EP4.1 ll มารยา [1]

1191 Words
ฉันนิ่งพลางเบิกตาโตให้กับความใจร้อนของมัน ในหัวจินตนาการจากหนึ่งไปร้อย มันจะกระทืบชาวบ้านเพียงเพราะคิดว่าฉันไม่ชอบหน้าไม่ได้นะ ฉันรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อไอ้นุ่นตีสีหน้าจริงจังจนกระทั่งมันยกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับแตะบ่าฉันเบาๆ “พูดเล่น” ฉันโล่งอก ขืนมันพูดจริงที่นี่คงกลายเป็นสนามรบแทนแล้วล่ะ แต่ไม่แน่ใจนะว่าใครจะเป็นศพระหว่างนนท์กับไอ้นุ่น... ฉันรู้จักนนท์ดี เขาไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่ายๆ แต่โดยเนื้อนิสัยก็มีมารยาทและเป็นมิตรกว่าไอ้นุ่นหลายขุม “ไว้วันหลังค่อยคุยละกัน” ไอ้นุ่นเอี้ยวตัวไปตอบด้วยมารยาทที่เหลือเพียงน้อยนิด มันพยายามปั้นสีหน้าให้ดูซอฟต์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันแกล้งโยกหัวเบาๆ แล้วเอามือไม้มาแตะบริเวณหน้าผากประหนึ่งว่าตัวเองกำลังถูกแอลกอฮอล์เล่นงานอย่างหนัก ฉันกำลังจะน็อก เพราะฉะนั้น Let me go สักที นนท์จ้องฉันนิ่งเหมือนพยายามจับผิด ฉันก็เลยทำตาปรือเดินเอียงจากเดิมสักสิบองศาเซไปซบบ่าไอ้นุ่นแบบไม่ได้ตั้งใจ “เมาเหรอ?” นนท์เอ่ยถาม “เปล่า” ฉันตอบแต่อากัปกิริยาสวนทางกับคำพูด “กลับเหอะ ง่วงแล้ว” ไอ้นุ่นหาวหวอดๆ แล้วเอื้อมมือมาจับแขนฉัน ตัวของมันเย็น ในขณะที่ตัวของฉันร้อน และเมื่อมันเห็นฉันทำท่าง่อยเปลี้ยเพลียแรงมากกว่าเดิม มันก็เลื่อนมือจากแขนมาจับเข้าที่เอวแทนเพื่อพยุงไม่ให้ฉันล้มหน้าจิ้มพื้น ฉันพยายามกลั้นยิ้ม รู้สึกว่ามันดีมาก คราวหน้าฉันจะแกล้งเมาบ่อยๆ อ่อยให้มันมาแตะฉันตรงนั้นตรงนี้ มีความสุขไปอีกแบบ ไหล่ของไอ้นุ่นกว้างและแข็งสมชายชาตรีมาก จากที่ฟินอยู่แล้วฉันก็ฟินยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมที่อยากได้มากกว่านี้อีก ไอ้นุ่นไม่ได้พูดอะไร มันพยายามพยุงฉันหลีกจากฝูงชน แล้วทิ้งนนท์ไว้ มันไม่แม้แต่คิดจะทักทายเพื่อนฝูงอย่างไอ้หลิวสักคำ มันมาก็แค่เพราะไอ้หลิวบอกให้มารับฉันกลับ และมันก็ทำแค่นั้น ไม่เกินจากนั้นสักนิด ฉันแอบเหล่สายตากลับไปมองนนท์และก็พบว่าเขาก็กำลังมองฉันอยู่เช่นกัน เขาทำหน้าเหมือนจะพุ่งเข้ามากระชากหัวฉันไปโขกกับโต๊ะก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่แก้วเหล้าของฉันแล้วหัวเราะเบาๆ เพราะรู้อยู่แก่ใจ ว่าฉันไม่มีทางเมากับเหล้าแค่ไม่กี่แก้วแน่นอน... แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก หญิงใดไร้มารยา ถือว่าเสียชาติเกิด คนอย่างไอ้นุ่นไม่ชอบผู้หญิงกระโชกโฮกฮาก ไม่ชอบผู้หญิงที่รุกก่อนเพราะมันมองว่าไม่เป็นกุลสตรี ดังนั้นฉันจะต้องเนียนอย่างที่สุด เพื่อไม่ให้มันหลุดมือ ฉันต้องอ่อยอย่างนางเอก อ่อยแบบไม่ให้มันรู้ว่าอ่อย รู้ตัวอีกทีก็เป็นของฉันแล้วอะไรแบบนี้ ไอ้นุ่นถูลู่ถูกังฉันจนมาถึงด้านหน้า มันยืนอยู่ไม่นานก็โบกรถแท็กซี่ที่ผ่านมาแถวนี้ได้คันนึง พลางพยายามยัดร่างฉันเข้าไปที่เบาะหลังแล้วขยับเข้ามานั่งด้วย มันหอบหายใจเล็กๆ ก่อนจะเหล่สายตามามองฉันที่กำลังยิ้มลอยๆ เหมือนคนไม่ค่อยมีสติแต่ก็ยังลอบเซ็กซี่ด้วยการกัดริมฝีปากเบาๆ ให้มันหวั่นไหวเล่นๆ แต่เหมือนไอ้นุ่นจะเป็นผู้ชายตายด้านกว่าที่ฉันคิด มันมองฉันนิ่งแล้วถามด้วยเสียงห้วนๆ ทำเอาฉันหมดฟีลลิ่งในทันที “ไอ้นัท หออยู่ตรงไหนนะ” เออ จะเคลิ้มกับฉันสักวินาทีก็ไม่ได้ เอะอะก็จะไปส่งฉันกลับอย่างเดียวเลย! มันรอคำตอบจากฉันพลางมองไปยังลุงวัยกลางคนที่นั่งตัวเกร็งเล็กน้อยเพราะหน้าดุๆ ของมันกำลังแผ่รัศมีความอาฆาตพยาบาทแบบแปลกๆ ไปรอบตัว คุณลุงเริ่มออกรถแล้วมองมาทางกระจกหลังรอคำตอบว่าเขาต้องไปที่ไหน “หออะไรเหรอ?” ฉันทำหน้างงใส่พลางถามเสียงออดอ้อนแล้วยกยิ้มอย่างที่ไม่เคยทำ ดูขัดกับความเป็นนัทแบบสุดๆ แน่สิ ถ้าในสถานการณ์ปกติแล้วฉันแสดงท่าทียังงี้ คงน่าขนลุกตาย ไอ้นุ่นอาจจะโบกหัวฉันโยกไปแล้ว แต่ตอนนี้ฉันเมา ฉันจะอ่อยจะอ้อนมันยังไงก็ได้ “หออ่ะอยู่ไหน” มันถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังยิ่งขึ้น ทำให้ฉันรู้สึกได้เลยว่าไอ้น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานของฉันไม่ได้มีอิทธิพลต่อโสตประสาทของมันสักเสี้ยว เป็นเพราะฉันเพิ่งจะย้ายหอใหม่ ทำให้ไอ้นุ่นไม่รู้ว่าฉันอาศัยอยู่ส่วนไหนของประเทศ และนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ามันรู้มันก็ไปส่งฉันถูกน่ะสิ “ไม่รู้เลย” ฉันลากเสียงติดจะกวนประสาทแล้วทำหน้าล่องลอย หายใจหอบเล็กน้อยแสดงความเหนื่อยอ่อน ผสมความเซ็กซี่ที่มีน้อยนิด “อย่าลีลา” มันจิ๊จ๊ะแล้วมองหน้าฉัน แต่ฉันก็ยังตีมึนมองมันกลับด้วยนัยน์ตาใสซื่อประหนึ่งว่าไม่รู้อะไรเลย “จำไม่ได้” ฉันย่นคิ้วกลอกตาไปมาแล้วยกมือขึ้นมากุมขมับแสร้งปวดหัวทำให้ไอ้นุ่นถอนหายใจยาวคิดไม่ตกกับท่าทีของฉัน ความจริงฉันจำเส้นทางทุกเส้นที่เข้าไปถึงหอตัวเองได้ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางลัด เอาง่ายๆ กูลเกิ้ลแม็ปก็ยังแพ้ฉัน แต่ที่ฉันไม่บอกเพราะไม่อยากให้มันไปส่งฉันที่หอตัวเองไง ฉันอยากไปหอมัน มันเงียบไปก่อนจะล้วงเอามือถือขึ้นมาทำท่าจะกดโทรไปถามคนอื่น และฉันเดาว่าคนๆ นั้นน่าจะเป็นไอ้หลิว เพราะมันชอบชวนฉันเที่ยวบ่อยกว่าชวนไอ้นุ่นเพื่อนมันซะอีก แต่ก่อนที่มันจะทันได้กดโทรออก ฉันก็เอื้อมมือไปจับแขนข้างนั้นแล้วเลื่อนสายตาไปมองมันนิ่งๆ “ที่หอไม่มีเพื่อน” “...” มันหยุดมือแล้วมองหน้าฉันราวกับรอฟังว่าฉันจะพูดอะไร ฉันแกล้งเซเมื่อคนขับแท็กซี่เลี้ยวรถไปตามทางจนใบหน้าซบอยู่ที่บ่าของคนร่างสูง ฉันตีสีหน้าเศร้าราวกับโลกสลายแล้วฝังหน้าเข้ากับแผ่นอกคนร่างสูง “ไม่อยากอยู่คนเดียว” พอฉันพูดจบ ไอ้นุ่นก็เงียบอีก ฉันไม่รู้ว่ามันกำลังทำหน้ายังไงอยู่เพราะตอนนี้ฉันกำลังมุดหน้าเข้ากับแผ่นอกแข็งๆ ของคนร่างสูง กอบโกยกำไรเอาไว้เท่าที่จะทำได้ ก่อนจะลอบยิ้มเมื่อมันตอบกลับมาสั้นๆ ตามที่ฉันคิด “ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD