บทที่ 1 บทนำ
“ลิตา ลิตารอพี่ด้วย กลับมา ลิตากลับมาหาพี่นะ”
คีรีภัทรสะดุ้งตัวตื่นอีกทีก็พบว่าพระอาทิตย์โผล่พ้นมาบนขอบฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาฝันแบบเดิมอีกแล้วสินะ ฝันแบบนี้ตั้งแต่ที่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากจะหย่ากับเธอเลย คีรีภัทรได้แต่บอกตัวเองในใจ เช้าวันนี้ก็เป็นเช้าของอีกวันที่เขารู้สึกว่าชีวิตมันช่างว่างเปล่าเหลือเกิน เขาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็นอนนิ่งๆอยู่บนเตียงกว้าง บ้านหลังใหญ่แต่ช่างไม่มีความสุขเอาเสียเลย โชคดีที่เขายังมีน้องสาวอีกหนึ่งคนไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมหลังจากที่คนเป็นพ่อจากไปด้วยโรคร้ายเมื่อหลายเดือนก่อน ท่านจากไปเพียงร่างกายแต่ทิ้งสมบัติเอาไว้มากมาย และสมบัติที่ว่านี่แหละที่มันทำให้เขาปวดหัวมาจนทุกวันนี้
เขาทะเลาะกับภรรยาสาวอย่างลิตาทุกวัน เขาไม่เคยมีใครคนอื่นแต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจเขา คนรักกันควรจะไว้ใจกันไม่ใช่หรือและนับวันความอดทนที่เคยมีก็หมดลงเมื่อเธอประกาศว่าถ้าเลิกกับเขาได้เธอจะมีแฟนใหม่ที่ดีกว่าเขา นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้วหลังจากที่เขาตัดสินใจหย่าขาดกับอดีตภรรยาแต่แทนที่เขาจะมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมแต่มันกับตรงกันข้าม เมื่อก่อนในทุกๆวันลิตาจะต้องคอยมาเอาอกเอาใจเขาอยู่เสมอทั้งเช้าเย็น มาวันนี้ทุกอย่างมันเลือนหายไปหมดแล้วนั่นก็เพราะนิสัยของหญิงสาวทั้งนั้น
“พี่คีรีคะพระพายไปเรียนก่อนนะคะ พี่คีรีอย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลานะคะ” หญิงสาวมาบอกอย่างนี้กับพี่ชายเช่นเคย เธอมักจะต้องคอยย้ำเตือนพี่ชายให้ทานอาหารให้ตรงเวลา
“…”
“พระพายรักพี่คีรีนะคะ” เธอบอกรักพี่ชายทุกวันเพื่อให้เขารู้ว่ายังมีน้องสาวที่รักและหวังดีกับพี่ชายคนนี้เสมอ หลังจากที่เลิกรากับภรรยาพี่ชายของเธอก็กลายเป็นคนเก็บตัวเงียบไม่ค่อยพูดค่อยจารวมถึงไม่ค่อยดูแลตัวเองด้วย ข้าวปลาก็ไม่ค่อยจะยอมทานป้าแม่บ้านและเธอต้องย้ำแล้วย้ำอีก ชายหนุ่มยิ้มบางๆออกมาเมื่อได้ยินน้องสาวตะโกนบอกรักอย่างนี้ทุกวัน อย่างน้อยก็มียัยจอมจุ้นคนนี้ที่รักเขาจริง
“คุณคีรีขาทานข้าวหน่อยนะคะ ป้าเป็นห่วงคุณคีรีนะคะอยากให้คุณคีรีทานข้าวเยอะๆจะได้มีแรง”
“ขอบคุณครับแต่ความจริงผมยังไม่ค่อยหิวเลย” ชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงก็ไม่กล้าปฏิเสธออกไปตรงๆ
“ไม่หิวก็ต้องทานนะคะ ที่สำคัญต้องทานให้ครบสามมื้อด้วยค่ะเดี๋ยวโรคกระเพาะจะถามหาได้นะคะ”
“ครับๆ ทานแล้วครับ” ตั้งแต่คนเป็นแม่จากไปเขาก็ได้ป้าพุดซ้อนที่คอยดูแลจัดการเรื่องต่างๆในบ้านรวมถึงคอยกำชับดูแลเขาและน้องสาวเหมือนว่าพวกเขายังเป็นเด็กๆ
“ดีมากค่ะงั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ ไม่รู้ป่านนี้คุณชุดาภาจะร้องโวยวายหรือยังที่ป้ายังไม่ได้ยกข้าวเช้าไปให้” พุดซ้อนบอกออกไปด้วยความเอือมระอากับเจ้านายที่เธอไม่อยากจะนับถือว่าเป็นเจ้านายเพราะคุณหญิงของบ้านมีเพียงคนเดียวเท่านั้นและนั่นก็คือมารดาของคุณคีรีภัทรและคุณคีติกา
“ครับ เหนื่อยหน่อยนะครับแต่อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบ” เขาเห็นใจป้าพุดซ้อนไม่น้อยที่ต้องดูแลทุกคนโดยเฉพาะคนที่เอาแต่ใจอย่างชุดาภากับลูกชาย หากได้มีการเปิดพินัยกรรมที่คนเป็นพ่อร่างไว้เรื่องวุ่นๆทั้งหมดก็คงจะจบลงเสียที เขาอยากจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่ต้องคอยมาฟังเสียงพวกที่จ้องจะฮุบสมบัติของเขาตลอดเวลา
คีติกาเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่แล้วอีกไม่นานเธอก็จะสามารถมาช่วยพี่ชายทำงานได้อย่างเต็มตัว เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยแบ่งเบางานจากพี่ชายได้ หลังจากเลิกเรียนพระพายก็ตั้งใจว่าจะตรงกลับบ้านไปหาพี่ชายทันที
“จะกลับแล้วหรอครับ”
“ใช่ค่ะอาจารย์สายฟ้า” หญิงสาวตอบกลับอาจารย์ต่างคณะเสียงหวาน ในใจเธอคิดว่าเขาคงจะมาหาอาจารย์สาวในคณะของเธอแน่ๆ
“เวลานี้เลิกเรียนแล้วเรียกพี่ว่าพี่สายฟ้าเถอะ อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้สอนพระพายด้วย”
“เอางั้นก็ได้ค่ะพี่สายฟ้า”
“ให้พี่ไปส่งไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะพระพายขับรถมา” หญิงสาวปฏิเสธออกไปทันที ขืนให้เขาไปส่งเธอคงต้องจอดเจ้าลูกรักทิ้งไว้ที่มหาวิทยาลัยข้ามคืน
“งั้นขับรถดีๆนะครับ”
“ค่ะ บ๊ายบายค่ะ” หญิงสาวโบกมือบ๊ายบายเพื่อนของพี่ชายที่เธอแอบปลื้ม เขาดูดีในแบบของตนเองแถมยังมีดีกรีเป็นถึงลูกนักการฑูต เธอเห็นพัฒนาการของเขามาตลอดเขาเป็นคนที่เก่งมากและเป็นอีกคนที่เธอนับถือ
“ครับ”
“กลับมาแล้วค่ะ พี่คีรีละคะป้าพุดซ้อน” เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็ไม่รอช้าถามหาพี่ชายจากป้าแม่บ้านทันที
“ขึ้นห้องนอนไปแล้วค่ะคุณพระพาย” หลังจากที่กลับมาจากบริษัทชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องนอนทันที
“อ๋อค่ะ ช่วยจัดขนมใส่จานให้หน่อยนะคะ เจ้านี้เจ้าโปรดพี่คีรีเลย” หญิงสาวยื่นถุงขนมให้แม่บ้านจัดการต่อส่วนตัวเธอก็เดินขึ้นไปหาพี่ชายสุดที่รักทันที
“ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“พี่คีรีขา พระพายขอเข้าไปนะคะ” เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องเคาะประตูสองสามทีก่อนจะเอ่ยขออนุญาตก่อนจะเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของพี่ชาย แม้จะเป็นพี่น้องกันแต่เธอก็รู้ว่าควรให้พื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันเสมอ
“เข้ามาสิ” เขาเอ่ยอนุญาตทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใคร เขามีน้องสาวอยู่แค่คนเดียวนอกจากจะละเลยตัวเองแล้วเขายังละเลยน้องสาวด้วย เขาเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ
“พระพายซื้อของโปรดพี่คีรีมาฝากค่ะป้าพุดซ้อนกำลังใส่จานให้อยู่” ทุกครั้งที่ผ่านร้านที่พี่ชายชอบเธอก็จะไม่ลังเลที่จะซื้อของอร่อยมาฝากพี่ชาย ซึ่งพี่ชายของเธอก็จะอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีถ้าได้ทานของโปรด
“ขอบคุณนะไม่เห็นต้องลำบากเลย”
“ไม่ลำบากเลยค่ะ พรุ่งนี้จะเป็นวันที่เปิดพินัยกรรมแล้วใช่ไหมคะพี่คีรี”
“ใช่แล้วล่ะ พี่อยากให้เรื่องนี้มันจบสักที” เขาตอบกลับอย่างปลงๆเพราะรู้บทสรุปของวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว
“พระพายก็เหมือนกันค่ะ พระพายเบื่อยัยแม่เลี้ยงนั้นจะแย่อยู่แล้ว ชอบมาบ้าอำนาจ”
“พี่ก็เหมือนกัน คุณพ่อจากไปแล้วถ้าเลือกได้เราสองคนอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนแบบนั้นเลยนะ”
“ค่ะ พระพายเห็นด้วยกับพี่คีรีทุกอย่างเลย”
“อย่างน้อยๆน้องสาวของพี่ก็เป็นเด็กดี”
“คิกๆ คิดถึงพี่ลิตาเหมือนกันนะคะเมื่อก่อนถึงแม้จะดูวุ่นวายไปหน่อยแต่ว่าบ้านก็มีสีสันกว่านี้เยอะเลย”
“…”
“พระพายขอโทษค่ะ” หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าลืมตัวพูดอะไรออกไปทำให้พี่ชายรู้สึกไม่พอใจ เธอไม่น่าพูดถึงคนในอดีตเลย
“ไม่ต้องขอโทษหรอกนะทุกอย่างมันคืออดีตที่ไม่น่าจดจำ”
“ค่ะๆ พระพายจะจำขึ้นใจเลย”
“ขออนุญาตค่ะ”
“มาแล้วค่ะพี่คีรีรับรองว่าถูกปากเหมือนเดิม” พุดซ้อนส่งขนมให้เจ้านายคนสวยจากนั้นก็หมุนตัวเดินออกมาเพื่อปล่อยให้พี่น้องได้พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกัน
“คีรีล่ะ”
“อยู่บนห้องค่ะ”
“พูดคุยกับฉันให้มันน้ำเสียงดีๆหน่อยนะ อีกหน่อยถ้ายังไม่เห็นหัวกันระวังจะได้ไปนอนที่ข้างถนน”
“ค่ะ” พุดซ้อนได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจ เธอไม่รู้เลยว่าผลจะเป็นอย่างไรแต่ถ้าคุณหนูของเธอโดนไล่ออกจากบ้านเธอก็จะขอลาออกเหมือนกันเพราะไม่ได้อยากรับใช้คางคกขึ้นวออย่างชุดาภากับลูกชาย
วันต่อมาภายในโถงรับแขกกำลังมีสถานการณ์ตึงเครียดเพราะวันนี้คือวันเปิดพินัยกรรมของเจ้าของบ้าน คีรีภัทรลูกชายคนโตของบ้านนั่งใบหน้าเคร่งเครียดเพราะเขาไม่อาจทำตามเงื่อนไขที่คนเป็นพ่อเคยยื่นให้นั่นก็คือการที่เขามีทายาทมาสืบสกุลแลกกับทรัพย์สินทั้งหมดของเขาและน้องสาวอย่างคีติกาหรือพระพายจะไม่ตกเป็นของชินภัทรและมารดา
“ได้เวลาอันสมควรแล้วนะครับคุณคีรีคุณพระพาย”
“เปิดพินัยกรรมส่วนที่เหลือเถอะครับคุณลุงทนาย” ชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงราบเรียบ
“พินัยกรรมฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อครั้งที่คุณคีรเทพมีสติครบถ้วนและมีพยานสำคัญ ใจความพินัยกรรมฉบับนี้คือ หากว่าคุณคีรีภัทรไม่สามารถมีบุตรได้ตามกำหนดทรัพย์สินทุกอย่างของคุณคีรเทพจะถูกโอนให้กับคุณชินภัทรและมารดา มีเพียงคฤหาสน์หลังนี้ที่จะเป็นของคุณคีติกาครับ”
“ฮ่าๆ ในที่สุดวันที่ผมรอคอยก็มาถึงแล้วครับแม่” ชินภัทรหัวเราะชอบใจเสียงดังอย่างไม่นึกเกรงใจเจ้าของบ้านตัวจริง คีติกาก้มหน้าลงอย่างยอมรับชะตากรรม แม้ลึกๆจะเสียดายทรัพย์สมบัติที่มีแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของพี่ชายที่ว่าสมบัตินอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้เธอเลยพอจะปล่อยวางได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะค้านหัวชนฝาและหาวิธีต่างๆทำให้สมบัติไม่ถูกเอาไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้แน่นอน
“ไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจบง่ายเกินไปหน่อยหรอคะทุกคน” ทุกคนหันมายังหญิงสาวเป็นตาเดียว และคนที่ดูตกใจที่สุดคงจะหนีไม่พ้นชุดาภา
“ยัยผลิตาแกมาได้ยังไง” ชุดาภาหน้าเสียกับการปรากฏตัวของผลิตาเพราะหล่อนคิดว่าหญิงสาวจากโลกใบนี้ไปแล้ว
“น้องลิตา” ชายหนุ่มเรียกคนที่อยู่ในดวงใจมาตลอดเสียงอ่อน หญิงสาวใบหน้ารูปไข่ที่เขาเคยตกหลุมรักเวลานี้เธอปล่อยผมยาวสลวยปลายผมม้วนเป็นเกลียว วันนี้เธอสวมชุดเดรสเข้ารูปสีของชุดขัดให้ผิวของหญิงสาวดูเรียบเนียนน่าสัมผัส กี่ปีแล้วที่เขาไม่ได้พบหน้าหรือได้ยินข่าวคราวของหญิงสาวเลย เธอยังคงเหมือนเดิมสวยงามไม่เคยเปลี่ยนและดูเหมือนจะสวยกว่าเมื่อก่อนอีก สติที่เตลิดของเขากลับมาอีกครั้งเมื่อเธอเอ่ยแนะนำตัว
“สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ลิตาไม่ได้มาคนเดียวนะคะแต่ลิตาพาลูกสาวมาทวงสิทธิ์ที่ควรจะเป็นของแกด้วยค่ะ” สาวน้อยที่หลบอยู่ด้านหลังคนเป็นแม่ค่อยๆโผล่ใบหน้าจิ้มลิ้มออกมา
“นี่ลิตาท้องหรอ” ชายหนุ่มถามกลับตาโต เขารู้สึกตกใจมากและเหมือนมีความหวังเป็นสายน้ำเย็นไหลเข้ามาในหัวใจที่มันไม่มีความรักหลงเหลืออยู่เลยแม้กระทั่งการรักตัวเอง เดิมทีวันนี้เขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าทรัพย์สินของคนเป็นแม่เขาคงรักษาให้ท่านไม่ได้เพราะพินัยกรรมพิลึกนั่นของคนเป็นพ่อ เขาไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนั้น แต่พอได้สบตากับคนตัวน้อยเขาก็เปลี่ยนความคิดของตัวเองได้ทันที
“ใช่ค่ะ ผกาลินีหรือว่าน้องลินีลูกสาวของเราค่ะพี่คีรี นั่นคุณพ่อของหนูค่ะลูก”
“คุณพ่อ ลินีจำคุณพ่อได้” สาวน้อยเรียกคนตัวโตเสียงดัง จากนั้นก็ไม่รอช้าวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย ที่จำได้ก็เพราะสาวน้อยเคยเห็นคนเป็นพ่อผ่านรูปถ่ายที่คุณแม่คนสวยเอามาให้ดู คุณพ่อตัวจริงดูเหมือนจะหล่อกว่าในรูปอีกน้าเนี่ย
“อะ เอ่อ...” ชายหนุ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก แววตากลมโตไร้เดียงสานั้นทำให้เขาต้องสวมบทบาทคุณพ่อที่แสนดีแม้ในใจอยากจะจัดการคนเป็นแม่ของสาวน้อยมากๆที่กล้าปิดบังเรื่องราวของลูก
“ดีใจจังเลยค่ะ คุณพ่องานยุ่งคุณแม่เลยพาหนูมาหาแทนค่ะ” สาวน้อยบอกออกไปยิ้มๆ
“สวัสดีครับ พูดเก่งจังเลยครับ ไหนพ่อขอดูหน้าหนูชัดๆหน่อยลูก” สาวน้อยฉีกยิ้มกว้างคีรีภัทรเห็นแล้วก็ใจละลาย สาวน้อยหน้าตาเหมือนน้องสาวเขาตอนเด็กมากๆนั่นก็แสดงว่าเป็นลูกสาวเขาแน่นอน ดีที่เขาไม่ได้พูดวาจาร้ายกาจทำนองที่ว่าสาวน้อยไม่ใช่ลูกของเขาก็ในเมื่อเธอเคยประกาศเองว่าจะมีแฟนใหม่
“มาหาอาบ้างสิคะ อาชื่อพระพายนะคะ หลานน่ารักจังเลยค่ะพี่คีรี” พระพายเองก็เชื่อสนิทใจเหมือนกับพี่ชายว่าสาวน้อยคนนี้คือหลานสาวที่น่ารักของตน เธอเหมือนได้เห็นตัวเองสมัยที่ยังเป็นเด็กอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ คุณอาสวยจังเลยค่ะ” สาวน้อยผละออกจากคนเป็นพ่อเดินเข้ามาสู่อ้อมกอดของคุณอาคนสวยช้าๆ เมื่อได้มองหน้าคุณอาชัดๆ สาวน้อยก็เอ่ยชมคนตรงหน้าด้วยความจริงใจ
“หนูก็น่ารักเหมือนอาไงลูก หน้าตาเหมือนพระพายเลยค่ะ พี่คีรีดูสิคะเหมือนมากจริงๆ” หญิงสาวบอกพี่ชายยิ้มๆ หลานตัวเล็กแค่นี้แต่พูดเก่งมากๆ
“ตาคีรีอย่าไปเชื่อนะ หล่อนเอาอะไรมาพูดจู่ๆก็มาอ้างว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของตาคีรีปากเปล่าได้ยังไง ใครเชื่อก็โง่แล้ว” ชุดาภาพยายามหาข้อโต้แย้งทั้งๆที่ดีเอ็นเอก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้าจิ้มลิ้ม แทบจะเป็นไปไม่เลยว่าสาวน้อยเป็นคนอื่น
“จริงด้วยครับคุณแม่ หลักฐานสักชิ้นก็ไม่มี อย่ามาโกหกกันเลยนะน้องลิตาคนสวย พี่ว่าลิตาพูดความจริงกับทุกคนดีกว่า” ชินภัทรส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้หญิงสาว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนผลิตาก็ยังดูสวยเปล่งปลั่งเหมือนเดิม ด้านคีรีภัทรเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจเอาเสียเลย
“แต่ผมกับน้องสาวของผมเชื่อครับ” คำตอบที่หนักแน่นของคนเป็นพ่อทำให้สาวน้อยที่อยากมีคุณพ่อเป็นของตัวเองมาตลอดยิ้มหน้าบาน
“หลักฐานที่พวกคุณอยากดูอยู่นี่ค่ะ ฉันเองก็ไม่กล้ามาพูดปากเปล่าหรอกนะคะ” ผลิตาเปิดกระเป๋าหยิบเอกสารรับรองผลการตรวจเลือดเพื่อแสดงความเกี่ยวข้องระหว่างสองพ่อลูกให้ชุดาภาได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ชุดาภาไม่รอช้ารีบอ่านรายละเอียดในเอกสารทันที พอทราบว่าทุกอย่างคือเรื่องจริงก็เริ่มร้อนรนใจ สมบัติที่หล่อนหวังจะได้ครอบครองกำลังจะหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
“ไม่จริงฉันไม่เชื่อ” ชุดาภาพยายามโกหกตัวเองทั้งๆที่เอกสารทุกอย่างมันก็ชัดเจน
“เอกสารชัดเจนขนาดนี้คุณจะไม่เชื่อก็ตามสบายเถอะค่ะลิตาไม่สนเพราะคนอื่นเขาเชื่อ แค่นี้ลิตาก็พอใจแล้ว” หญิงสาวเชิดหน้าตอบกลับอย่างไม่คิดจะสนใจความคิดเห็นของชุดาภา
“ลุงขอดูเอกสารหน่อยหนูลิตา”
“ได้เลยค่ะ ขอเอกสารด้วยค่ะคุณชุดาภา” ชุดาภาหน้างอแต่ก็จำใจยื่นเอกสารไปให้ทนายประจำตระกูล คุณทนายยิ้มเต็มใบหน้าในที่สุดวันนี้ที่รอคอยก็มาถึง เวลานี้คุณคีรเทพคงจะหมดห่วงแล้ว
“ในเมื่อคุณคีรีมีทายาทมาสืบสกุลดังนั้นสมบัติทั้งหมดของคุณคีรเทพก็จะตกเป็นของคุณคีรีภัทรผู้เป็นลูกชายและคุณคีติกาผู้เป็นลูกสาวอย่างสมบูรณ์แบบครับ” คุณทนายประกาศออกไปเสียงดังฟังชัด สองแม่ลูกหน้าสลดเพราะหมดหวังในสมบัติก้อนโตของคีรเทพ
“ถ้าเป็นแบบนี้ดิฉันกับลูกจะได้อะไรบ้างละคะคุณทนาย ดิฉันก็เป็นภรรยาของคุณคีรเทพนะคะ” ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เธอกับลูกชายก็ต้องได้สมบัติจากคีรเทพติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
“คุณชุดาภาจะได้เงินสดจำนวนสิบล้านบาทครับ”
“สิบล้าน อะไรกันคะทำไมได้แค่สิบล้านเอง” ชุดาภาออกอาการไม่พอใจเพราะเธอรู้ว่าสามีมีสมบัติมากมายขนาดไหนแต่เขากลับยกเงินสดให้เธอแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น
“แต่เดี๋ยวก่อนครับ คุณจะได้รับเงินจำนวนนี้ก็ต่อเมื่อพิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคุณนิศากรมารดาของคุณๆทั้งสอง รวมถึงอุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อนด้วยครับ”
“เอาอะไรมาพูดฉันจะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้ยังไง”
“อย่าอธิบายให้มากความเลยค่ะ ลิตาว่าเชิญคุณตำรวจเลยดีกว่าค่ะ”
“เชิญครับคุณชุดาภา” ตำรวจสามนายเข้ามาจับกุมตัวชุดาภา ชุดาภานั้นพยายามหนีการจับกุมแต่มีหรือที่จะรอดพ้น
“กรี๊ดด ปล่อยฉันนะ อย่ามาจับตัวฉันนะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” เสียงกรีดร้องของชุดาภาทำให้น้องลินีตกใจกลัวรีบวิ่งไปหลบด้านหลังมารดา
“ไม่ต้องกลัวนะคะแม่อยู่ตรงนี้ ไม่มีใครมาทำอะไรหนูได้ค่ะ” ผลิตาพูดปลอบใจคนตัวน้อยที่กำลังตื่นกลัว สาวน้อยพยักหน้าหงึกๆแต่ยังเกาะขามารดาแน่นเป็นลูกลิงตัวน้อย
“ปล่อยแม่ผมนะ เอามือสกปรกออกไปจากแม่ของผมนะ” สองแม่ลูกร้องตะโกนโวยวายเสียงดังเมื่อถูกลากตัวออกไปด้านนอก
“ขอบคุณพี่ลิตากับน้องลินีมากๆเลยนะคะ วันนี้ในที่สุดก็มีแต่เรื่องน่ายินดี พี่ลิตาเชื่อไหมคะตอนแรกพระพายคิดว่าจะถูกไล่ออกจากบ้านของตัวเองเหมือนหมูเหมือนหมาซะแล้ว” หญิงสาวก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของหลานสาวฟอดใหญ่ที่กำลังเกาะคนเป็นแม่แจ ชุดาภากุมอำนาจทั้งหมดจนไม่นึกถึงความเป็นจริงเลยว่าสายเลือดของตระกูลเท่านั้นที่เหมาะสมจะได้ครอบครองทรัพย์สมบัติดั่งเดิมของตระกูล
“ไม่มีวันนั้นแน่นอนค่ะน้องพระพาย” ผลิตาตอบกลับยิ้มๆ เธอจะไม่มีวันปล่อยให้คนเลวๆอย่างชุดาภาและชินภัทรได้มีชีวิตสุขสบายบนกองเงินกองทองของคนอื่นแน่ๆ
“ขอบคุณนะคะ ลินีไปเล่นห้องอาพระพายไหมคะที่ห้องอามีหนังสือเยอะแยะเลยนะคะ เดี๋ยวอาพระพายจะซื้อของเล่นใหม่ให้นะคะ”
“จริงหรอคะ คุณแม่ขา” สาวน้อยหันไปมองมารดาคล้ายขออนุญาต
“ไปเถอะจ๊ะ”
“เย้ๆ ไปกันค่ะอาพระพาย”
“น่ารักจริงเชียว อารักหนูจัง” พระพายหอมแก้มหลานสาวฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวแก้มกลมๆนั่น
คีติกาจูงมือสาวน้อยเดินออกไปด้วยกันเพื่อเปิดโอกาสให้พี่ชายได้พูดคุยกับอดีตภรรยา คีติกาเองก็ปลื้มผลิตาไม่ต่างจากพี่ชายและหล่อนก็เห็นใจผลิตาเป็นอย่างมากและเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกันแต่เพราะการกระทำของผลิตาทำให้เธอนั้นไม่อาจออกหน้าแทนได้ตลอด เธอทำได้แค่คอยปลอบทั้งสองฝ่ายด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้มีโอกาสอยู่กันสองต่อสองคีรีภัทรก็ไม่เอ่ยคำใดออกมาเลยเขาเอาแต่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนกับคนรักในอดีตของเขาเพราะเธอคนเดิมคือสาวหวานที่ดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอมแต่ว่าเธอในปัจจุบันแต่งตัวทันสมัยแบบสาวเปรี้ยวมีความมั่นใจสูง
“ลิตาในเวอร์ชั่นนี้สวยจนพี่คีรีละสายตาไม่ได้เลยหรอคะถึงไม่ยอมพูดอะไรกับลิตาเลย” เธอถามเขาออกไปยิ้มๆ วันแรกตกหลุมรักเขายังไงวันนี้เธอก็ยังตกหลุมรักเขาเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เธอกลับมาครั้งนี้พร้อมจะปรับปรุงตัวให้เป็นคนดีขึ้นและยอมรับในการตัดสินใจของเขาหากว่าเขาไม่มีเธออยู่ในหัวใจอีกต่อไปแล้วเธอก็พร้อมจะจากไป
“ทำไมไม่บอกเรื่องลูกกับผมตั้งแต่แรก” ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจเพราะเขารู้ว่าการเลี้ยงลูกลำพังมันลำบากมากแค่ไหนแต่ทำไมหญิงสาวถึงยังได้คิดจะปิดบังเรื่องลูกและทนลำบากอยู่คนเดียว
“โธ่ อย่าทำเหมือนว่าลิตาเป็นคนอื่นคนไกลสิคะ” เธอขยับเข้าไปใกล้แต่เขาก็ขยับถอยห่างอัตโนมัติ เธอไม่โกรธที่เขาทำท่าทีห่างเหินเพราะเข้าใจดีว่าเขาคงยังจะโกรธเธออยู่
“ก็เราเป็นคนอื่นคนไกลจริงๆนี่ครับ ทราบเรื่องพินัยกรรมได้ยังไงครับ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงติดประชดประชัน พอมาเจอหน้าหญิงสาวจริงๆมันช่างต่างจากความฝันเพราะในใจเขานั้นยังรู้สึกกรุ่นโกรธหญิงสาวในใจจนยากจะให้เปิดใจคุยกันดีๆ
“คุณทนายติดต่อลิตามาค่ะ คุณพ่อของพี่กับคุณทนายคงคิดเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วถึงได้ให้เราสองคนแม่ลูกมาปรากฏตัวในวันนี้” เธอได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งที่ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดที่เคยมีมาตลอดหลายปี หลังจากที่น้องลินีคลอดได้ไม่นานเธอก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงว่ากลัวมีคนจะมาทำร้ายเธอกับลูก จนเมื่อสองปีที่แล้วคุณทนายติดต่อไปหาเธอ เขาให้เงินเธอก้อนหนึ่งแน่นอนว่าเงินก้อนนั้นเป็นของคีรเทพที่ต้องการให้หลานสาวคนเดียวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เธอย้ายออกจากห้องเช่าไปอยู่ที่คอนโดของคีรเทพ เมื่อมีโอกาสคุณทนายก็ให้เธอมาพบกับบิดาของชายหนุ่ม เธอยอมตกลงไปหาท่านทันทีเพราะคิดว่าท่านคงมีธุระสำคัญจริงๆและท่านก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีคุณปู่ก่อนลูก” ผลิตาและลูกสาวยกมือไหว้ทำความเคารพคีรเทพอย่างนอบน้อม
“คุณปู่ ธุจ้า” สาวน้อยทำตามที่คนเป็นแม่บอกเรียกความเอ็นดูจากคุณปู่ได้เป็นอย่างดี คีรเทพรู้สึกผิดมากๆที่ตนเองมีส่วนทำให้ลูกสะใภ้และหลานสาวต้องพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายนั่น ดีแค่ไหนแล้วที่ลูกสะใภ้ของเขารอดชีวิตมาได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่มีโอกาสได้พบเจอทายาทรุ่นที่สองของตน
“พ่อขอโทษนะลูกที่ทำให้หนูกับหลานของพ่อต้องไปตกระกำลำบากแบบนั้น หนูไม่ต้องกลัวว่าใครจะตามมาทำร้ายแล้วนะ อยู่ที่คอนโดพ่อจะปลอดภัยแน่นอน”
“ลิตาขอบคุณคุณพ่อมากๆนะคะที่เมตตาลิตากับลูก”
“เจ้าลูกชายของพ่อมันตัดสินใจผิดจริงๆที่เลือกจะหย่ากับหนู หนูเองก็เด็ดเดี่ยวเหมือนกันนะที่กล้าอุ้มท้องต้องดูแลลูกอยู่คนเดียว”
“เพราะลิตารักลูกมากค่ะ”
“พ่อรู้ๆ ถ้าคุณทนายไม่ไปบังเอิญเจอหนูเรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอกนะ อยู่กับพ่ออยู่กับตาคีรีหนูสบายใจได้ว่าจะไม่มีใครกล้ามาทำอะไรอีกแน่นอน” คีรเทพย้ำเรื่องความปลิดภัยให้ลูกสะใภ้รู้สึกสบายใจ
“ขอบพระคุณคุณพ่อมากๆค่ะ ก็ตั้งแต่คุณพ่อส่งเงินให้ลิตาก็ไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ อย่างน้อยๆมันก็ทำให้ลิตาเข้มแข็งกว่าแต่ก่อนมากๆเลยค่ะ ลิตาไม่กลัวอะไรแล้วลิตาพร้อมจะสู้เพื่อลูกค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยเหลือเราสองคนแม่ลูกมาตลอด”
“พ่อได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ พ่อมีเรื่องสำคัญจะขอร้อง”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
“พ่อฝากตาคีรีอีกคนด้วยนะลูก คีรีไม่เหลือใครมีแต่หนูนี่แหละที่พ่อวางใจให้ดูแล”
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ”
“พ่อป่วยเป็นมะเร็งคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน พ่อคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมกับคีรีเท่าหนูลิตาอีกแล้วนะเชื่อพ่อเถอะ”
“ตายจริง เรื่องนี้พี่คีรีทราบไหมคะ” หญิงสาวรู้สึกตกใจไม่น้อยเพราะเธอเห็นมาตลอดว่าท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี
“พ่อกำลังจะหาโอกาสบอกอยู่เหมือนกัน พ่ออยากเปิดโปงเรื่องความชั่วร้ายที่ชุดาภาได้ทำ”
“ลิตาพร้อมจะช่วยคุณพ่อเท่าที่ลิตาไหวค่ะ”
“พ่อขอแค่ลิตาพาหลานของพ่อไปเปิดตัวในวันที่มีการเปิดพินัยกรรมก็พอ พ่ออยากให้ตาคีรีรู้ว่าเขายังมีอีกหนึ่งดวงใจที่ต้องดูแล ไม่สิจริงๆก็สองดวงใจนั่นแหละเพราะตาคีรียังมีหนูอยู่ในนั้นมาตลอดเชื่อพ่อเถอะ”
“ลิตาเสียใจค่ะที่ทำแบบนั้นกับพี่คีรี” หญิงสาวน้ำตาคลอยิ่งคิดว่าเธอทำเขาน้ำตาตกในก็ยิ่งอยากจะร้องไห้ออกมาให้กับคำพูดร้ายๆเหล่านั้นในอดีต
“จำไว้นะลูกว่าเราทุกคนมีความจำเป็นจนไม่อาจพูดความจริงทั้งหมดที่มีได้ พ่อเชื่อว่าสักวันพอตาคีรีรับรู้ความจริงเขาก็จะเชื่อมั่นในตัวหนูอีกครั้ง”
“ลิตาก็หวังให้เป็นอย่างนั้นค่ะคุณพ่อแต่ลิตาก็ยอมรับความจริงถ้าพี่คีรีไม่ต้องการลิตาแล้ว”
ปัจจุบัน
“…”
“พอคุณพ่อยื่นข้อเสนอแบบนั้นให้พี่คีรีคุณชุดาภาก็แสดงธาตุแท้ของตัวเองออกมาพี่ไม่เห็นหรอคะ” ชุดาภาแบ่งฝ่ายชัดเจนและต้องการจะเขี่ยชายหนุ่มและน้องสาวออกไปให้พ้นทางให้เร็วที่สุด
“ใช่ครับ เขาอยากจะได้สมบัติมาครอบครองโดยที่ไม่นึกถึงเรื่องผิดชอบชั่วดี โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ของผม”
“ลิตาเสียใจเรื่องคุณแม่ด้วยนะคะ” เธอบอกออกไปเสียงเศร้า เธอเป็นแค่ลูกแม่บ้านแต่มารดาของชายหนุ่มก็รักและเมตตาเหมือนเธอเป็นลูกสาวของท่านอีกคน ท่านไม่ว่าอะไรเลยเมื่อเธอกับเขาเปิดใจคบหากัน ท่านบอกว่าท่านไม่เคยยึดติดเรื่องฐานะเลย บิดาของชายหนุ่มมีภรรยาน้อยอีกคนซึ่งก็คือชุดาภา หลังจากที่คีรเทพพาชุดาภาเข้ามาอยู่ในบ้านได้ไม่นานมารดาของชายหนุ่มก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากนั้นอำนาจทุกอย่างก็ตกอยู่ในมือของชุดาภา
“ครับ เรื่องนี้ผมพอจะทำใจได้แล้ว” เขาบอกออกไปน้ำเสียงราบเรียบ เพิ่งจะมีการเปิดเผยเรื่องราวว่าแท้จริงแล้วการเสียชีวิตของมารดาของเขาคือท่านถูกชุดาภาวางยา เขารู้สึกโกรธแค้นแต่ในเมื่อวันนี้คนที่ทำชั่วก็ได้รับการลงโทษแล้วเขาก็จะไม่ยึดติดอะไรอีก
“ทำไมพี่ไม่ดูแลตัวเองเลยละคะ ดูสิคะหนวดก็ไม่รู้จักโกน ไม่หล่อเลยค่ะ” เธอเพิ่งมีโออาสได้พิจารณาเขาใกล้ๆก็พบว่าเขาเปลี่ยนไปมาก หนุ่มหล่อหมาดเนียบหายไปแล้วเหลือแต่ชายหนุ่มที่คล้ายหมดอะไรตายอยากไม่มีจุดหมายอะไรในชีวิต ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้
“อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมดีกว่านะครับ” เขาไม่ชอบให้เธอมาวิจารณ์กันแบบนี้ทั้งที่ต้นเหตุเป็นเธอเองไม่ใช่หรอที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพคนไร้หัวใจ
“ลิตากลัวลูกจะกลัวพี่ต่างหากล่ะค่ะ เหมือนโจรเลยไปโกนออกบ้างนะคะ”
“ลิตากลับมามีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือเพราะแค่เรื่องเงินถึงได้กลับมาหา” เขาถามออกไปอย่างประชดประชันทั้งที่รู้ว่าลึกๆแล้วหญิงสาวไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงิน
“เรื่องนั้นก็มีส่วนค่ะเพราะลิตาไม่อยากให้คนนอกมาชุบมือเปิบไปง่ายๆ”
“ก็เลยจะมาชุบมือเปิบเองเลยใช่ไหมครับ”
“พี่คีรีจะว่าลิตายังไงก็ได้ลิตายอมหมดค่ะ ขอแค่ให้ลิตาได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆพี่อีกสักครั้งจะได้หรือเปล่าคะ”
“เราไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ใกล้ๆกันนี่ครับ”
“ลูกไงคะ ลิตาไม่อยากให้แกต้องขาดพ่อหรือขาดแม่”