หลายวันต่อมา
กฤษฎิ์ขับรถสปอร์ตคันหรู Ferrari รุ่นใหม่ล่าสุดมาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งเมื่อเขาทำธุระที่เจ้าหลานชายตัวดีขอร้องเสร็จก็รีบบึ่งรถออกมาจากภัตตาคารหรูทันทีเพื่อที่จะเข้าเวรช่วงเย็นวันนี้ แต่ตอนนี้อาการง่วงเล่นงานเขาซะจนต้องหากาแฟเติมพลังให้ตัวเองดีดสักหน่อย
“สวัสดีค่ะร้าน...ยินดีให้บริการค่ะ”
เสียงพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ร้องบอกหนุ่มหล่อทันทีที่เขาเดินเข้ามาข้างในร้านอย่างตื่นเต้นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัดกับกางเกงสแล็กส์สีน้ำเงินช่างดูดีอีกทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับรูปปั้นชวนให้พนักงานสาวตัวบิดม้วนด้วยความขวยเขิน
“หาว ง่วงจังเลยว่ะ เมื่อคืนไม่น่าดื่มกับไอ้หมอนัทเลย ง่วงชะมัด”
กฤษฎิ์ยกมือขึ้นปิดปากก่อนที่จะเดินไปกดกาแฟใส่แก้วที่เขาว่ากันว่ากาแฟที่นี่มันแรงนี่ท่าจะจริงแฮะ เพราะกาแฟที่ว่าราคาแพงยังเอาเขาไม่อยู่สักแก้วเลยของเขาดีจริง ๆ มือแกร่งหยิบแก้วกาแฟออกมาเตรียมกดน้ำแข็งแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีแรงจิ้มเบา ๆ ที่ต้นขา
จึ้ก จึ้ก จึ้ก
เมื่อก้มลงมองก็เห็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักยืนยิ้มแฉ่งเผยลักยิ้มทั้งสองข้างให้เขาพร้อมกับดวงตาแป๋วแหววที่มองแล้วรู้สึกเอ็นดูชอบกล
“หืม ว่าไงคะสาวน้อย” วางแก้วกาแฟไว้บนเคาน์เตอร์กดน้ำแข็งก่อนที่จะย่อตัวลงนั่งยอง ๆ แล้วถามสาวน้อยแก้มแดงเนียนใสด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“คุณลุงขาแก้มใสอยากได้ขนมอันนั้นคุณลุงหยิบให้แก้มใสหน่อยค่ะ แก้มใสหยิบไม่ถึง” จับขากางเกงกฤษฎิ์แน่นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองขนมเยลลี่รสผลไม้ตาแป๋วในขณะที่กฤษฎิ์อมยิ้มน้อย ๆ รู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยตรงหน้ารวมถึงถูกชะตาแปลก ๆ กับความน่ารักของสาวน้อยคนนี้
“อันนี้เหรอคะ” หยิบเยลลี่รสสตรอว์เบอร์รีขึ้นมาก่อนที่แก้มใสจะพยักหน้ารับพร้อมยิ้มกว้างทันทีเมื่อกฤษฎิ์ส่งขนมมาให้ มือเล็กป้อมกระพุ่มมือไหว้ขอบคุณอย่างน่ารัก
“ขอบคุณคุณลุงมาก ๆ นะคะ” ยิ้มหวานให้คุณลุงตรงหน้าก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียกของแม่ขาดังแว่วเข้ามาใกล้ ๆ
“แก้มใสหนูอยู่ไหนคะ แก้มใสมาหาคุณแม่เร็วค่ะลูก” เสียงหวานใสร้องเรียกหาลูกสาวดังลั่นร้านเมื่อเผลอแป๊บเดียวลูกสาวตัวน้อยของเธอก็เดินหายไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้
“คุณแม่ขาแก้มใสอยู่ทางนี้ค่ะ แก้มใสไปก่อนนะคะคุณลุง”
ก่อนจะวิ่งออกไปไม่ลืมยกมือโบกให้กฤษฎิ์เป็นการบอกลา ก่อนที่จะวิ่งดุกดิกไปตามเสียงเรียกของผู้เป็นแม่ที่ดังอยู่ไม่ไกลจากจุดที่หนึ่งหนุ่มหล่อกับเด็กสาวยืนอยู่มากนัก
“ลูกเต้าเหล่าใครน่ารักจังแก้มแดงน่าฟัดชะมัด” พึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะหยิบแก้วกาแฟมากดน้ำแข็งใส่แล้วกดกาแฟรสโปรดใส่แก้วจนเต็มก่อนที่จะเดินไปจ่ายเงิน
“ไปไหนมาคะลูกแม่เผลอแป๊บเดียวหนูก็หายไปแล้ว” ที่รักในชุดนักศึกษารีบถามแก้มใสทันทีเมื่อเห็นลูกสาววิ่งดุกดิกมากอดขาเธอเอาไว้
“แก้มใสตามหาขนมอันนี้ค่ะแม่ขาแล้วก็หยิบไม่ถึงคุณลุงใจดีหยิบให้แก้มใสค่ะ”
บอกมารดาด้วยรอยยิ้มหวานยิ้มจนตาหยีเห็นลักยิ้มทั้งสองข้างซึ่งเหมือนผู้เป็นพ่อไม่ผิดเพี้ยนจนที่รักอดยิ้มตามออกมาไม่ได้ลูกสาวเธอหน้าตาเหมือนเขาอย่างกับแกะมีเพียงดวงตากลมโตคู่นี้ที่เหมือนเธอเท่านั้น
“ทีหลังไม่หายไปแบบนี้อีกนะคะอยากได้ขนมอันไหนให้บอกแม่ขาเดี๋ยวแม่ขาหยิบให้” บอกลูกสาวตัวน้อยก่อนที่แก้มใสจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“รับทราบค่ะแม่ขา” ยิ้มให้ที่รักก่อนที่ผู้เป็นแม่จะจูงมือน้อยไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ซึ่งกฤษฎิ์เพิ่งจะเดินออกไปเห็นเพียงแผ่นหลัง แวบ ๆ ที่ที่รักเผลอมองอย่างรู้สึกคุ้นเคยแต่คงไม่ใช่หรอกมั้งเขาคงไม่มาอยู่ในสถานที่แบบนี้หรอก
“ทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบห้าบาทค่ะ” เสียงพนักงานสาวบอกราคาของทั้งหมดแต่ที่รักก็ยืนเหม่อจนแก้มใสต้องกระตุกมือผู้เป็นแม่เบาๆ
“แม่ขา แม่ที่รักขา” เสียงแก้มใสที่ดังขึ้นเรียกสติที่รักที่กำลังตกอยู่ในภวังค์เมื่อเธอกำลังคิดถึงใครบางคน คน ๆ นั้นซึ่งเป็นพ่อของลูกสาวเธอ
“หืม ว่าไงคะแก้มใส” สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกก่อนที่ลูกสาวตัวน้อยจะบุ้ยปากไปทางเคาน์เตอร์ที่มีพี่พนักงานรอเงินจากคุณแม่ของเธออยู่
“เอ่อ แฮะ แฮะ ขอโทษค่ะ” ที่รักส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์เป็นเชิงขอโทษก่อนจะรีบหยิบเงินมาจ่ายแล้วจูงมือลูกสาวตัวน้อยออกมาจากร้านทันที
“วันนี้ถ้าถึงบ้านแล้วเรามาช่วยคุณยายทำขนมดีไหมคะ” เมื่อรอรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้านที่รักก็ถามลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหยิบขนมเยลลี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ได้ค่ะคุณแม่ขา แก้มใสอยากกินขนมวงค่ะขนมวงของคุณยายอร่อยที่สุดเลย” ยกนิ้วโป้งขึ้นทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าขนมที่คุณยายทำอร่อยมาก
“งั้นวันนี้เดี๋ยวแม่ขาทำให้กินนะคะ” บอกลูกสาวตัวน้อยด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะจูงมือลูกสาวขึ้นรถเมล์เมื่อรถมาจอดตรงหน้าพอดี
โรงพยาบาล N
“คุณอิงดาวเชิญที่ห้องตรวจค่ะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องเรียกดาราสาวสวยสุดออตเข้าห้องตรวจก่อนที่อิงดาวจะเปิดประตูเข้ามาด้วยความยินดีเธอไม่ได้ป่วยหรอกเธอแค่อยากมาอ่อยหมอกฤษฎิ์สุดหล่อแค่นั้นเอง
กฤษฎิ์เงยหน้าขึ้นจากชาร์ตทันทีเมื่อดาราสาวนั่งลงตรงข้ามพร้อมกับฉีกยิ้มแป้นมาให้เขาซึ่งเขาก็กระตุกยิ้มมุมปากตอบรับ
“มาหาหมอไม่ทราบอาการเป็นยังไงบ้างครับ” พลิกกระดาษในชาร์ตดูก่อนที่จะวางลงพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าที่สบาย ๆ
“อยากให้คุณหมอตรวจภายในค่ะถ้าอาการหนักก็ฉีดยาได้เลย”
บอกกฤษฎิ์ก่อนที่จะสบตากฤษฎิ์อย่างยั่วยวน
“หึ จะฉีดยาได้ยังไงครับผมยังไม่รู้เลยว่าคุณอิงดาวเป็นอะไรเชิญขึ้นเตียงครับ” บอกหญิงสาวหน้าตาดีสวยเฉี่ยวก่อนที่อิงดาวจะรีบขึ้นไปนั่งบนเตียงตรวจคนไข้ทันที
“เมื่อเช้าอิงคลำนมตัวเองแล้วรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรก็ไม่รู้ค่ะ อิงกลัวเป็นมะเร็ง”
จับมือตัวเองมาขย้ำหน้าอกอวบพลางกัดปากอย่างต้องการยั่วคนตรงหน้าก่อนที่กฤษฎิ์จะดึงรั้งสายเดี่ยวทั้งสองข้างของอิงดาวลงเผยให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่ที่มีเพียงจุกแปะหัวนมไว้เท่านั้น
หมับ
กฤษฎิ์เอามือวางไว้บนเต้าสวยก่อนจะลงมือคลำหาก้อนที่สาวเจ้าบอกว่ามันมีอยู่ในนมของเธอว่าจริงไหม เมื่อคลำข้างขวาเสร็จก็ย้ายมาคลำข้างซ้ายแต่คลำอย่างไรก็ไม่เจอก้อนที่อิงดาวบอกเลย หึ มารยาสินะ
“อืม อ๊ะ อ๊า” เสียงครางน่าเกลียดหลุดออกมาจากปากของอิงดาวอย่างตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน เธอแสร้งอายด้วยการทำทีรีบยกมือขึ้นปิดปากเอาไว้
“คุณหมอคลำจนเพลินเลยค่ะ” บอกกฤษฎิ์เสียงหวานก่อนจะแอ่นหน้าอกเข้าหาฝ่ามือใหญ่อย่างไม่นึกอาย
“ก็ปกติดีนี่ครับไม่มีก้อนอะไรแต่ถ้าอยากมั่นใจก็ต้องสแกนตรวจให้ละเอียดอีกทีครับ” บอกอิงดาวก่อนที่จะละมือจากหน้าอกสวยแล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานทันที
“ก็อิงอยากให้คุณหมอตรวจดูก่อนนี่คะ” ไม่ยอมยกเสื้อขึ้นใส่ก่อนที่กฤษฎิ์จะปรายตามองเล็กน้อยแล้วบอกอิงดาวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“รบกวนใส่เสื้อด้วยครับ” เมื่อได้ยินกฤษฎิ์บอกดังนั้นอิงดาวก็หน้างอทันที ก่อนที่จะยกเสื้อสายเดี่ยวขึ้นมาใส่อย่างเสียมิได้ทำไมอ่อยยากจังเลยนะไหนใครบอกอ่อยนิดเดียวก็ขึ้นไง ใจแข็งชะมัดเลย
“ผลตรวจปกติดีครับมีอย่างอื่นอีกไหมครับ” จ้องมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่กำลังฉีกยิ้มหวานรอคำตอบจากเขาด้วยสายตาว่างเปล่าจนเธอหน้าเสียหุบยิ้มลงทันที
“เย็นนี้ว่างไหมคะ”
ท้าวคางกับโต๊ะทำงานของกฤษฎิ์พร้อมกระพริบตาปริบ ๆ อย่างรอคอยคำตอบ
“หึ ทำไมครับ” กฤษฎิ์ถามคืนก่อนที่จะเขียนรายละเอียดลงในเอกสารบนชาร์ต
“อิงว่าจะชวนคุณหมอไปทานมื้อเย็นด้วยกัน” เล่นหูเล่นตาใส่กฤษฎิ์อย่างให้ท่าสุดฤทธิ์ก่อนที่กฤษฎิ์จะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วถามออกมา
“เลี้ยงหรือของฟรีครับ” ถามอย่างไม่อ้อมค้อมเพราะรู้ดีถึงเจตนาที่อิงดาวมาที่นี่อยู่แล้ว
“สนใจให้เลี้ยงไหมล่ะคะ แต่ว่า...ฟรีดีกว่าค่ะอิงชอบ” ตอบกฤษฎิ์ตรง ๆ ก่อนจะยื่นมือเรียวขาวไปลูบไล้หลังมือกฤษฎิ์เบา ๆ บ่งบอกความต้องการอย่างไม่ปิดบัง
“คุณอิงดาวครับ ให้ผมเล่นน่ะได้แต่ถ้าจะจริงจังผมขอบายครับถ้ารับเงื่อนไขนี้ได้ผมก็ไม่ขัดนะ” ผายมือทั้งสองข้างออกจากกันพร้อมยักไหล่อย่างไม่แยแส
“ดีลค่ะ แค่พอใจ พอใจเท่านั้นรับรองอิงไม่สานต่อค่ะ” ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวยเผยอขึ้นเล็กน้อยเมื่อพูดประโยคนั้นจบก่อนที่กฤษฎิ์จะพยักหน้าตอบรับ
“ดีลครับ เย็นนี้เจอกัน”
ตอบตกลงอิงดาวก่อนที่อิงดาวจะลุกขึ้นมานั่งบนตักกฤษฎิ์แล้วก้มลงจุ๊บแก้มสากหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินโบกมือออกจากห้องไปเมื่อเธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้วเหลือแค่รอคอยเท่านั้นก็จบ
“เฮ้อ จริง ๆ เลยผู้หญิงสมัยนี้ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวกันเลยหรือไงนะ”
พึมพำคนเดียวเงียบ ๆ ก่อนที่จะเรียกคนไข้รายต่อไปเข้ามาตรวจถึงเขาจะเป็นคนชอบฟันแต่ใช่ว่าเขาจะเอาไม่เลือกสถานที่ที่นี่โรงพยาบาลเขาให้เกียรติและเคารพสถานที่เสมอถึงแม้บางครั้งจะต้องอดกลั้นมากก็ตาม
อีกด้านหนึ่ง
“คุณยายขา ปั้นแบบนี้ได้ไหมคะ” แก้มใส่หันมาถามผกาเมื่อหนูน้อยปั้นถั่วเหลืองที่จะทำขนมชุบเป็นรูปผลไม้สุดน่ารักตามที่ผกาสอน
“สวยมากเลยค่ะหลานยาย” ชมหลานสาวพลางปรบมือให้แก้มใส ส่วนคนถูกชมยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวน่ารักก่อนที่จะหยิบถั่วเหลืองมาปั้นขนมชิ้นต่อไป
“พรุ่งนี้มีขนมถ้วย 10 กล่อง ขนมดอกอัญชัน 10 กล่อง ขนมเสน่ห์จันทน์ 30 กล่อง ขนมพระพาย 15 กล่อง แล้วก็ขนมกลีบลำดวน 50 กล่องเลยนะจ๊ะแม่ พอดีลูกค้าเขาทำบุญขึ้นบ้านใหม่จ้ะเลยสั่งเยอะไหวไหมจ๊ะแม่จ๋า”
ที่รักถามผกาที่กำลังเตรียมของทำขนมเอาไว้เพื่อที่พรุ่งนี้ตีสี่จะได้ลุกขึ้นมาทำขนมโดยมีอ้อยกับที่รักเป็นลูกมือ
“มีสองคนช่วยไม่ไหวได้ไง” ยิ้มให้ที่รักก่อนที่จะนวดแป้งต่อ
“ยังไงก็เสร็จทันแน่นอนที่รัก อืม อ้อยว่าจะเอาขนมติดมือไปขายที่โรงพยาบาลด้วยป้าว่าดีไหมจ๊ะ”
อ้อยหันมาถามผกาอย่างขอความคิดเห็นตอนนี้อ้อยทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงพยาบาล N วุฒิ ม.6 แบบเธอจะให้ทำงานอะไรได้ ได้งานที่นี่ก็ดีถมไปค่าแรงหมื่นห้าต่อเดือนถือว่าเยอะมากในตำแหน่งนี้ก็เพราะว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนน่ะนะ
“อืม ความคิดแกเข้าท่าดีนะอ้อย เอาไปฝากที่ร้านสวัสดิการที่โรงพยาบาลขายได้ไหมหรือเขามีเมนูขนมหวานให้คนไข้ไหมเราจะได้ทำส่ง” ผกาถามอ้อยก่อนที่อ้อยจะทำหน้าครุ่นคิด
“เคยเห็นพวกในครัวเขาจัดเรียงขนมใส่จานเล็กอยู่นะป้า เหมือนจะสั่งมาจากข้างนอกนี้แหละ”
“งั้นเอาแบบนี้ไหมจ๊ะพรุ่งนี้ที่รักจะลองไปถามที่โรงพยาบาล เผื่อเราจะได้ทำส่งไปด้วยเลยจะได้มีรายได้เพิ่ม” ที่รักออกความคิดเห็นซึ่งอ้อยก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที
“โอเคงั้นพรุ่งนี้ที่รักไปรับแก้มใสกลับมาจากโรงเรียนแล้วจะเลยไปที่ทำงานพี่อ้อยเลยนะจ๊ะ”
เมื่อตกลงกันเสร็จสรรพทุกคนก็ช่วยกันลงมือเตรียมของทำขนมต่อ รายได้จากการขายขนมก็ทำให้พวกเธอพออยู่ได้เพราะอ้อยก็มีงานประจำทำส่วนที่รักหลังจากแก้มใสได้หนึ่งขวบที่รักก็สมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนทันทีช่วงที่ต้องช่วยกันเลี้ยงแก้มใสที่รักเอาเงินที่เหลือจากกฤษฎิ์ให้มาใช้ ซึ่งก็หมดไปเยอะพอสมควรเพราะเธออยากให้แก้มใสได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีที่สุด ตอนนี้เงินเหลือแค่สองล้านกว่าบาทที่รักก็ต้องเก็บเงินไว้ให้แก้มใสตอนเข้าเรียนอนุบาลอีกเพราะเมื่อลูกสาวเธอโตขึ้นค่าใช้จ่ายก็จะตามมาเยอะทีเดียว ขนาดค่าเทอมเนอสเซอรีที่แก้มใสเรียนอยู่ก็ปาไปหลักหมื่นแล้ว มาถึงขนาดนี้แล้วเธอต้องสู้เพื่อให้ลูกของเธอเติบโตมาได้รับแต่สิ่งดี ๆ เท่าที่สองมือของแม่คนนี้จะทำได้