วิวาห์ วาเลนไทน์ (ต่อ)1

1568 Words
ก่อนหน้านี้ครอบครัวเธอหยิบยืมเงินทองจากตฤณมาเป็นจำนวนหนึ่งล้านบาทแล้วเพื่อเป็นค่ารักษามารดา ถ้าหากเขาจดทะเบียนสมรสกับเธอจริงๆ เธอก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขาเลย เธอขอแค่อาศัยชื่อเขาเพื่อคุ้มครองตัวเอง “ปีนี้อายุเท่าไรแล้ว” “คะ” เพราะมัวแต่ครุ่นคิดอยู่เงียบๆ จึงไม่ทันได้ยินคำถามของคนตัวโต “ฉันถามว่าปีนี้อายุเท่าไร” “ยี่สิบเต็มค่ะ” ตฤณพยักหน้า เข้าใจไม่ผิดว่าเธออายุยี่สิบปีแต่ที่ถามไปนั้นก็เพื่อให้แน่ใจ จากนั้นก็จูงมือของม่านพิรุณให้ลุกขึ้นแล้วพาไปหาเจ้าหน้าที่ คุณผ่องพรรณคลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ นางอยากให้หลานได้แต่งงานกับหมอตฤณ เพราะอีกฝ่ายเป็นคนดี นางไม่ได้เห็นแก่เงินทองแต่อยากให้หลานได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ ที่ดูแล คุ้มครองได้ ไม่อยากให้ซ้ำรอยกับสายพิรุณที่เลือกคนผิดจนชีวิตพังพินาศ นอกจากอยากให้ตฤณช่วยเป็นไม้กันหมาให้หลานสาวแล้ว นางเองก็หวังลึกๆ ให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นเรื่องจริงอยากให้หลานครองคู่กับหมอตฤณไปจนตลอดรอดฝั่ง ม่านพิรุณเรียบร้อย น่ารัก นางเชื่อว่าหลานจะเอาชนะใจหมอตฤณได้ และหมอตฤณจะรักหลานสาวของนางอย่างหมดใจ “พี่หมอตฤณคะ ไม่ต้องจูงมือก็ได้ค่ะ” ตฤณหันมามองมือตัวเองที่จับมือเล็กไว้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกหน้าร้อนวาบ ขณะที่ม่านพิรุณประสานสายตากับคนที่จะมาเป็นสามีแล้วหลุบตาลง ตฤณเห็นหน้านิ่งๆ ของสาวน้อยตรงหน้า ก็เข้าใจทันทีว่าคงประหม่าอาย แต่ที่เขาจูงมือมาด้วยกันก็เพื่อสร้างความคุ้นเคย แต่ถ้าเธอไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ตฤณปล่อยมือเล็ก กลืนน้ำลายลงคอ หันหลังเดินนำหน้าไปหาเจ้าหน้าที่ ขณะที่ม่านพิรุณมองแผ่นหลังกำยำในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเข้มนั้นแล้วระบายลมหายใจออกมา ทำไมถึงต้องใจเต้นแรงด้วยนะ พี่หมอตฤณแค่แต่งงานช่วยเราเท่านั้น เมื่อสอบถามถึงเอกสารที่ต้องใช้ซึ่งไม่มีอะไรมากแค่บัตรประชาชน หากแต่ว่าต้องมีพยานสองคน คนแรกคือคุณผ่องพรรณ ส่วนคนที่สองจะเลือกใครดี ตฤณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ ก่อนตัดสินใจโทร.หาตัวช่วยของเขา “แสนอยู่ที่ไหน ติดธุระอะไรหรือเปล่า มาหาพี่ได้ไหม ที่...” เมื่อบอกสถานที่แก่น้องสาวคนเดียวไปแล้ว ตฤณก็คาดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องได้ยินเสียงตื่นตกใจแล้วก็ยิงคำถามรัวๆ ราวกับปืนกลมาอย่างแน่นอน หากแต่เขาตัดบทตอบเพียงว่า “รีบมาแล้วจะรู้เอง” แสนรักรีบขับรถจากคลินิกเสริมความงามที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ตรงมายังสถานที่นัดหมายที่พี่ชายบอก ทันทีที่จอดรถแล้ว เดินตรงเข้าไปในสำนักงานเขต ร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีชมพูสวยก็พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่ทันที “คุณป้าผ่องสวัสดีค่ะ” “ไหว้พระเถอะจ้ะ” “สวัสดีค่ะคุณแสน” เจ้าของชื่อแสนรักหันไปทางสาวน้อยที่ยกมือไหว้เธออย่างสุภาพ “อิ๊งค์” แสนรักครางเรียกชื่อสาวน้อยที่เธอมองเป็นน้องสาวมาตลอด แต่ว่าหลังจากที่รับโทรศัพท์พี่ชาย หัวใจเธอก็บังเกิดคำถามขึ้นมากมาย ทำไมพี่ตฤณถึงต้องแต่งงานกับอิ๊งค์ “เกิดอะไรขึ้นไหนบอกฉันซิ ทำไมต้องแต่งงาน” ไม่ทันที่ม่านพิรุณจะอ้าปากอธิบาย ตฤณก็อธิบายแทน “เดี๋ยวพี่อธิบายเอง ตอนนี้พี่จะจดทะเบียนสมรสกับอิ๊งค์ พี่อยากให้แสนมาเป็นพยานให้” “พี่ตฤณบอกคุณพ่อคุณแม่หรือยัง” “ยัง พี่ยังไม่ได้บอกพวกท่าน” เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงปนกับคำถามล้านแปดบนใบหน้าน้องสาว ตฤณจึงเอ่ยต่อ “พี่จะอธิบายให้พวกท่านและแสนฟังอย่างละเอียดทีหลัง แต่ตอนนี้แสนมาเป็นพยานให้พี่ก่อน นี่ก็ใกล้เวลาจะเลิกงานของเจ้าหน้าที่แล้ว” แสนรักเชื่อถือพี่ชายคนเดียวมาตลอด ไม่ว่าเรื่องอะไรตฤณล้วนตัดสินใจได้ดี รอบคอบ แม้กระทั่งเรื่องนี้ที่แสนจะพิศวงงงงวย แต่ในเมื่อพี่ชายยืนยันที่จะจดทะเบียนสมรสกับม่านพิรุณเธอก็จะยอมทำตามที่พี่ชายสั่ง ดวงตาคู่หวานของม่านพิรุณจดจ่ออยู่ที่ช่องลงลายมือชื่อ ตฤณเซ็นชื่อไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนี้ก็เป็นขั้นตอนของเธอที่ต้องจรดปากกาเซ็นลงไป มือน้อยจับปากกาแล้วไม่ลังเลอีก ในเมื่อก่อนหน้านี้เธอเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เอง เธอเป็นคนบอกกับยายเองว่าจะแต่งงานกับหมอตฤณ ดังนั้นก็ไม่ควรสงสัยอีก ตั้งแต่เธอสอบติดมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ทั้งมารดาและยายก็ขายที่ดินแปลงหนึ่งที่น่านมาเป็นค่าเล่าเรียน และเช่าคอนโดฯ ส่วนมารดาก็มาหาเธอทุกสองสามเดือน กระทั่งบิดามาขโมยสร้อยทองในคอนโดฯ ของเธอจนทำให้มารดาขับรถตามไปจนเกิดอุบัติเหตุ คุณยายต้องขายที่ดินที่เหลืออีกแปลงมาเป็นค่ารักษาพยาบาล เพราะเงินที่ยืมตฤณมานั้นไม่พอ และเงินที่เหลือก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการย้ายมาอยู่กับเธอที่กรุงเทพฯ ดังนั้นหมอตฤณคือขอนไม้ใหญ่สำหรับคนซึ่งกำลังลอยคออยู่กลางทะเลเช่นเธอ ถ้าหากไม่คว้าไว้ก็มีแต่จมน้ำตาย แต่เธอไม่ยอมตาย ไม่ยอมปล่อยให้โชคชะตาทำร้าย แต่จะสู้แล้ววางแผนชีวิตด้วยตัวเอง เธอสู้อุตส่าห์สอบติดมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐตามที่ตั้งใจได้แล้ว เหลืออีกแค่เทอมนี้และเทอมหน้าก็เรียนจบ จากนั้นเธอจะทำงานหาเงินเลี้ยงแม่เลี้ยงยายให้สุขสบาย เมื่อทุกอย่างบีบคั้นมาจนถึงตอนนี้ เธอประเมินทางเลือกแล้ว ไม่มีหนทางไหนดีเท่ากับจดทะเบียนสมรสกับตฤณ อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องถูกบิดาแท้ๆ ใช้เป็นเครื่องมือหากินอีก “เซ็นเถอะ ฉันจะดูแลอิ๊งค์ในฐานะผู้ปกครองเท่านั้น” ตฤณบอกเสียงเบา เพราะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้าคิดอะไรอยู่ เขาไม่มีทางรู้ว่าม่านพิรุณนั้นเข้มแข็งกว่าที่เขามองภายนอก หญิงสาวที่ต้องเผชิญกับเรื่องร้ายแรงหลายเรื่องในเวลาพร้อมกันสบตาเขาแน่วนิ่ง เสียงที่ตฤณพูดนั้นไม่ดังไม่เบาแต่ว่าม่านพิรุณได้ยินชัดเจน มันดังกระหน่ำไปทั่วทั้งตัว สร้างความอบอุ่นหวามไหวให้กับหัวใจดวงน้อย ม่านพิรุณเซ็นเสร็จแล้วก็วางปากกาลง เจ้าหน้าที่จึงรับไปตรวจสอบดูความเรียบร้อยก่อนบอกให้รอสักครู่ ช่วงเวลานั้นเองที่ม่านพิรุณรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นในพริบตา แม้จะยังเป็นนางสาวม่านพิรุณ วิริยะคนเดิม แต่ทางนิตินัยเธอคือคนที่สมรสแล้ว เจ้าหน้าที่คนเดิมกลับมายื่นเอกสารคืนให้พร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดี ม่านพิรุณขอบคุณกลับแล้วสอดเอกสารเก็บในกระเป๋า รอจนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วตฤณจึงเอ่ยขึ้น “ถ้าคุณพ่อของอิ๊งค์มาหาอีกก็โทร.มาบอกฉันเข้าใจไหม” “ค่ะ” “แล้วเรื่องแต่งงานอิ๊งค์ไม่ต้องห่วง ถ้าหากเรียนจบแล้วอยากหย่าก็มาคุยกับฉันได้ทันที” “ค่ะ” “มีอะไรอยากถามฉันไหม” “ถ้าหากพี่หมอตฤณมีแฟนที่อยากแต่งงานด้วยกันจริงๆ พี่หมอตฤณบอกอิ๊งค์ทันทีได้เลยเหมือนกันนะคะ ไม่ต้องรอให้อิ๊งค์เรียนจบก็ได้ อิ๊งค์คิดว่าถ้าผ่านไปสักระยะหนึ่ง พ่อคงไม่ยุ่งกับอิ๊งค์แล้ว หรือถ้าถึงตอนนั้นอิ๊งค์คงจัดการอะไรได้ดีขึ้นกว่าตอนนี้ อิ๊งค์จะหย่าให้พี่หมอตฤณ” “อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่นเลย ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ห่วงตัวเองก่อนดีไหม เรียนจบเมื่อไรค่อยคุยกันอีกที” ตลอดเวลาที่สองคนคุยกันนั้น ทั้งคุณผ่องพรรณและแสนรักก็ยืนอยู่ด้วย ทำหน้าที่พยานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แสนรักที่พอรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้มาบ้างจึงพอปะติดปะต่อได้ไม่ยาก หากแต่ยังไม่ใช่เวลาที่ตัวเองจะพูดหรือถามอะไรออกมา ม่านพิรุณขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้ารับตามที่เขาบอก “งั้นอิ๊งค์กับยายขอตัวกลับก่อนนะคะ จะรีบไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลต่อ” “รถของอิ๊งค์ล่ะ” “แม่เอาไปใช้ขับตามพ่อวันเกิดเรื่อง ยังซ่อมอยู่ที่อู่อยู่เลยค่ะ เขาบอกว่าอะไหล่หายากเพราะรถเก่ามากแล้ว ตอนนี้เลยไม่มีรถใช้ค่ะ” ตฤณพยักหน้ารับรู้ ก่อนเอ่ยต่อ “งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง แต่ว่าเรื่องของอิ๊งค์ฉันยังพูดไม่จบ” “คะ” ม่านพิรุณเลิกคิ้วมองเขา ยิ่งเห็นเขาจู่ๆ ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมาก็รู้สึกเกร็งไปทั้งร่าง แม้จะรู้จักเขามานานแต่ไม่เคยคุยกันเกินสองประโยคเลย เพราะเขาอายุมากกว่าเธอหลายปีเลยไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD