...รุ่งเช้าวันถัดมาณัชชาก็นั่งหน้ายุ่งหงุดหงิด
"เฮ้อ! จะชวนไหมก็ไปไม่ได้ สาไม่ยอมให้ไปไหน ติดเมียห่วงลูกมากกก จะชวนอันไปก็ไม่ได้ จะหาที่พักแบบเงียบๆ สงบๆ ก็ไม่มีอีก หรือว่าฉันจะต้องนั่งเฉาอยู่แต่ในบ้านเนี่ย!" ณัชชาบ่นพึมพำ
"เป็นอะไรคุณ หน้ายุ่งเหมือนยุงตีกัน"
“นายไม่ต้องมาพูดเลย เพราะนายนั่นแหล่ะ"
"เพราะผม! ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ"
"ก็นายจะตามฉันไปหัวหิน นี่ที่พักก็หาไม่ได้เลย"
"เรื่องที่พัก..ผมรู้จักอยู่ที่นึง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง"
เมื่อเมธัสรับปากว่าจะจัดการให้ เธอจึงไปเตรียมตัวเก็บสัมภาระ และไม่นานทั้งคู่ก็ออกเดินทาง...
เจนจิรามาหาอันลิตาเพื่อนรักที่โรงแรม..
"อันเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย"
"ก็สะดวกสบายดีจ้ะ แต่ยังไม่คุ้นกับเส้นทาง"
"เจนบอกอันแล้วว่าให้ไปอยู่ด้วยกัน"
"จะให้อันไปอยู่ด้วยน่ะ เจนถามความสมัครใจของพี่ชายเจนหรือยัง!"
"เนี่ย!เดี๋ยวเจนโทรถามให้เดี๋ยวนี้เลย อันก็จะได้ยินด้วยไง"
เจนจิราต่อสายโทรศัพท์หาพี่ชาย และเปิดลำโพงเพื่อให้อันลิตาได้ยินด้วย
"พี่เจษษษ.."
"ว่าไงยัยตัวยุ่ง มีอะไรจะขอพี่อีกล่ะ เสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้"
"ก็มีนิดหน่อยค่ะ"
"รีบๆพูดมา เดี๋ยวพี่จะเข้าประชุมบอร์ด"
"เจนจะขอพาเพื่อนไปอยู่ที่บ้านด้วยค่ะ"
"ใคร!เพื่อนที่ไหน"
"เพื่อนที่เรียนมหาลัยมาด้วยกัน.."
"แล้วบ้านช่องเขาไม่มีหรือไง"
"มีค่ะแต่อยู่อังกฤษ"
"ฝรั่ง?"
"ไม่ใช่ค่ะ เป็นคนไทยนี่แหล่ะ แต่อันไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก"
"แล้วคิดยังไงถึงอยากจะกลับมาเมืองไทย เพื่อนเรานี่เด็กใจแตกหนีออกจากบ้านมาหรือเปล่า" เจษฏาถามด้วยความสงสัย
"จะบ้าเหรอพี่เจษ ยัยอันอายุ25เท่าเจนค่ะ"
"อิตาบ้า!ถือดียังไงมาว่าฉันเป็นเด็กใจแตก!" อันลิตาหน้ายุ่งรู้สึกเคืองเจ้าของเสียง
"แล้วมาเมืองไทยทำไม"
"จะมาหางานทำค่ะ"
"เมืองนอกงานก็มีมากมายและเงินดีกว่าซะอีก"
"พี่เจษนี่ซักอย่างกับว่าเราเป็นเชลย..เงินดีแต่ไม่มีเจนอยู่น่ะค่ะ..เจนอยู่ที่ไหนอันก็อยู่ที่นั่น"
เจษฏารู้สึกว่าฟังดูแปลกๆ ยัยผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับน้องสาวของเขากันแน่...
"ถ้าพี่ไม่ให้เพื่อนเราอยู่ล่ะ"
"เจนก็จะย้ายออกมาอยู่กับอันเอง" เจนจิราใช้ไม้ตาย
"ไม่ได้นะยัยเจน พ่อกับแม่รู้เข้าก็ได้ดุพี่ตาย"
"สรุปยังไงคะ ให้อยู่หรือไม่ให้"
"ให้เพื่อนเรามาอยู่ก็ได้..แต่!อย่าชวนกันเหลวไหลหรือเที่ยวเตร่ละกัน"
"ขอบคุณค่ะพี่เจษ พี่เจษน่ารักที่สุดเลย"
"ไม่ต้องมาปากหวาน พี่ทำงานก่อนนะ"
"ค่ะ บ๊ายบาย เย็นนี้เจอกันค่ะ"
"เป็นไง!แค่นี้ก็เรียบร้อย" เจนจิรายิ้มให้เพื่อนอย่างดีใจ แต่อันลิตากลับรู้สึกกังวล..
เมธัสขับรถเงียบๆมาตลอดทาง เขาชำเลืองมองณัชชา รายนั้นนั่งเล่นแต่โทรศัพท์ สงสัยจะติดโซเชียล แล้วท่าทางจะเป็นเรื่องไม่ดี หน้าเธอถึงได้นิ่วคิ้วถึงได้ขมวดขนาดนั้น เขาขับต่อไปอีกไม่นานหันมามองเธออีกที แม่คุณคอพับหลับไปแล้ว เขาขับรถมาจอดหน้าบ้านพักหลังกระทัดรัดหลังหนึ่งริมทะเล เมธัสหันไปมองณัชชาเธอยังคงนอนหลับไม่รู้สึกตัว เขามองแล้วอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ
"ตอนหลับนี่ก็น่าเอ็นดูเหมือนเด็กเลยนะ" เขาปลดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ณัชชาก็สะดุ้งตื่น
"ถึงแล้วเหรอ?"
"ถึงนานแล้ว"
"แล้วทำไมนายไม่ปลุกฉันล่ะ"
"ผมเห็นคุณกำลังหลับสบายก็ไม่อยากรบกวน"
ณัชชามองผ่านกระจกเข้าไปยังบ้านพัก
"เป็นบ้านเดี่ยวเหรอ?"
"ใช่!..ก็เงียบสงบเป็นส่วนตัวอย่างที่คุณต้องการไง"
"แต่มันจะเงียบไปมั้ย ห่างไกลชุมชนอีก" ณัชชาบ่นออกมา
“คุณนี่ก็เรื่องเยอะนะ”
“เอ่อ..”
จนทั้งคู่ลงจากรถ ถือกระเป๋าสัมภาระเดินเข้ามาในบ้าน ระหว่างทางเดิน..?บ้านหลังเล็กๆมีแนวต้นไม้เป็นรั้วสูงเกือบ2เมตรปิดบังสายตาจากผู้คนภายนอกได้เป็นอย่างดี ณัชชาเดินสำรวจภายในบ้านมี 2ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นและส่วนที่เป็นครัวไว้ประกอบอาหาร ด้านในสุดมีสระว่ายน้ำขนาดย่อมติดกับริมหาด มองวิวทิวทัศท้องฟ้าและทะเลสุดลูกหูลูกตา?
"แม่บ้านคงจะมาทำความสะอาดและเตรียมอาหารไว้ให้เราแล้วก่อนเรามาถึง"
"ลักษณะของที่นี่น่าจะเป็นบ้านพักตากอากาศส่วนตัวมากกว่าบ้านเช่านะ..บ้านใคร?"
"บ้านของอดีตลูกความที่ผมเคยช่วยเขาไว้น่ะ คุณชอบเหรอ"
"ฮืมม์..ขนาดน่ารักกำลังดี มีหาดส่วนตัวด้วยใช่มั้ย"
"ใช่..เป็นหาดส่วนตัว คุณจะเดินเล่นหรือว่ายน้ำได้ตามสบายเลย"
เมื่อเก็บสัมภาระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณัชชาก็รวบผมมวยไว้หลวมๆแล้วลงไปเดินเล่นบริเวณชายหาด เมธัสยืนมองเธอเพลินๆอยู่ระยะนึงแล้วตัดสินใจเดินตามลงไป ระหว่างเดินเล่นริมชายหาดณัชชาเห็นเขาเดินตามเข้ามาใกล้ก็เอ่ยซักถามขึ้นมา
"นี่นายเมธัส.."
"คุณเรียกผมสั้นๆว่าแม็คเหมือนนายก้องก็ได้นะ"
"โอเค..นายแม็ค นายก็รู้ประวัติฉันเยอะพอสมควร ฉันขอถามนายบ้างได้หรือเปล่า"
"ได้!"
"นายมีพี่น้องหรือเปล่า"
"มี" เมธัสตอบสั้นๆ
"แล้วแฟนล่ะ"
"ไม่มี!"
"แล้วทำไมนายถึงเกลียดหรืออคติกับผู้หญิงล่ะ"
"ข้อนี้..ผมขอไม่ตอบ"
"นายไม่คิดจะชอบผู้หญิงจริงๆเหรอ" เมธัสยังคงเงียบ ณัชชาหันหน้ามาจ้องเขาเพื่อรอฟังคำตอบ เธอทำลอยหน้าลอยตาอย่างอยากรู้ แต่เมธัสยังคงก้าวเดินต่อ
"ว่าไง" ณัชชาตื้อรอคำตอบ เธอมองหน้าเขาไปด้วย เดินถอยหลังไปด้วย
"โอเค ไม่ตอบก็ไม่ตอบ แต่นายไม่ชอบนั่นแหล่ะดีแล้ว ฉันจะได้สบายใจ ไม่ต้องฝืนไม่ต้องเกร็ง"
("ยัยบื้อ! แฟนก็เคยมีแล้วแยกไม่ออกเลยหรือไงว่าผู้ชายกับเกย์มันต่างกันยังไง ทำลอยหน้าลอยตาน่าจะจับมาจูบลงโทษจริงๆเลยแม่คุณ") เมธัสคิดแต่ทำหน้านิ่งขรึม ณัชชาก็เดินถอยหลังไปซักถามเขาไป
"ว๊าย!" เธอไม่ได้ดูทางเพราะเดินถอยหลัง เท้าเธอตกลงในหลุมทรายเล็กๆจะหายหลัง ปฏิกิริยาของเมธัสก็ไว เขาจับแขนดึงร่างเธอมาปะทะอกกว้างและรวบเอวเธอไว้ทันที ณัชชาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเข้มและแววตานิ่งๆสีน้ำตาลคู่นั้น จมูกของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงเซ็น จนณัชชาต้องกลั้นหายใจแล้วพลันก็นึกในใจ (เกย์จำเป็นต้องหล่อขนาดนี้มั้ยยย) ทำไมเธอรู้สึกหัวใจเต้นแรงแบบนี้ล่ะ?
"เอ่อ..ปล่อยฉันได้แล้ว.."
"เจ็บเท้าหรือเปล่า" เมธัสปล่อยมือจากแขนและเอวบางช้าๆ ก่อนจะก้มลงมองเท้าของณัชชา
"ปล่ะ..เปล่า..ขอบคุณ!"
"เดินระวังๆหน่อยสิคุณ" เขาเอ็ดเหมือนเธอเป็นเด็กๆ
"ใครมาขุดหลุมไว้เนี่ย เจ้าปูลมแน่เลย" ณัชชาเฉไฉแก้เก้อ แล้วทั้งคู่ก็เดินไปเรื่อยๆ
"คุณจะทำยังไงต่อไป.." เมธัสตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น
"คงจะให้เรื่องเงียบคนลืมไปเอง"
"แต่ท่าทางแฟน..แฟนเก่าคุณจะไม่ยอมราวีง่ายๆ แล้วเรื่องเงินที่เขาโกงคุณไปอีกล่ะ"
"ช่างมันเถอะ ฉันโง่เองที่หลงไว้ใจเชื่อใจเขามากเกินไป ไม่มีหลักฐานอะไรจะเอาผิดเขาด้วย"
"แต่นั่นเป็นหยาดเหงื่อของคุณ"
"พูดถึงเรื่องเงิน..ค่าจ้างของนายที่เราตกลงกันไว้..รอฉันได้เงินจากการถ่ายละครแล้วฉันจะรีบเคลียร์ให้นะ"
"ไม่เป็นไร! ผมไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบใช้"
"ทิ้งเรื่องเครียดๆไปเล่นน้ำกันเถอะ" อยู่ๆณัชชาก็เอ่ยชวนขึ้นมา
"ไม่ล่ะ! ผมไม่ได้เตรียมชุดมา"
"มานี่เลย" ณัชชาลากเมธัสลงทะเล แล้วแกล้งกวักน้ำสาดใส่หน้าเขา
"นี่คุณหยุดนะ!" ณัชชายังคงเล่นสนุกแกล้งเขาไม่หยุด เมธัสจึงเข้าไปรวบเธอไว้ แก้มสีชมพูใสๆมีหยดน้ำเกาะพราวไปทั่วใบหน้า ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ชวนให้มองไม่รู้เบื่อจริงๆ ณัชชาจ้องตาเมธัสอย่างค้นหาว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ก็มองไม่ออก (นี่เธอคงไม่รู้ตัวสินะว่าความสดใสเป็นธรรมชาติของตัวเองกำลังทำให้ผู้ชาย
ที่รู้สึกเฉยเมยและเย็นชากับผู้หญิงมาตลอดเริ่มรู้สึกแปลกๆ เวลาอยู่ใกล้เธอ หัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างบอกไม่ถูก)..
ณัชชาเบี่ยงตัวหลบเมธัส ทั้งคู่เล่นน้ำไปต่างก็แกล้งกันไปกันมาอย่างสนุกสนานจนลืมความรู้สึกสงสัยและความตั้งใจของตัวเองไปเสียสนิท..
..คฤหาสน์จิตตรา..
เจษฎาเป็นลูกชายคนโตของคุณเชนนักธุรกิจชาวฮ่องกงกับคุณจิตตรานักธุรกิจชาวไทย ทั้งคู่ดูแลบริษัทด้านพลาสติกสาขาใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง ให้เจษฎาลูกชายเพียงคนเดียวดูแลบริษัทลูกในเมืองไทย ส่วนลูกสาวคนเล็กส่งไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อังกฤษและตอนนี้เจนจิราก็กลับมาเมืองไทยเพื่อจะช่วยงานพี่ชาย
เจษฎาทำแต่งาน มีแฟนแฟนก็ทนไม่ได้เพราะเขาบ้างาน ขี้หึงแล้วยังปากไม่ตรงกับใจอีก เขารักและหวงน้องสาวเพียงคนเดียวของเขามาก
เจนจิราพาอันลิตามาถึงบ้าน รอไม่นานเจษฎาก็กลับมาถึงบ้าน
"พี่เจษษษ" เจนจิราเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย
"ว่าไงยัยตัวยุ่ง ไหนล่ะเพื่อนของเรา"
"นี่ค่ะพี่เจษ..อันลิตา"
"อัน..นี่พี่เจษ"
"สวัสดีค่ะ" อันลิตากล่าวทักทาย แต่เจษฎากลับยืนนิ่งทำหน้าขรึมจ้องมองเธอเหมือนไม่ชอบใจ
"พี่เจษ! นี่เพื่อนของเจน"
"อืม..เชิญตามสบาย คิดซะว่าเป็นบ้านของเธอละกัน" เจษฎาเอ่ยขึ้นแต่อันลิตารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังประชด
"ขอบคุณค่ะ..ฉันมารบกวนคุณไม่นานหรอกค่ะ เมื่อหางานได้แล้วก็จะรีบย้ายออกไปทันที"
"อวดเก่ง!" เจษฎาเอ่ยออกมาเบาๆ
"ไม่ได้นะอัน!"
"แต่.."
"อย่าเพิ่งพูดเลย ยังไงอันก็ต้องหางานอีกระยะนึง เราขึ้นไปดูห้องกันเถอะ นอนห้องเดียวกันนะ" เจนจิราโอบไหล่อันลิตาเดินขึ้นไปยังด้านบนโดยไม่สนใจเจษฏา เจษฏายืนมองทั้งคู่ด้วยความหงุดหงิดไม่พอใจ...
...เช้าวันใหม่..
"ทำไมเพื่อนของเรายังไม่ลงมาอีกยัยเจน"
"แหมพี่เจษรีบก็ทานไปก่อนได้เลย"
"ไม่มีใครบอกเธอหรือไงว่ากฎของบ้านนี้..ต้องมาทานมื้อเช้าพร้อมกัน 7โมงครึ่ง ทำไมต้องให้แม่บ้านไปตาม"
"เอ่อ..ขอโทษนะคะ..ที่ลงมาช้า แต่ฉันไม่ทราบค่ะ"
"เจนลืมบอกอันเองแหละพี่เจษ"
"มานั่งดีกว่าอัน" เจนจิราลุกขึ้นมาจูงเพื่อนรักไปนั่งใกล้ๆ ตน
"เอ่อ..ขอบใจจ้ะเจน"
"ทานข้านกันดีกว่านะ นี่อร่อย"
"ขอบใจจ้ะ"
"อันนี้ของโปรดอัน เจนจำได้" เจนจิราเอาใจใส่เพื่อนรัก ตักนั่นตักนี้ให้ เจษฎาเห็นแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา
"ยัยเจน!"
"คะ? พี่เจษ"
"มานี่ เรามานั่งข้างพี่!"
"ทำไมล่ะพี่เจษ"
"พี่บอกให้มา..ก็มา!" เจนจิราย้ายไปนั่งข้างเจษฎา อันลิตาก็ก้มหน้าทานเงียบๆ ย้ายไปนั่งตรงกันข้ามแล้วเจนจิราก็ยังดูแลตักอาหารให้เพื่อนเป็นระยะๆ เจษฎาจึงชวนน้องสาวคุย
"เมื่อไหร่เราจะเข้าไปช่วยงานพี่ซะที"
"เจนขอรอให้อันหางานทำได้ก่อนนะพี่เจษ แล้วเจนจะเข้าไปทำงาน"
"เธอจบอะไรมา แล้วคิดไว้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหน"
"จบคณะบริหารค่ะ จะไปสมัครแถวสาทร"
"บริษัทต่างชาติ! แล้วถ้าเธอหางานไม่ได้ น้องสาวฉันก็ไม่ต้องทำงานทำการสินะ"
"ฉันจะพยายามหางานให้ได้เร็วที่สุดค่ะ"
"พี่เจษคะ เอ่อ..บริษัทเรามีตำแหน่งงานว่างไหมคะ ถ้าเจนจะขอให้อันไปทำงานกับเรา"
"เจน!" อันมองหน้าเพื่อนอย่างตกใจ
"บริษัทเราไม่มีตำแหน่งว่าง มีแต่ตำแหน่งรองผู้จัดการของเรานั่นแหล่ะ"
"ว้า! เสียดายจัง"
"พี่ให้เวลาเราอีกแค่อาทิตย์เดียวนะยัยเจน อาทิตย์หน้าเธอต้องเข้าไปทำงาน!"
"แต่พี่เจษคะ.."
"ไม่มีแต่ ไม่งั้นพี่จะรายงานป๊ากับม้า"
หลังจากการสนทนาจบลงทั้งสามก็ทานข้าวเงียบๆ ต่างคนก็ต่างคิดไปคนละเรื่องละราว เจษฎายังคงสงสัยความสัมพันธ์ของน้องสาวกับผู้หญิงคนนี้ อันลิตารู้สึกว่าเจษฎาไม่ค่อยพอใจในการที่เธอมาอยู่ร่วมชายคาด้วย เจนจิราก็กังวลเรื่องหางานของเพื่อนรัก..