[PLAY BOY] EP01

2295 Words
การแต่งงานของใครหลายคนล้วนเกิดมาจากความรัก ความชอบ ความพึงพอใจ จนนำมาสู่การตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สำหรับ ซัน ดัสกร กิตติกูล การแต่งงานของเขาเกิดมาจากรักข้างเดียว ใช่! เขารักเฮียเทา รักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าในวันนั้น แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาได้เผลอสบเข้ากับดวงตาเรียวสีเข้มลุ่มลึกในตอนนั้น หัวใจที่เคยเป็นของเขามันก็ถูกยกให้เฮียเทาไปหมดทั้งใจเลยทันที จิตใจเด็กน้อยวัย15ปีปั่นป่วนจนควบคุมอัตราการเต้นไม่ได้ เมื่อได้ยินการพูดคุยเรื่องงานหมั้นหมายของตนเองกับคนตัวโตตรงหน้า ในวันนั้นเฮียเทาทำแค่นั่งมองหน้าเขานิ่งๆ ไม่ออกความเห็นใดๆ ไม่ได้บอกว่ายินดีหมั้นหรือบอกปฏิเสธ จนกระทั่งวันถัดมา ผู้ชายที่นั่งเงียบมาตลอดการพูดคุยเรื่องหมั้นหมาย กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าโรงเรียนของเขา พร้อมกับคำตอบรับยินดีการหมั้นและข้อตกลงที่เขาหลงกลตอบรับมันไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนตัวเองต้องมานั่งทุกข์ใจถามตัวเองซ้ำๆ ทุกวัน ว่าเขายินดีจะทนกับคนเจ้าชู้อย่างเฮียเทาจริงๆ น่ะเหรอ ซึ่งคำตอบของเขาคือไม่ เขาจะไม่ทน จะไม่แต่งงาน จะยกเลิกการหมั้นทุกอย่าง แล้วเขาเองก็จะหยุดทุกความรู้สึกกับเฮียเทาเย่นิสัยโคตรแย่สักที!!! อึก! “พอแล้วไหมซัน เดี๋ยวมึงจะขับรถกลับห้องไม่ไหวเอานะ” ทีมเอ่ยปากห้ามเพื่อนสนิทที่เพิ่งดื่มเบียร์หมดไป5กระป๋องรวด ตอนนี้ใบหน้าของคุณหนูซันขึ้นริ้วสีแดงทั้งหน้า ริมฝีปากบางฉ่ำไปด้วยเบียร์ ดวงตาปรือปรอยทำเหมือนพร้อมจะหลับตาตลอดเวลา ทีมขยับเข้าไปประคองคนตัวเล็กที่ทำท่าจะล้มตัวนอน แล้วกวาดเอากระป๋องเบียร์ทั้งดื่มแล้วและยังไม่ได้ดื่มออกให้ห่างรัสมีเอื้อมแขนของคนเมา ขื่นเขาปล่อยให้คุณหนูซันของเฮียเทาเมาเละมากไปกว่านี้เป็นเรื่องแน่ๆ “ไม่เอาอะ ไม่กลับ” คนเมาพูดทั้งหลับตาพร้อมส่ายหน้าพัลวัน เขาจะไม่กลับไปอยู่ร่วมห้องกับคนเจ้าชู้อีกแล้ว “กูจะไม่ทนกับคนเจ้าชู้อย่างเฮียเทาอีกต่อไป!” “รู้แล้วครับบบว่าคุณหนูซันไม่ทน แต่มึงจะตะโกนทำไมวะ เดี๋ยวข้างห้องก็ได้ยินหรอก กูไม่อยากไปทะเลาะกับนิติคอนโดนะเว้ย” “กูแม่งไม่น่าหลงไปหมั้นกับเฮียเทาเลย มีดีแค่นิดเดียวเอง ไม่เห็นเหมาะกับ อึก! คุณหนูซัน ดัสกร กิตติกูล เลยสักนิด” ใช่ เฮียเทาน่ะไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาเลยสักนิดเดียว ก็แค่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลฉาง ก็แค่หน้าดี ดีมากจนถูกโหวตให้เป็นนักธุรกิจเสน่ห์แรงเกินต้าน ก็แค่เป็นเจ้าของบริษัทส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ก็แค่เบื้องหลังต้นตระกูลเป็นมาเฟียอพยพมาจากฮ่องกง ก็แค่มีทรัพย์สินในครอบครองหลายหมื่นล้านแค่นั้น ก็แค่นั้นไงงง!! “ถ้า เทาเย่ ฉาง ไม่เหมาะสมกับ คุณหนูซัน ดัสกร กิตติกูล ในประเทศนี้ก็ไม่มีใครเหมาะกับมึงแล้วไหม เมาแล้วเลอะเทอะนะมึง” “กูหมายถึงทางด้านพฤติกรรมและความรู้สึกต่างหาก เฮียเทาไม่เหมาะที่จะได้ความรักจากกู ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคตก็แล้วแต่ กูดีเกินไปที่จะต้องมาทนอยู่กับคนอย่างเฮียเทา” “ไม่ทนแล้วจะเอาไง ถอดแหวนออกเลยไหม เดี๋ยวกูเอาไปทิ้งให้เอง” ทีมพูดจบแล้วแบมือขอแหวนทองคำขาวที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ คนถูกขอแหวนหลุบตามองนิ้วตัวเอง จู่ๆ คำพูดของคนตัวสูงมันผุดแทรกสติอันน้อยนิดของเขาขึ้น ‘เฮียไม่อนุญาตให้ถอดแหวน’ ‘เฮียจะลงโทษ’ ทันทีที่นึกถึงคำพูดนั้นขึ้นมาคนเมาก็รีบส่ายหน้าทันที ทั้งยังกุมมือทั้งสองข้างแน่น ไม่เอาอะ เขายังไม่อยากถูกเฮียเทาลงโทษ “มะ…ไม่เอา! ไม่ถอด! ถอดไม่ได้เด็ดขาดเลย” “เอ้า! แล้วมึงจะเอายังไงหืม…ไหนว่าไม่อยากแต่งไม่อยากหมั้น ก็ถอดแหวนทิ้งไปเลย เฮียเทาเขาจะได้รู้ว่ามึงไม่ใช่หนูซันคนเดิมที่จะทนกับความเจ้าชู้เขาอีกแล้ว” “ไม่ได้ เดี๋ยวกูโดนเฮียเทาทำโทษ” ซันยังคงยืนยันคำเดิมว่าเขากลัวโดนทำโทษ พอคิดถึงบทลงโทษแล้วคนตัวเล็กก็รีบขยับตัวขึ้นมานั่งคุดคู้อยู่บนโซฟา สองแขนเล็กกอดขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้แน่น มาเฟียตั้งแต่ต้นตระกูลแบบเฮียเทาต้องทำโทษเขาหนักแน่ๆเลย ต้องจับเขาไปขัง หาไม้แข็งมาตี หรือจะล่ามโซ่เขาไว้ทรมานเหมือนในหนังวะ ยิ่งคิดคนเมายิ่งสติแตก ถึงแม้จะรู้ว่าความคิดตัวเองตอนนี้มันดูเหมือนจะหลุดโลกไร้สติมากเกินไปแล้ว แต่คนเมาก็หยุดความคิดตัวเองไม่ได้สักที เหมือนกับคนที่เดินหน้า3ก้าวแต่ถอยหลัง5ก้าวนั่นแหละ รู้ว่ากำลังถอยมากกว่าเดินหน้าแต่มันก็ห้ามขาไม่ได้อยู่ดี “กูว่ามึงเมามากแล้วนะซัน เดี๋ยวกูให้คนของอาโปไปส่งที่เพ็นเฮ้าส์ดีกว่า” ทีมเข้ามาประคองคนตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืน ทว่าก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ จากคนเมาหนักเลย ซันทั้งสะบัดตัว ทั้งงอแง ตั้งท่าไม่ยอมกลับเพ็นเฮ้าส์ท่าเดียว “ทำไมกูค้างที่นี่กับมึงไม่ได้วะ มึงแม่ง…จะให้กูกลับไปหาเฮียเทาอยู่ได้” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับเบะปากคว่ำ ดวงตาฉ่ำวาวเล็กน้อยด้วยหยาดน้ำตา เขาไม่อยากกลับไปเจอคนใจร้ายแล้วหนิ ความรักและความดีที่เขาทำมาตลอดถูกเพิกเฉยไร้ความสนใจ “มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว ทำอย่างกับมึงไม่รู้นิสัยอาโป” พอพูดถึงนิสัยของอาโปทีมก็มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที อาโปทายาทผู้สืบทอดธุรกิจคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ น้องชายคนละพ่อคนละแม่กับอิ้งเพื่อนสนิทของเขา ที่ตอนนี้สละทุกอย่างทิ้งแล้วไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะส่วนตัวกับคุณมาเฟียสามีสุดที่รัก ปล่อยทิ้งให้เขาต้องมารับมือกับคนผีเข้าผีออกอย่างอาโป แถมเด็กนั่นยังมายัดเหยียดสถานะเมีย (ไม่จำยอม) ให้เขาอีก จะหนีก็ไม่ได้ จะปฏิเสธก็ไม่ได้อีก ในเมื่อไอ้เด็กนั่นมันเอาปืนมาจ่อหัวขู่เขาทุกวัน ว่าถ้าเขามีคนอื่นหรือคิดจะทิ้งมันไป ลูกปืนในกระบอกได้มาฝั่งอยู่ในหัวสมองเขาแน่! “หนูทีมไม่ต้องให้คนไปส่งหนูซันหรอกค่ะ เดี๋ยวเฮียพากลับเอง” เฮือก!! ทีมสะดุ้งเฮือก เขารู้สึกเย็นวาบไปทั้งไขกระดูกสันหลัง รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่เย็นเยือกและครุกรุ่นอยู่ตรงด้านหลัง บรรยากาศทั้งร้อนและหนาวก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อทีมหันกลับมามองแล้วเห็นทั้งเฮียเทาที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ กับอาโปแฟนเด็กที่เขาไม่อยากได้กำลังแสยะยิ้มน่าขนลุกอยู่ตรงหน้า “เอ่ออ…สะ…สวัสดีครับเฮียเทา” ทีมยกมือไหว้เทาเย่พร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ แต่ทว่าสายตาของอีกคนกลับไม่ได้สนใจมองเขาเลย “เอ่อ…ผมกำลังจะพาไปส่งแล้วนะครับ แต่…เฮียเทามารับก่อน” ทีมรีบแก้ต่างให้ตัวเองก่อน เพราะตอนนี้เฮียเทาดูไม่สบอารมณ์สุดๆ เหมือนระเบิดที่พร้อมทำลายตัวเองตลอดเวลา เขาต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน เขายังไม่อยากมีปัญหากับมาเฟียแดนไกลอย่างเฮียเทา ทีมรีบขยับตัวออกห่างเพื่อนตัวดีที่หนีมาเมาอยู่ห้องตัวเอง แล้วปล่อยให้คู่หมั้นอย่างเฮียเทาได้เข้ามาอุ้มเพื่อนเขาออกไปจากห้อง คนเมาดิ้นขลุกขลักตลอดทางเดินมายังรถ คนตัวเล็กไม่ได้แรงน้อยอย่างน้ำหนักตัวเลยสักนิด บางจังหวะหนูซันตัวน้อยก็เกือบทำคนแข็งแรงอย่างเทาเย่ล้มหงายหลังเหมือนกัน เทาเย่วางคนน้องลงตรงเบาะด้านหลัง ก่อนจะพาตัวเองเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วสั่งให้คนขับรถนำรถออก ตั้งแต่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระคนตัวเล็กก็เอานั่งกอดเข่ามองแสงไฟด้านนอกหน้าต่างตลอดเวลา ไม่ยอมหันมามองหรือสบตากับคนข้างๆ สักวินาทีเดียว จนคนตัวโตเริ่มทนกับความเงียบและอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหว หนูซันไม่เคยเงียบใส่เขา ไม่เคยเมินเขา หรือทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนแบบวันนี้มาก่อน และเขาก็ไม่มีทางยอมอยู่นอกสายตาหนูซันตัวน้อยของเขาแน่นอน “หนูซันจะไม่พูดกับเฮียจริงๆ ใช่ไหมคะ” เทาเย่เอ่ยทำลายความเงียบ ทว่าคนถูกถามก็ยังปิดปากสนิท หนูซันยังนั่งอยู่ท่าเดิม มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม ความดื้อเงียบที่คนน้องแสดงออกมาตอนนี้ทำเอาคนพี่ถอนหายใจหนัก “หนูซันเป็นอะไรคะ เคือง โกรธ หรือว่างอนที่เฮียไม่ยอมยกเลิกงานแต่ง ไม่ยอมถอดหมั้น ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้หนูซันเงียบไปตลอดทางได้เลยค่ะ เพราะยังไงเฮียก็จะแต่งกับหนูซัน” เทาเย่พูดน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงอีกครั้ง เพื่อหวังว่าเด็กดื้อขี้เมาจะยอมปริปากคุยกับเขาบ้างสักคำ หนูซันเป็นแบบนี้เขาไม่ชอบเอาซะเลย “หนูซัน…” ผลั่ก! !!! คนตัวสูงถึงกับชะงักไปชั่วครู่ เมื่อมือที่เขาเอื้อมไปแตะแขนเรียวถูกอีกฝ่ายสะบัดหนีอย่างไม่ใยดี แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชายแพรวพราวอย่างเทาเย่ต้องหยุดนิ่งทุกอย่างนั่นไม่ใช่แรงสะบัดเมื่อครู่ แต่มันคือหยดน้ำตาหยดโตที่หล่นมาจากดวงตาสีอ่อนตรงหน้าต่างหาก น้ำตาเพียงแค่หยดเดียวก็ทำให้เทาเย่ทำอะไรต่อไปไม่ถูกแล้ว แต่นี่หนูซันของเขากำลังร้องไห้หนัก ร่างบอบบางสะอื้นตัวสั่น ทั้งจมูกทั้งแก้มแดงจัดไปหมด “เราเหนื่อยแล้วนะเฮีย! ฮึก!” เสียงทุ้มนุ่มตะเบ็งใส่คนเจ้าชู้ตรงหน้า “เรายอมเล่นละครเป็นคู่หมั้นกับเฮียมาตั้ง6ปีอะ 6ปีเลยนะที่เราต้องทนกับคนเจ้าชู้อย่างเฮียอะ เราเหนื่อยแล้ว ได้ยินไหมเราเหนื่อยแล้ว ฮึก!” เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันเริ่มทำงาน คนที่ดื่มไปเยอะอย่างซันเลยขาดสติ อะไรที่เก็บไว้ในใจหรือที่กำลังคิดและรู้สึกอยู่ ก็ถูกพูดระบายออกมาจนหมดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าคือ เทาเย่ ฉาง ซันก็ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้พูดได้ในตอนนี้ ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะพูดมันผิดข้อตกลงก็เถอะ “อึก! เรารักเฮียมาตลอดเลยนะ ทำไมเฮียไม่เห็นความรักของเราบ้างล่ะ มันไม่ชัดเจนเหรอ หรือเพราะเฮียไม่สนใจกันแน่ ฮือ… เรารักเฮียมา6ปีเลยนะ ทำไมไม่ทำตัวให้สมกับที่เรารักบ้างล่ะ” ซันถามพร้อมกับจับคอเสื้อเชิ้ตคนตรงหน้าเขย่าไปด้วย เขาอยากได้คำตอบจากเฮียเทา อยากรู้ว่าอีกฝ่ายเคยคิดจะมีใจให้เขาบ้างไหม เห็นหน้าเขามาทุกวันเกือบ3ปีแบบนี้เคยคิดหวั่นไหวบ้างไหม ส่วนเขาน่ะ ทั้งหวั่นทั้งไหวจนแทบจะไม่เป็นตัวเองอยู่แล้ว! “เราไม่ดีพอเหรอ หรือเราไม่น่ารัก เราไม่สวย เราไม่น่าดึงดูดเหรอ หรือเราจะต้องร้าย ต้องเอาแต่ใจ ต้องเก่งแบบอิ้ง หรือต้องแต่งตัวยั่วยวนเหมือนไฮโซหลายคนที่เฮียเคยควงอะ เราต้องเป็นแบบไหนเฮียถึงจะรักเราบ้าง ฮือ…” คำพูดระบายความในใจมากมายพรั่งพรูออกมาไม่หยุด เทาเย่รับรู้ได้ถึงความเปียกชื้นตรงอกข้างซ้ายที่คนน้องซบหน้ามาซับน้ำตา หนูซันยังคงสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของเขา น้องเอาแต่ซบอยู่ที่อกไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาเช่นเคย และเขาก็ไม่คิดที่จะบังคับให้น้องเงยหน้าทั้งที่ไม่เต็มใจ ถ้าหนูซันตัวน้อยอยากร้องเขาก็จะคอยปลอบ มือหนาลูบลงบนกลุ่มเส้นผมสีอ่อนเบาๆ แต่แล้วประโยคที่เพิ่งหลุดออกมาจากริมฝีปากบางก็ทำให้มือของเขาต้องหยุดชะงัก และรู้สึกเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงไปช้าๆ เหมือนคนกำลังหมดลมหายใจ “ฮึก… เราจะหยุดแล้ว เราจะไม่รักเฮียแล้ว” อึก! คนเจ้าชู้ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่อยากเสียหนูซันตัวน้อยไปนะ เขาจะไม่เป็นไอ้โบ้โดนเจ้าสาวเทขบวนขันหมากทิ้งเด็ดขาด ถ้าหนูซันรักเขาอยู่แล้ว เขาก็จะทำให้รักยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้ากำลังจะหมดรัก เขาก็จะทำให้รักเขาอีกซ้ำๆ คอยดู หนูซันตัวน้อยหนีไม่รอดน้ำมือเฮียเทาคนนี้หรอกค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD