลี่ลี่ เล่นน้ำลายแบบนั้นไม่ใช่หิวแล้วเหรอ” ตู้เปียวซวนรีบถามหาอาหารของหลานสาว ก่อนจะรีบเดินไปเพราะกลัวว่าหลานตัวน้อยจะรักน้องชายมากกว่า ตู้เซียงเหมยมองพี่ชายใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าอย่างจนใจ ตอนนี้ลี่ลี่ของเธอตกคนทั้งบ้านตู้เป็นคนของเธอไปเรียบร้อยแล้ว เมื่ออยู่ด้วยกัน สองแม่ลูกจึงช่วยกันทำอาหารด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ กลับมาที่บ้านเหวิน สภาพของกุ้ยฮวานั้นแทบจะดูไม่ได้ เมื่อแม่เฒ่าเหวินถามหลานสาวว่าเกิดอะไรขึ้นหญิงสาวจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง “ต่ำ กล้าดียังไงมาทำร้ายหลานสาวของฉัน” แม่เฒ่าเหวินด่าขึ้นอย่างโมโห “เธอยังบอกอีกด้วยนะป้ากุ้ย เธอบอกว่าพี่รองหยวนต้าไม่มีทางหย่ากับเธอแน่นอน และยังบอกอีกว่าพี่รองหยวนต้าไม่มีทางแต่งงานกับฉัน ป้ากุ้ยไม่มีทางบังคับลูกชายได้” กุ้ยฮวาก้มหน้าทำตัวให้น่าสงสาร บอกให้รู้ว่าที่พูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง และเธอเป็นฝ่ายกระทำก่อน “ไป หล่อนไปกับฉัน สะใภ้สามด้วย ฉันจะไปจัดการ กล้าดียังไงพูดว่าเจ้ารองจะไม่ยอมหย่า สะใภ้สามเธอไปปล่อยข่าวให้ทั่วเลยนะว่านังเซียงเหมยมันมีคนอื่น มันคบชู้ บ้านเราจับได้เลยไล่มันออกจากบ้าน” แม่เฒ่าเหวินคิดว่าเธอจะต้องหาวิธีที่จะทำให้ลูกชายหย่ากับลูกสาวบ้านตู้ให้ได้ ให้มันรู้ไปว่าถ้ากลับมาแล้วรู้ว่าเมียตัวเองคบชู้จะหย่าอีกหรือเปล่า “ผมคิดว่าที่แม่พูดมันรุนแรงไปนะ ถ้าเจ้าสามกลับมาเมื่อไหร่แล้วได้ยินข่าวเกี่ยวกับสะใภ้รองแบบนี้ แม่ไม่คิดบ้างเหรอว่าเจ้ารองจะต้อง สืบสาวราวเรื่อง และที่สำคัญเจ้ารองเป็นทหาร หากมีคนใส่ร้ายครอบครัวทหารเจ้ารองสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้นะ หนักกว่าใส่ร้ายชาวบ้านทั่วไปอีก” พี่ใหญ่ของบ้านเหวิน หรือก็คือเหวินหลง เดินเข้ามาได้ยินสิ่งที่แม่พูดกับน้องสะใภ้และกุ้ยฮวาจึงได้เอ่ยเตือน เขาคนหนึ่งละไม่เห็นด้วยในสิ่งที่แม่พูด และเขาเชื่อว่าเจ้ารองอย่างหยวนต้าไม่มีทางหย่ากับเมียหรอก เขากล้าเอาคอเป็นประกัน “ฉันเป็นแม่เจ้ารองฉันมีสิทธิ์ และฉันเองก็เป็นครอบครัวทหารเหมือนกัน มันจะกล้าเอาเรื่องฉันเหรอ” แม่เฒ่าเหวินตวัดสายตามองลูกชายอย่างไม่พอใจ มีอย่างที่ไหนไปเข้าข้างคนอื่น แทนที่จะเข้าข้างแม่ตัวเอง “เจ้าใหญ่พูดมีเหตุผลนะ เธอจะทำแบบนั้นไม่ได้ อีกอย่างเจ้ารองยังไม่หย่ากับเมีย เธอเอาหลานสาวมาอยู่แบบนี้ชื่อเสียงจะเอาไปไว้ที่ไหน” เหวินหยาง หรือพ่อเฒ่าเหวินปกติจะไม่เคยออกเสียงเรื่องอะไร เขาไม่ชอบมีเรื่องและไม่ค่อยสนใจใคร แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะออกความคิดเห็น ไม่ใช่ไม่สงสารหลานสาวและลูกสะใภ้ตอนที่รู้ว่าเก็บของกลับไปบ้านเดิม คราแรกตั้งใจจะไปตามกลับแต่พอมาคิดอีกทีให้สะใภ้รองกับหลานสาวไปอยู่บ้านตู้น่ะดีแล้ว คงจะกินอิ่มและอยู่สบายกว่าที่นี่ หลังจากนี้ก็รอเพียงเจ้ารองกลับมาให้ลูกชายตัดสินใจเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป “คุณน่ะเงียบปากไปเลยตาเฒ่า ฉันอนุญาตให้พูดตอนไหน” แม่เฒ่าเหวินหันมาตวาดสามี “เจ้าใหญ่ ไปหาไม้มาซ่อมเล้าไก่กับพ่อดีกว่า ปล่อยให้แม่แกบ้าไปคนเดียวเถอะ ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง ถ้าหากโดนเล่นงานกลับมาอย่าขอความเห็นใจก็แล้วกัน” ขนาดกุ้ยฮวาหลานสาวของภรรยายังโดนซะขนาดนั้น คิดว่าไปหาเรื่องถึงบ้านตู้ สะใภ้รองคงจะยอมหรอก “เออ ไปเลย ไปให้พ้นหน้าทั้งพ่อทั้งลูก เข้าข้างกันไปเถอะกับบ้านตู้นะ แทนที่จะช่วยกันคิดว่าจะโต้ตอบยังไง กลับเดินหนีซะได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD