กุ้ยฮวาได้ยินดังนั้นจึงหน้าเสียเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอกลับเชิดหน้าเหมือนเดิม
“ฉันไม่ใช่เมียน้องพี่รองหยวนต้า แต่ฉันกำลังจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องของเขา เธอนั่นแหละจะกลายเป็นอดีต”
“โอ้โห มั่นหน้าเสียด้วย ถามจริงที่บ้านมีกระจกหรือเปล่า หนังหน้าระดับเธอสามีของฉันคงจะมองหรอกนะ ถ้าหากที่บ้านไม่มีเอาไหมฉันจะเจียดเงินซื้อให้ ดูเบ้าหน้าด้วยนะจ๊ะว่าพี่หยวนต้าจะมอง”
ตู้เซียงเหมยส่ายหน้าอย่างระอา มั่นหน้าเหลือเกิน ใบหน้าของตู้เซียงเหมยสวยหวานปนเซ็กซี่ขนาดนี้ตานั่นยังเย็นชาใส่ แล้วเบ้าหน้าแบบแม่นางน้อยคนนี้เจ้าหน้าน้ำแข็งนั่นคงสนใจหรอกมั้ง ช่างไม่รู้ตัวเองเสียเลย แต่ถ้าสามีของตู้เซียงเหมยชอบแบบแม่ดอกบัวขาวเช่นนี้ก็เชิญจ้า
ชาวบ้านที่ได้ยินคำพูดที่แสนจะธรรมดาแต่ปนไปด้วยคำจิกกันได้แต่พากันก้มหน้าลงเพราะกลัวจะเผยรอยยิ้มออกมา จนตู้เปียวซวนพี่ชายใหญ่ของตู้เซียงเหมยเอ่ยขึ้น ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้น้องสาวเขายังไม่หย่า และมั่นใจว่าสหายของเขาเช่นเหวินหยวนต้าไม่มีทางหย่าแน่นอน
“อาเหมยพูดถูก ตอนนี้หยวนต้ายังไม่ได้หย่าขาดจากอาเหมย หากมีหญิงสาวคนใดเสนอตัวเข้ามาจึงไม่ต่างอะไรกับเป็นเมียน้อย ว่าแต่หยวนต้าสหายของฉันเขาไม่สนใจคนหน้าอย่างลับหลังอย่างหรอกนะ และที่สำคัญคนที่ต้องการจะหย่าคืออาเหมยไม่ใช่หยวนต้า แต่ถ้าเกิดฉันเป็นเจ้าหยวนต้าหน้านิ่งนั่น ระหว่างเมียตบเมียแต่งที่นับวันยิ่งสวยขึ้น น่ารักขึ้น ฉันคงไม่หย่าและไปเอาอะไรไม่รู้มาเป็นเมียคนใหม่แน่ ๆ”
“จริงด้วยพี่ใหญ่ ถ้าเกิดผมเป็นพี่หยวนต้านะ ผมไม่หย่ากับอาเหมยแสนสวยที่มีรูปร่างชวนมอง แล้วไปเอาไม้กระดานซักผ้าแน่”
สามพี่น้องบ้านตู้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดี คนหนึ่งเปิดอีกคนหนึ่งรับคนสุดท้ายปิดคำ ชาวบ้านที่นั่งในเกวียนอดทนไม่ไหวจึงได้หัวเราะออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ จริงด้วยอาซวน อาหนาน ฉันคนหนึ่งล่ะหากหยวนต้าหย่ากับน้องสาวของพวกนายฉันยินดีทำงานหนักสองเท่าเก็บเงินมาสู่ขอเลยล่ะ และไม่สนใจด้วยว่าเธอจะเป็นม่ายหรือเปล่า เสียอย่างเดียวฉันทำไม่ได้นี่สิเพราะแต่งเมียแล้ว” ชายหนุ่มที่คุ้นเคยกับสองพี่น้องบ้านตู้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ หากเขาเป็นเจ้าหยวนต้าเขาไม่ยอมหย่าแน่
“กรี๊ด! พวกแกรุมกันเล่นงานฉัน คอยดูเถอะฉันจะฟ้องป้ากุ้ยให้ไปจัดการพวกแกถึงบ้านเลย” กุ้ยฮวาเสียหน้าที่ถูกชาวบ้านหัวเราะใส่เพราะสามพี่น้องบ้านตู้
“อ้าว ตัวเองสู้ไม่ได้ต้องรีบวิ่งกลับไปฟ้องญาติผู้ใหญ่เลยเหรอ คนเราถ้าแน่จริงสู้ด้วยตัวเองสิไม่ว่าเรื่องอะไร อย่ายืมมือคนอื่น เอ…หรือว่าพี่หยวนต้าสามีฉันไม่ได้สนใจเธอจริง ๆ เลยให้แม่เฒ่าเหวินจัดการให้ แต่ถ้าฉันเป็นผู้ชายและต้องมีอะไรกับเธอฉันขอพึ่งตัวเองและแม่นางทั้งห้าในฝ่ามือดีกว่า คงจะมันกว่ากันเยอะ และที่สำคัญจะฟ้องใครก็รีบ ๆ นะ เพราะเวลาของฉันมีค่าไม่คิดจะทำเรื่องไร้สาระอย่างเช่นต้องมาแย่งผู้ชายกับใคร”
“แก นังพ่อแม่ไม่สั่งสอน”
“หยุดเกวียน!” ตู้เซียงเหมยบอกเสียงดัง ตอนนี้เธอโมโหแล้วจริง ๆ
“อาเหมย/อาเหมย” ตู้เปียวซวนและตู้เหรินหนานเรียกน้องสาวเสียงหลง เพราะเกวียนยังไม่ทันจอดสนิทแต่น้องน้อยของพวกเขากลับกระโดดลงจากเกวียนแล้วเดินไปด้านหน้าที่หลานสาวของแม่เฒ่าเหวินนั่งอยู่
“ฉันไม่เป็นไรพี่ใหญ่ พี่รอง เรื่องนี้ฉันขอจัดการเอง พี่ทั้งสองเป็นผู้ชายอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวดีกว่าและน้องสาวของพี่คนนี้ไม่ใช่ลูกพลับนิ่มที่ใครก็สามารถมารังแกได้” พูดกับพี่ชายทั้งสองด้วยรอยยิ้ม แต่พอหันกลับไปมองกุ้ยฮวาหญิงสาวปากดีคนนั้นใบหน้าของเธอจึงเปลี่ยนมาเป็นเย็นชา อย่าคิดว่าเธอเป็นนักธุรกิจก่อนจะทะลุมิติมาที่นี่จะไม่มีพิษสงเพราะนักธุรกิจเช่นเธอนอกจากจะมีบอดี้การ์ดแล้วเธอยังเรียนการต่อสู้อีกด้วย
“ด่าฉัน ฉันเฉยได้ แต่ลามปามถึงพ่อถึงแม่ที่รักและเป็นที่เคารพของฉัน เซียงเหมยคนนี้ไม่ขอทน ในเมื่อปากสกปรกมากงั้นฉันจะล้างปากให้เอง ลงมานี่ อยู่ดี ๆ ไม่ชอบ เห็นฉันเรียบร้อยไม่ยุ่งกับใครก็เสนอหน้าหาเรื่องเจ็บตัว ก่อนจะมาลามปามพ่อแม่ฉัน ทำไมไม่สืบประวัติมาให้ดีจากป้าของเธอว่าฉันร้ายกาจแค่ไหน เธอเลือกเองเลือกที่จะปลุกมันให้ตื่นอีกครั้งก็รับกรรมกับสิ่งที่ปากเน่า ๆ ของเธอพ่นออกมาก็แล้วกัน”
เกวียนขับเข้ามาในหมู่บ้านแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาน้ำสักหนึ่งถัง เมื่อหันซ้ายหันขวาเจอเข้ากับถังน้ำใบใหญ่ของใครไม่รู้ตั้งอยู่หน้าบ้าน ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่น้ำกิน
“โอ๊ย! เจ็บนะนังบ้า แกกล้าดียังไงมากระชากผมฉัน แกไม่ตายดีแน่คอยดูสิ” แม้ว่าจะเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่กุ้ยฮวายังคงโวยวายตลอดทางที่ถูกลากมา
“เธอเลือกผิดเองนะ ถ้าฉันไม่กล้าพอฉันคงไม่ทำแบบนี้ต่อหน้าคนทั้งเกวียนหรอกนะ และที่สำคัญพ่อแม่ฉันสอนลูกทุกคนมาดี แต่ฉันเลือกที่จะกระทำกับคนที่ควรจะดีด้วยเท่านั้น”
“แกอย่ามาทำเป็นพูดดีเลย ถ้าพ่อแม่แกสอนมาดี แกจะกล้ายั่วยวนพี่รองหยวนต้าจนเขาต้องมารับผิดชอบแกเหรอ”
“อ้าว ไม่จบ ฉันถามหน่อยนะ ฉันแต่งงานมาสองปี ลี่ลี่อายุเจ็ดเดือน ช่วยเอาสมองน้อย ๆ ของเธอคิดนะ ผัวเมียถ้าไม่จิ้มกันจะท้องมาได้ไหม แล้วที่สำคัญไอ้นั่นของพี่หยวนต้าไม่ได้อยู่ตรงหน้าขา หรือว่านอกร่มผ้าที่ฉันจะเอาน้องสาวของฉันไปจิ้มได้อย่างง่าย ๆ และฉันเตือนแล้วว่าอย่าลามปามพ่อแม่ฉัน”
ตู้เซียงเหมยกล่าวจบจึงเหวี่ยงร่างของกุ้ยฮวาไปที่ต้นไม้ข้าง ๆ ถังน้ำใบใหญ่ ชาวบ้านตื่นตกใจกับการกระทำของตู้เซียงเหมยได้ไม่นาน กลับเห็นหญิงสาวจับหัวของหลานสาวแม่เฒ่าเหวินจุ่มลงในถังน้ำหลายครั้ง ก่อนจะกำดินที่พื้นยัดเข้าปากอีกครั้ง
“ปากแบบนี้ควรเอาดินยัดเข้าไปทำความสะอาด เผื่อว่าต่อไปคำพูดที่หลุดออกมาจะดีขึ้น ครั้งนี้ฉันแค่เตือน แต่ถ้ามีครั้งต่อไปที่เธอลามปามบุพการีของฉันอีก รับรองฟันเธอได้ร่วงหมดปากแน่” ตู้เซียงเหมยถีบไปอีกครั้งก่อนจะเดินมาหาพี่ชายทั้งสองคนและจ่ายเงินค่าเกวียน จากนั้นทั้งสามคนพี่น้องจึงเดินกลับบ้านตู้ด้วยสีหน้าและท่าทางปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังมีเสียงพูดคุยเจือไปด้วยเสียงหัวเราะตลอดทาง
ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อหายจากอาการตกใจจึงรีบเข้าไปช่วยกุ้ยฮวา และพาทั้งสองคนกลับไปบ้านเหวิน แต่ก็แปลกใจทำไมคนที่มาด้วยนั้นไม่ช่วยเหลือกันเอง
สามพี่น้องเมื่อกลับมาถึงบ้านเจอกับพ่อตู้ที่อุ้มหลานสาวตัวน้อยอย่างลี่ลี่นั่งเล่นอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน เมื่อเด็กน้อยเห็นแม่กลับมาแล้วจึงส่งเสียงเรียกอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แต่คนเป็นแม่ยังไม่สามารถอุ้มได้เพราะร่างกายยังคงสกปรกไปด้วยฝุ่น “แอ๊ ๆ ๆ”
“แม่ขอไปล้างตัวก่อนนะแล้วจะรีบกลับมาอุ้มนะจ๊ะคนเก่ง”
เหมือนว่าลี่ลี่จะยังไม่เข้าใจจึงยังคงเอียงคอมองแม่ตาแป๋ว แต่มือนั้นยังไม่ได้ยื่นออกไปเพราะต้องค้ำยันร่างกายไว้กับแคร่
“ลี่ลี่ มาให้ลุงรองอุ้มดีกว่า ลุงล้างมือแล้ว” ไม่รู้ว่าตู้เหรินหนานนั้นไปล้างมือตอนไหน แต่บัดนี้มือเขานั้นสะอาดและเช็ดจนแห้งเรียบร้อยแล้ว พอเห็นว่าลุงรองมาอุ้ม หนูน้อยจึงให้รางวัลจุ๊บแก้มทั้งสองข้างโดยน้ำลายนั้นเปื้อนไปทั้งหน้าของตู้เหรินหนาน จนเจ้าตัวต้องหัวเราะไปกับหลานสาวด้วยอีกคน
หากใครมาเห็นตู้เซียงเหมยที่ยืนหัวเราะลูกสาวแกล้งพี่ชายรอง คงไม่มีใครคิดว่าเธอจะเป็นคนทำร้ายหลานสาวแม่เฒ่าเหวินจนสภาพยับเยินแบบนั้นแน่นอน “ฮ่า ๆ ๆ ลี่ลี่อย่าแกล้งลุงรองแบบนั้น ลูกดูสิ หน้าลุงเปื้อนน้ำลายหนูไปหมดแล้วลูก”