“เรื่องงานพี่พูดจริงนะ พี่อยากให้ลิตากลับมาดูแลลูก อยากให้ทุ่มเทเวลาให้ลูกเต็มที่ไม่ต้องห่วงเรื่องหาเงินเพราะเรื่องนั้นมันเป็นหน้าที่ของผู้ชาย พี่พร้อมจะเลี้ยงดูลูกอย่างสุดความสามารถ”
“…”
“รวมถึงลิตาด้วย คุณพ่อท่านคงตั้งใจให้พี่ดูแลทั้งสองคนอยู่แล้ว”
“ถ้าฝืนไม่ต้องลำบากตัวเองขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”
“พี่ไม่ได้ฝืน”
“ก็ได้ค่ะ แต่ลิตาขอรับเป็นบางงานก็แล้วกันนะคะ” แค่รู้ว่าเขาเต็มใจเธอก็รู้สึกดีขึ้นมาเป็นกอง
“ก็ยังดีครับ” เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ทำอย่างที่พูดโดยการหายเข้าไปในห้องออกมาอีกทีก็เป็นเวลาเลิกเรียนของสาวน้อย น้องลินีดีใจมากที่วันนี้มีคุณพ่อคุณแม่มารับ
“คิดถึงจังเลยค่ะ”
“คิดถึงคุณพ่อคุณแม่มากๆค่ะ เมื่อก่อนมีคุณแม่คนเดียวตอนนี้มีคุณพ่อแล้ว เพื่อนเก่าของลินีชอบบอกว่าลินีไม่มีพ่อแต่ว่าลินีไม่เชื่อหรอกค่ะเพราะคุณแม่บอกว่าคุณพ่อก็รักหนูแต่ว่างานเยอะ” สาวน้อยพูดเป็นประโยคยาวๆแต่มันเสียดแทงหัวใจของคนฟังอย่างจัง เธอและเขาไม่รู้เลยว่าลูกสาวเคยเจอสังคมอย่างไรบ้างที่โรงเรียนเก่า
“ใช่ครับ ใช่แล้วเพราะตอนนี้เรากลับมาอยู่ด้วยกันแล้วจริงไหมครับ” ชายหนุ่มถือวิสาสะโอบรอบไหล่บางของหญิงสาวเพื่อให้การกระทำเสริมประโยคที่เขาบอกกับลูกสาว
“จริงค่า วันนี้หนูทานไอศกรีมได้คุณพ่อพาไปนะคะ”
“ได้เลยครับ หนูอยากทานอะไรสั่งได้เลยนะครับ พ่ออนุญาต” ชายหนุ่มจูงมือลูกสาวเดินออกมาแต่หางตาก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังปาดน้ำตาออกลวกๆ เธอคงจะทุกข์ใจไม่น้อยเลยกับคำพูดของลูก หลังจากที่ปรับอารมณ์ได้เธอก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกได้ว่าในใจเธอปวดร้าวเหลือเกินกับสิ่งที่ลูกสาวบอก
คีรีภัทรพาลูกสาวมาทานไอศกรีมร้านดังแถมยังบอกกับสาวน้อยอีกว่าสามารถสั่งได้ไม่อั้น นั่นทำให้น้องลินีร่าเริงมากกว่าปกติเพราะถูกตามใจ
“เอาสามรสเลยนะคะคุณแม่”
“ทานหมดหรอคะ”
“ให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยค่ะ”
“ทานเยอะคุณแม่ก็อ้วนสิคะ” เธอตอบกลับลูกสาวยิ้มๆ สาวน้อยทานไม่หมดทีไรก็ตกมาเป็นความรับผิดชอบของเธอทุกทีเพราะอย่างนี้เลยอยากให้สั่งแบบพอดีๆ
“คุณแม่อ้วนแล้วคุณพ่อไม่ชอบหรอคะ ลินีชอบคุณแม่ตัวนุ่มนิ่มนะคะ” สาวน้อยไม่พูดเปล่าแต่ทำท่าประกอบด้วยการเอาใบหน้าน้อยๆถูไถที่หน้าอกอุ่นของผู้เป็นแม่จนชายหนุ่มที่กำลังมองตามรู้สึกอิจฉาเพราะถ้าเขามีอกอุ่นให้ซุกซบบ้างก็คงจะดีเหมือนกันและดูท่าจะนุ่มนิ่มยิ่งกว่าที่เขาเคยได้สัมผัส เขาจะได้ไม่ต้องทนเหงาโดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมา
“ว่าไงคะคุณพ่อไม่ชอบหรอคะ”
“พ่อชอบครับ” เขาไม่อยากจะโกหกลูกสาวเลยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปตรงๆ ผู้ชายคนไหนไม่ชอบก็คงบ้าแล้ว
“นั่นไง เย้ๆ คุณพ่อชอบคุณแม่ทานเยอะๆได้เลยค่า” สาวน้อยไม่ได้สนใจอะไรอีกก้มหน้าก้มตาทานไอศกรีมแสนอร่อย ส่วนผู้เป็นแม่ได้แต่หลบสายตาเพราะคนตัวโตเอาแต่จ้องหน้าอกหน้าใจที่โผล่พ้นมาจากเสื้อสายเดี่ยวสีดำรัดรูปของเธออย่างเปิดเผย
“หมดแล้ว อิ่มแล้วค่ะ” น้องลินีคว่ำถ้วยไอศกรีมโชว์ว่ากินหมดแล้วนั่นทำให้ทั้งเขาและเธอหัวเราะออกมาเบาๆอย่างมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูก
“เก่งมากค่ะหมดแล้วแม่ขอแวะซื้อของหน่อยนะคะจะซื้อนมให้หนูด้วย”
“ได้เลยค่ะ”
“คุณลูกค้าคะทางเรามีบริการถ่ายรูปให้ฟรีนะคคุณลูกค้าสนใจไหมคะ”
“สนใจครับ”
“อะ เอ่อ...”
“มาถ่ายรูปกันนะคะคุณแม่”
“โอเคค่ะ” พนักงานสาวส่งมอบภาพถ่ายให้สาวน้อย น้องลินียิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้มีรูปครอบครัวครั้งแรก เมื่อออกจากร้านไอศกรีมหญิงสาวก็ไปซื้อของต่อทันที หลังจากหยิบนมใส่ตะกร้าเธอก็ตรงไปยังแผนกเสื้อผ้าเด็ก ชายหนุ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกมันเหมือนว่าครอบครัวของเขากลับมาสมบูรณ์อีกครั้งหลังจากที่ไม่เคยได้รับมันเลยจากการแต่งงานครั้งก่อน จุดประสงค์ในวันนี้ของหญิงสาวคือมาซื้อเสื้อซับในสีขาวให้ลูกสาวเพราะต้องใส่ไปโรงเรียน
“ตัวหนูโตขึ้นแล้วนี่หน่าต้องเปลี่ยนเป็นไซส์นี้แล้วนะคะ” หญิงสาวหมุนตัวลูกสาวไปมาอย่างพิจารณาแล้วก็พบว่าสาวน้อยตัวโตขึ้นเยอะเลย
“ค่ะ” ไม่ว่าคนเป็นแม่จะบอกอย่างไรสาวน้อยก็เห็นดีเห็นงามด้วยทุกอย่าง คีรีภัทรอดชื่นชมหญิงสาวไม่ได้ที่หล่อนใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกสาว พอถึงเวลาต้องคิดเงินเขาก็ขอเป็นคนจ่ายเงินให้แต่ถูกหญิงสาวปฏิเสธ
“เล็กน้อยแค่นี้ลิตาจ่ายเองได้ค่ะ ไม่ต้องรบกวนพี่หรอก” หญิงสาวปฏิเสธความหวังดีจากคนข้างกายทันที
“เห็นพี่เป็นคนอื่นหรอครับ พี่เป็นพ่อพี่ก็อยากจะจ่ายบ้าง พี่ผิดอะไรครับหน้าที่นี้พี่ไม่เหมาะสมขนาดนั้นเลยหรอครับ” ชายหนุ่มบอกออกไปคล้ายต้องการจะตัดพ้อหญิงสาวด้วยความน้อยใจ
“งั้นก็ตามใจแล้วกันค่ะ พี่จะดึงดราม่าทำไมคะเนี่ย” พอเธอยอมเขาก็ถึงจะยิ้มออก คนอะไรไม่รู้ชอบเสียเงินหรือยังไง นอกจากจะเป็นคนจ่ายเขาก็เป็นคนถือของให้สาวๆด้วย