2

3096 Words
พรึ่บ (เสียงปิดสมุด) "อะไรเนี่ย จบเเค่นี้หรอ? นี่ๆ ลูซี่ทำไมเธอถึงเขียนค้างไว้เเบบนี้หล่ะ"เด็กหนุ่มที่แอบเข้ามาในห้องของเพื่อนสาว เดินสำรวจจนไปกับสมุดร่าวนิยายขอวเด็กสาวเข้า อ่านไปเรื่อยๆชักเริ่มติดใจ สุดท้ายเนื้อเรื่องตอนถัดไปกลับว่างเปล่า "พูดอะไรของนายเนี่ยนัตสึ เเล้วนายมาอยู่ห้องฉันได้ยังไง เเล้วนั้นอะไร!!!" ลูซี่ที่เดินตามเสียงเรียกของนัตสึ เด็กสาวถึงกับอ้าปากค้าง มีนิยายที่เธอยังเเต่งไม่จบกางค้างอยู่ในมือของนัตสึที่ทำหน้าเซ็งๆ "นิยายของเธอไง ทำไมถึงเเต่งค้างไว้อย่างนี้หล่ะ เเล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้หรอ แล้วตัวเอกของเรื่องจะเป็นยังไงต่อ นี่ -ย๊ากกก! มันเจ็บนะยัยบ้า" หนังสือเล่มใหญ่ฟาดเข้าที่หน้าเด็กหนุ่มอย่างแรง จากฝ่ามืออันมหาศาลของลูซี่ "เจ็บซิดีจะได้จำ ทีหลังอย่าเข้ามาในห้องฉันเเละอย่ามาเข้าใกล้นิยายของฉันด้วย"ลูซี่รีบเข้าไปเเย่งนิยายมาไว้กับตัวเองได้สำเร็จ "เชอะ! ทำมาเป็นหวงของ" นัตสึทำหน้ายู่อย่างหมั่นไส้ "พอได้เเล้ว รีบมาช่วยฉันจัดสัมภาระหน่อยซิ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันกันพอดี"เธอบอกกับนัตสึ และตัวเองรีบเดินออกจากห้องโดยไม่รอนัตสึ “ครับๆ รู้เเล้ว ทริปเที่ยวไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องขนของมากมายไปด้วยนะ ” [Lucy : talk] ทุกคนคงสับสนซินะว่าพวกเรากำลังจะไปไหนถึงต้องเก็บกระเป๋ากัน ฉันกำลังจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวสำหรับทริปพักผ่อนเล็กๆของฉัน นัตสึเเละแฮปปี้ นัตสึเนี่ยใช้ไม่ได้เลย ชอบเข้าไปป่วนในห้องของฉันอยู่เรื่อยเลยเเถมที่ฉันรู้สึกฉุนจัดไปอีกเพราะฉันเห็นว่านัตสึเเตะต้องนิยายสุดรักสุดหวงของฉันซะได้ นั้นนะก็เป็นงานอดิเรกที่หาเงินได้ของฉันเชียวนะ ตั้งเเต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หา 5 ได้ปีการทำงานถ่ายรูปถึงจะดูเหมือนได้ไปเที่ยวบ้าง เเต่ก็นะยังไงงานก็เป็นงาน 80 % ก็ถ่ายรูป 20 %ก็พักผ่อน ฉันคิดว่าคงถึงเวลาเเล้วที่ควรหาเวลาไปพักผ่อนเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาสักที ส่วนเรื่องเรียนดีที่โรงเรียนสามารถให้เรียนเเบบออนไลน์ทำให้สะดวกต่อการทำอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายขึ้น จะว่าไป~~~แผนการพักผ่อนเเบบนี้ก็ต้องขอบคุณนัตสึที่เป็นคนออกไอเดียหล่ะ ย้อนกลับเช้าวันใหม่ของลูซี่ ช่วงนี้ลูซี่หยุดพักลาทำงาน งานหลักของเธอคือการรับจ้างถ่ายรูป ซึ่งลูซี่รู้สึกว่าช่วงนี้เธอจะเดินทางบ่อยๆ ถ่ายรูปตามที่ผู้ว่าจ้างวานงานมาก็เยอะพอสมควร ทำงานหนักเกินไป จนร่างกายของเธอประท้วงให้เธอพักผ่อน เธอจึงเลือกที่จะทำงานอดิเรกเเทน นั้นคือ งานเขียนของเธอ หญิงสาวผู้ที่รักอิสระมาก เธอจึงเลือกเส่นทางนี้ให้ห่างจากครอบครัวของเธอเเละโรงเรียนที่ทำให้รู้สึกปวดหัว ตอนนี้เธอวางแผนการจัดทริปเล็กๆของเธอในการพักผ่อนเเละเขียนนิยายของเธอไป ตอนนี้เธอก็กำลังกินอาหารเช้าง่ายๆของเธอไป ซีเรียลหนึ่งชามพร้อมกับไข่ดาวเเละเบคอนกรอบโปะด้วยสลัดผักเเสนอร่อย ที่กินเท่าไหร่ก็รูัสึกสดชื่นขึ้นมาทันที เพราะบ้านเธอปลูกผักกินเองนี่น่า แผนการเที่ยวในครั้งนี้เกิดจากที่นัตสึมาช่วยเธอเก็บผักสวนครัวเมื่อเช้ามืด นัตสึบอกลูซี่ว่าเขาสังเกตว่าเธอพักผ่อนไม่เพียงพอเเถมชอบฝืนทำอะไรด้วยตัวคนเดียว เธอควรหาเวลาให้ตัวเองให้มากกว่านี้ ทำให้เธอเริ่มนำกลับมาคิด [Lucy end] ตัดกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน "นัตสึ ขอร้องหล่ะ ถ้านายไม่อยากให้พวกเราต้องตกรถไฟเที่ยวเเรกช่วยวางเเฮปปี้ลงเเละมาช่วยกันเก็บกระเป๋าได้หรือเปล่า?" "ก็ได้ๆ เเต่ว่านะลูซี่ เจ้าลูกเหมียวของเธอดูท่าจะชอบฉันมากนะ ดูซิเกาะอยู่บนไหล่ฉันตลอดเลย ฮ่า ฮ่า" นัตสึเดินมาหาลูซี่ช่วยเธอขนกระเป๋าขึ้นรถมินิคาร์ของลูซี่ เขาเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวก็มีรถยนต์ขับไว้เองด้วย "นี่ นัตสึเเล้วนายมาด้วยเเบบนี้จะดีหรอ ไม่ใช่ว่านายมีงานที่บริษัทที่ต้องช่วยงานพ่อของนายเหรอ"ลูซี่ถามนัตสึอย่างแปลกใจที่เขาจะร่วมเดินทางไปกับเธอด้วย เธอขอบคุณที่เขาเป็นผู้ออกไอเดียทริปเที่ยวเล็กๆนี่ให้ เเต่ไม่คิดว่าชายหนุ่มสนใจจะไปด้วย "ไม่เป็นไรหรอกน่า ยังไงฉันก็เป็นถึงระดับลูก CEO ที่มีธุกกิจรอบโลกเเบบนี้ ยังไงถึงฉันไม่อยู่สักวันหรือสองวัน ยังไงบริษัทก็ไม่ล้มละลายหรอกน่า"ชายหนุ่มตอบเด็กสาวพร้อมขนของขึ้นรถ ที่จริงนัตสึกังวลเกี่ยวกับการที่ต้องมาคุมงานบริษัทเหมือนกัน เพราะตอนนี้ธุรกิจที่บ้านเขาก็ขยายออกไปเยอะมากเหมือนกัน เเต่ก็ช่างเถอะยังไง ถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยวก็มีคนติดต่อมาเองเเหละ ขอเเค่เวลานี้เขาขอก็ใช้เวลาอยู่กับลูซี่ก่อนล่ะกัน "โอ๊ะ!! เเย่เเล้วอีก 9 นาทีนะ รถไฟจะออกเเล้ว นัตสึรีบไปอุ้มเเฮปปี้ขึ้นไปรอในรถก่อนเลย ฉันขอเคลียบ้านก่อนจะรีบตามไปนะ"ลูซี่รีบไปเช็คความเรียบร้อยของบ้านพร้อมล็อคประตูปิดบ้านให้เรียบร้อย เเละรีบเข้าไปในรถ นั่งประจำที่คนขับ เเละตรงดิ่งไปที่สถานีรถไฟครอครัสทันที ณ สถานีรถไฟครอครัส คน 2 คน เเละน้องแมว 1 ตัวเดินทางมาถึงสถานีรถไฟเเบบเฉียดฉิว ดีนะที่เด็กสาวจองตั๋วรถไฟออนไลน์มาเเล้ว ไม่งั้นมีหวังถ้าต้องมาซื้อที่สถานีคงได้ตกรถไฟไปนานเเล้ว พวกลูซี่ได้นั่งที่โบกี้ที่ 5 รถไฟเที่ยวนี้มี 8 โบกี้ พวกเขาได้นั่งที่ริมหน้าต่าง เมื่อพวกเขาเจอที่นั่งกันเเล้วก็….เกิดปัญหาขึ้นมาซะงั้น "ลูซี่ คือเธอมียาเเก้เมารถมั้ย?" ชายหนุ่มที่ตอนเเรกยังดีๆพอได้มานั่งที่เเล้วกลับทำหน้าซีดเซียวซะงั้น "เป็นอะไรไปนัตสึ ทำไมหน้าซีดๆหล่ะ หรือว่านายจะเมารถไฟ?"ลูซี่ที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนรู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มมีอาการเมารถไฟ ทั้งๆที่ก็เพิ่งนั่งรถยนต์กันมาเอง ‘อย่าบอกนะว่าเเพ้เฉพาะรถไฟเนี่ยนะ ให้ตายซิ' "ฉันลืมไปเลยว่าตัวเองเมารถไฟ ทำไงดีหล่ะลูซี่ หรือว่าฉันควรจะลงรถไฟเเล้วไปต่อเครื่องบินสักลำดี" ชายหนุ่มที่เริ่มรู้สึกกระอักกระอวน คิดหาวิธีไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกอยากจะอาเจียนมากไปกว่านี้ นี่ขนาดเเค่นั่งรอรถไฟจะออกลำตัวของชายหนุ่มจะพร้อมพุ่งไปที่หน้าต่างได้ขนาดนี้ เเล้วถ้ารถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีนี่เขาจะไม่กระโจนออกทางหน้าต่างเลยหรือไง "ใจเย็นนะ นัตสึ ถ้าจะหาทางออกควรหาทางออกที่มันไม่ต้องโอเวอร์ขนาดนั้นก็ได้นี่ยะ"เด็กสาวทำหน้าเหนื่อยใจก่อนจะลุกออกไปตามทางเดินเพื่อไปหานายสถานีว่าพวกเขามียาเเก้เมารถหรือเปล่าให้ชายหนุ่ม …….7 นาทีผ่านไป(ไวเหมือนโกหก) ลูซี่กลับมาพร้อมยาเเก้เมา 1 แผงเเละน้ำเปล่า 1 ขวด เเต่เหมือนว่าเธอจะมาช้าไปนิดทำให้เห็นสภาพที่ค่อนข้างเรียกได้ว่าไม่เหลือคราบของลูกชาย CEO เลย นัตสึในสภาพที่โก่งคออาเจียนออกไปนอกหน้าต่าง ให้เหล่าเพรชพลอยประกายวิบวับออกไปจากท้องของตัวเองค่อนข้างหมดสภาพทีเดียว ลูซี่ลืมไปเลยว่ารถไฟเคลื่อนที่เเล้วนัตสึคงอยู่ในสภาพที่เเย่สุดๆเลยเเน่นอน ลูซี่รีบให้นัตสึกินยาไป 2 เม็ดเเละให้หลับไปเลย ส่วนเธอที่นั่งอยูาฝั่งตรงข้างก็หยิบไปกระดาษโน๊ตของเธอออกมาโดยมีเจ้าเหมียวตัวน้อยนอนอยู่บนตักของเธอ "นี่ แฮปปี้นี่คือครั้งเเรกเลยใช่ไหมที่พวกเราจะได้พักผ่อนกัน แฮปปี้ก็ไม่เคยออกมาไกลขนาดนี้เลยใช่มั้ย" หญิงสาวพูดไปดูแผนที่ไป "เหมียว~~" เจ้าเหมียวน้อยตอบกลับไปเหมือนฟังรู้เรื่อง 'ดีเเล้วล่ะ ลูซี่ควรเองก็ควรพักผ่อนบ้างนะไอล์' "สถานที่เเรกที่เราจะไปก็คือเมืองเเมคโนเลียหล่ะ ที่นั้นได้ข่าวว่ามีเทศกาลชื่อว่าแฟนตาเซียด้วยหล่ะ เป็นเทศกาลที่วิเศษมากๆเลยหล่ะ หวังว่าคงจะเหมือนในนิตยสารนะต้องสวยมากเเน่เลยเนาะ เเฮปปี้" "เหมียว~" ณ สถานีรถไฟโอลิมบัส เมืองแมคโนเลีย เมืองเเมคโนเลียยามพระอาทิตย์ตกชายหญิงคู่หนึ่งพร้อมเจ้าเหมียวตัวน้อยกำลังมองหาที่พักที่จองไว้เป็นบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับใจกลางเมือง "ว้าว ที่นี่ซินะบ้านหลังนี่เเหละที่ฉันจองไว้ สุดยอดเป็นบ้านเเบบ 2 ชั้นด้วยเเหละนัตสึ"ลูซี่รู้สึกตื่นเต้นมากจากประสบการณ์เธออ่านหนังสือการเดินทางหลายเล่มมาก เธอมักคิดว่า 'เราอย่าไปหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้' บ้านที่จองไว้คงเก่าเเละก็ไม่สะอาดเหมือนที่จองออนไลน์ไว้ เเต่พอได้มาเห็นกับตาตัวเองบ้านหลังนี่ถือว่าน่าอยู่ มีความเป็นธรรมชาติเเละกว้างกว่าในรูปเยอะเลย นี่มันระดับที่เรียกว่าดีเยี่ยมไปเลยไม่ใช่หรอ!!! "นี่ลูซี่ เธอหยุดทำหน้าสยองเเบบนั้นจะได้มั้ย เเละมาช่วยกันขนของเข้าบ้านก่อนซิ" นัตสึที่ทำหน้าง่วงนอน เเละก็เอาเเต่ขนของมีเเฮปปี้อยู่บนหัว พูดให้เด็กสาวหลุดออกมาจากห้วงเเห่งความฝัน "ค่าๆ รู้เเล้ว ว่าเเต่นัตสึนายช่วยขนของเข้าไปก่อนเลยนะ ฉันจะไปติดต่อกับคุณเจ้าของบ้านก่อน " ลูซี่บอกกับชายหนุ่มเเละกำลังจะเดินออกจากบ้าน ก็ถูกชายหนุ่มรั้งไว้ก่อน "เดี๋ยวก่อนลูซี่ จะไปตอนนี้หรอ นี่ก็ใกล้ค่ำเเล้วนะพระอาทิตย์กำลังตกเเล้วด้วย นี่อย่าบอกนะว่าคิดจะอู้งาน ใจร้ายชะมัด" ชายหนุ่มเเกล้งเเซวเธอ "ไม่ใช่ยะ ฉันเเค่จะไปจ่ายเงินค่ามัดจำก่อนยะ เเล้วก็ไม่เป็นไรหรอกบ้านของคุณเจ้าของบ้านอยู่ห่างไปอีกไม่กี่หลังเอง" เธอบอกกับชายหนุ่มเเละเดินออกไป ที่เมืองเเมคโนเลียเเห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ ที่เมืองเเห่งนี้อยู่ในเขตรับผิดชอบของกลุ่มคนที่คอยช่วยเหลือผู้คนเเละดูเเลเมืองเเห่งนี้ พวกเขากลุ่มนั้นคือสมาพันธ์ประจำเมืองที่เรียกตัวเองว่าเเฟรี่ เทลที่แปลว่าหางแห่งภูติพรายสถานที่ที่พวกเเฟรี่เทลอาศัยอยู่จะตั้งอยู่ใกล้กับหอระฆังประจำเมืองแมคโนเลีย "นี่ค่ะ เงินค่ามัดจำตลอด 3 เดือน 14,000 จีเวลค่ะ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" "อ่อ เข้าใจเเล้วรักษาความสะอาด อย่าให้มีอะไรเเตกหักเสียหายหล่ะ ไม่งั้นจะต้องจ่ายให้อีก 2 เท่าเลยนะหล่อนน่ะ"คุณเจ้าของบ้านย้ำด้วยเสียงเเข็ง "ค่าๆ รู้เเล้วค่ะ" ‘โห้ว คุณเจ้าของบ้านโหดจังเเหะ’ "เธอมาทำอะไรที่เมืองนี่หล่ะ เห็นเดินทางมาตั้งใกล้ 'มาฮันนีมูนหรอ?' เห็นว่าจองมากลับชายหนุ่มคนหนึ่งนี่" เจ้าของบ้านกางพัดออกมาบังหน้าเเละหรี่ตามองลูซี่ "ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันกับเพื่อนเเค่มาพักผ่อนเท่าเองค่ะ เเละก็มาหาไอเดียเขียนหนังสือด้วย เห็นเเบบนี้ฉันเป็นนักเขียนนะคะ"เด็กสาวรู้สึกตกใจนิดหน่อย หน้าเเดงไปพร้อมๆกัน "งั้นหรอ ก็ดีเเล้วนึกว่าจะมาฮันนีมูน ถ้าพวกเธอเสียงดังโวกเวก โวยวายเพิ่มขึ้นอีก ฉันหล่ะไม่อยากจะคิด เเค่เจ้าพวกนั้นก็ปวดหัวจะเเย่เเล้ว" "เพิ่มขึ้นมาอีก หมายความว่า........" “ก็หมายความว่า เเค่เจ้าพวกเเฟรี่ เทล ฉันก็จะเเย่อยู่เเล้ว เธอรู้มั้ย พวกนั้นบลาๆๆ” บ้านพักของพวกนัตสึ (เมืองเเมคโนเลีย) “ลูซี่นี่ ช้าจังเลยเนาะแฮปปี้ ” “เหมียว" “จะเป็นอะไรมั้ยนะ”แฮปปี้ ที่ยืนอยู่บริเวณเท้าของนัตสึรีบไต่ตัวเองขึ้นไปนั่งที่ไหล่ของชายหนุ่มเเละถูไถ่ที่คอเป็นเชิงบอกกับนัตสึว่า 'ลูซี่ ไม่เป็นอะไรหรอก' "นั้นซินะ ลูซี่คงไม่เป็นอะไรหรอก ยัยนั้นถึงจะซื่อบื้อเเต่ก็เเข็งเเรงนะ" "เหมียว" นัตสึ คิดว่าลูซี่เป็นผู้หญิงถึกหรอ ไอล์ "ป่ะ แฮปปี้ เดี๋ยวเราออกไปเดินข้างนอกรอลูซี่กลับมากันดีกว่า ของก็จัดครบหมดเเล้ว เหลือก็เเต่ลูซี่นี่เเหละ" นัตสึเเละแฮปปี้เดินออกมาจากบ้านพักไปที่สวนสาธารณะแมคโนเลีย ที่นี่ในช่วงกลางคืนจะมีเเสงไฟตามทางเดิน เเละมีนักดนตรีมา บรรเลงดนตรีให้เข้ากับบรรยากาศที่สวนสาธารณะให้ดูสงบร่มรื่น มีผู้คนมาเดินเล่นที่สวนเเห่งนี้ในยามเย็นไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ จึงเป็นสถานที่ที่สงบมาก พวกเขาเดินมานั่งเล่นกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มองออกไปข้างหน้าของทั้งคู่คือเเม่น้ำสายที่อยู่ตรงกลางเเละฝั่งตรงข้ามคือหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่มีบ้านเรียงรายกันไป เเต่ละบ้านจะมีโคมไฟประดับตามหน้าบ้านเเต่ละหลังเพื่อให้เเสงไฟตามทางเดินทำให้ไม่ดูน่ากลัวให้ความสบายใจเเละความอบอุ่นเข้ามาเเทนที่ ส่วนเเม่น้ำที่คั่นระหว่างสองฝั่งทางเดินก็เป็นทางเดินเรือสำหรับขนส่งสินค้าหรือขนส่งคน บรรยากาศเเบบนี้ดูเป็นเมืองที่สงบเเละดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย ช่างสงบซะจริง เขาเป็นคนเสนอไอเดียการมาพักผ่อนครั้งนี้เองเเต่ก็ไม่ใช่คนเตรียมทริปในการเที่ยวในครั้งนี้หรอก ลูซี่เป็นคนเตรียมทั้งหมดเองเเต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเลือกสถานที่ที่ดีเเบบนี้มา เขานับถือลูซี่จริงๆ สำหรับนัตสึเเล้วเขาชื่นชมลูซี่ในหลายๆเรื่องเลย เเต่ก็มีหลายอย่างที่เธอทำให้เขาเป็นห่วงเเละกังวลตลอดเวลา เมื่อ 5 ปี ก่อนตอนที่รู้ข่าวว่าเธอหนีออกจากบ้านเเละไม่มาโรงเรียนอีกเลย เขาก็หัวเราะกับเพื่อนๆว่า 'ยังไงยัยนั้น ไม่มีทางใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวหรอก' ด้วยความที่ลูซี่ถือว่าเป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาอย่างไข่ในหินเธออาจจะใช้ชีวิตในโลกภายนอกไม่ได้หรอก 'เจอความลำบากมา เดี๋ยวเธอก็กลับมาบ้านเธอเองนั้นเเหละ' เเต่เเล้วเขาก็คิดผิด ตั้งเเต่ที่ลูซี่หนีออกจากบ้านไปเธอก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย เขาเองก็ไม่สามารถไปหาเธอด้วยตัวเองได้เพราะเขาต้องอยู่ช่วยพ่อของเขาเคลียงานที่บริษัทที่อยู่ต่างประเทศทำให้เขาร้อนใจมาก ให้คนตามหาเเละสืบค้นจนทั่วไปหมด เเต่เขาก็รู้ดีว่าลูซี่ไม่มีทางที่เปิดเผยตัวกับใครทั้งนั้น เมื่อเวลาล่วงเลยมา 5 ปี เขาก็ยังไม่ล้มเลิกแผนการในการหาตัวเธอหรอก จนเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาถูกญาติของตัวเองไว้วาน ให้ไปรับภาพวิวจากช่างถ่ายภาพฝีมือดีคนหนึ่งให้หน่อย เเล้วก็เหมือนโชคชะตาทำให้เขาได้มาเจอเธออีกครั้ง เเต่เขาก็ต้องบอกก่อนว่าเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเเละก็ตรงดิ่งมาเคลียงานที่บริษัทให้เสร็จจากนั้นก็มาทำธุระให้ญาติของตัวเอง ทำให้ไม่มีเวลาดูเเลตัวเองป่วย ทำให้เมื่อตอนที่เจอลูซี่เเรกๆเขาก็ล้มลงไปเลย เเต่พอมาฟื้นตัวที่บ้านลูซี่ได้เห็นว่าเธอทำอะไรบ้างเเละก็ภาพที่ทำให้เขาต้องตกตะลึง ก็เมื่อตอนที่อยู่ในห้องนอนของลูซี่บอกตามตรงเขาเพิ่งสังเกตหญิงสาวเเบบเต็มๆตาในคืนนั้นเอง เมื่อกาลเวลาผ่าน 5 ปี เธอโตขึ้นมาก จากเด็กสาวที่ทะเยอทะย้านคัดค้านหัวชนฝาว่าตนจะไม่ยอมทำตามกฏที่มีคนมากำหนดให้เธอเเละหนีออกจากบ้านมา จะกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง ดูน่าปกป้อง น่าถนุถนอม เปราะบางมาก หากสัมผัสเเรงไปอาจเเตกสลายได้ นั้นทำให้เขาใจเต้นเเรงมาก ทำตัวไม่ถูก เเต่ดีที่นิสัยของเธอก็ไม่เปลี่ยน เธอเป็นพวกมุทะลุ ซน ใจกว้าง มีความคิดในด้านบวกเยอะ มองโลกในเเง่ดี เเถมชอบตบมุกฮาๆตลอด "มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี่หรอนัตสึ แฮปปี้ นี่ก็ดึกมากเเล้วนะ"ลูซี่ที่เดินผ่านสวนสาธารณะมองเห็นพวกเขาเลยหันทิศทางเดินมาหาที่พวกเขา "เฮ้ ลูซี่ ฉันกับแฮปปี้ออกมาเดินเล่นข้างนอกรอเธอนะ นั่งคิดอะไรเพลินไปหน่อย" "ฮ่าๆ จริงๆเลย ดูซิแฮปปี้หลับไปเเล้ว เขาคงเหนื่องจากการเดินทาง"เด็กสาวบอกเพื่อนของเธอพร้อมมองแมวน้อยที่ทนความง่วงไม่ไหว หลับคาไหล่นัตสึไปเเล้ว "เเล้วนี่เธอจะไปไหนต่อ หรือจะกลับบ้านเลย" "ฉันจะกลับบ้าน อ่ะ ยื่นมือมาซิกลับบ้านเรากัน" "อ อืม กลับบ้านของพวกเรากัน"ชายหนุ่มจับมือเด็กสาวที่ช่วยให้ตนลุกขึ้น เขาชอบที่เธอพูดว่าบ้านของเรา เเละพวกเขาก็เดินกลับไปที่บ้านโดยที่ลืมไปเลยว่ายังจับมือกันอยู่โดยในอ้อมเเขนเด็กสาวมีเจ้าเหมียวน้อยนอนหลับปุ่ยอย่างสบายอารมณ์

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD