3 ปีต่อมา
โกดังร้าง
“มึงจะบอกไม่บอกว่าใครส่งมึงมา” กฤษฎิ์เอาปืนจ่อหัวผู้ชายที่ยืนทำหน้านิ่งตรงหน้าอย่างรอคอยคำตอบสายตาคมกริบที่จ้องมองศัตรูเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดและไร้ซึ่งความปรานี
“แล้วทำไมกูต้องบอกมึงด้วยล่ะ” ยิ้มเย็นตอบกลับอย่างกวนเบื้องล่างก่อนที่จะถมน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดลงพื้นเพื่อกวนโทสะของกฤษฎิ์
“ไม่บอกก็ไม่ต้องบอกเรื่องแค่นี้กูไม่จำเป็นต้องรอคำตอบจากคนอย่างมึง”
ปัง
เสียงกระสุนปืนดังขึ้นหนึ่งนัดก่อนที่ร่างของคนที่ยืนตรงหน้ากฤษฎิ์จะล้มลงขาดใจตายทันที
“เก็บศพมันด้วยนะชิน” หันไปสั่งลูกน้องมือขวาคู่ใจที่คอยช่วยงานในมุมมืดก่อนที่ชินจะรับปืนมาถือไว้แล้วบอกลูกน้องคนอื่น ๆ มาเก็บศพก่อนจะเดินตามกฤษฎิ์ออกไป
“แล้วจะเอายังไงต่อไปครับนาย” เมื่อเดินออกมานอกโกดังชินก็ ถามกฤษฎิ์อย่างพร้อมที่จะรอรับคำสั่งทันที
“เก็บพวกมันที่เหลือให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวในเมื่อไม่อยากบอกก็ไม่จำเป็นที่ต้องรู้” ชินก้มหน้ารับคำสั่งก่อนที่กฤษฎิ์จะเดินไปขึ้นรถที่เรียวสตาร์ตรออยู่แล้วและเดินทางกลับทันที
Nevigator Pub
“ว่าไงเพื่อนรักหายไปไหนมากูนั่งรอตั้งนาน” คิง เพื่อนรักนักธุรกิจ ของกฤษฎิ์ถามทันทีที่กฤษฎิ์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสุดหรู
“ไปจัดการเดนสังคมมานิดหน่อย” ยกแก้วเหล้าที่เพื่อนยื่นมาให้กระดกเข้าปากก่อนจะตอบเพื่อนรักพร้อมกับแสยะยิ้มร้ายออกมา
“ในที่สว่างมึงเพอร์เฟกต์มากเลยนะเพื่อน ดารา นางแบบตามแจกขนมจีบมึงเป็นแถวแต่ในมุมมืดมึงก็เก่งไม่แพ้ใครไม่คิดเลยว่าการที่ไปเรียนต่อเมืองนอกของมึงจะทำให้ชีวิตมึงจากขาวไม่มากกลายเป็นคนเทา ๆ ไปได้ซะอย่างนั้น”
คิงพูดถึงกฤษฎิ์อย่างทึ่ง ๆ ปกติแล้วกฤษฎิ์ก็ถือว่า หล่อ รวย เรียนเก่ง ในระดับหนึ่งแต่หลังจากที่ไปเรียนต่อหมอที่เมืองนอกมาเพื่อนเขากลับกลายเป็นคนเทา ๆ อย่างสมบูรณ์แบบ เทาในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าทำสิ่งผิดกฎหมายแต่กฤษฎิ์แค่เข้าไปอยู่ในวงการมาเฟียอย่างเต็มตัวก็เท่านั้นเพราะที่เมืองนอกกฤษฎิ์ดันมีเพื่อนรักเพื่อนตายอย่าง เรย์ คาร์เทอร์ มาเฟียชื่อดังของอิตาลีก็เลยกลายเป็นว่าทำให้พวกมาเฟียที่เขม่นเรย์อยู่แล้วพาลมาหาเรื่องกฤษฎิ์ไปด้วยซึ่งกฤษฎิ์ก็ไม่ได้กลัวหรือหวาดหวั่นแต่อย่างใดแต่กลับจัดการพวกนั้นซะจนเหลือแต่ชื่อ
“เทา ๆ แต่กูก็คนดีนะครับเพื่อนแค่นักเลงนิดหน่อยเองส่วนไอ้พวกที่กูเด็ดหัวก็มีแต่พวกเลว ๆ ที่ไม่สมควรอยู่บนโลกนี้เท่านั้นแหละ” กฤษฎิ์บอกคิงก่อนจะหยิบเหล้ามาเทใส่แก้วผสมกินเองซะเลย
“แล้วช่วงนี้เป็นยังไงบ้างงานโอเคไหม” คิงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบส่งควันคละคลุ้งไปทั่วห้อง VIP ที่เขามานั่งประจำ
“เหนื่อยหน่อยว่ะเดินทางเป็นว่าเล่นทั้งโรงพยาบาลทั้งคาสิโน”
กฤษฎิ์บอกคิงก่อนที่จะเรียกเรียวเข้ามาสั่งงาน
“มินนี่ นางแบบโซนนั้นติดต่อมาให้ได้จ่ายไม่อั้น” กระซิบข้างหูเรียวพอให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนที่เรียวจะไปทำตามคำสั่งของเจ้านายทันที
“หึ ดีลหญิงอีกแล้วนะมึง” คิงแซวเพื่อนยิ้ม ๆ ก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดหนัก ๆ
“ของขาดนานว่ะรอบก่อนปีเต็ม ๆ กูเอาใครไม่ได้เลยใกล้ผู้หญิงทีไรกูจะอ้วกทุกที” บอกคิงก่อนจะส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
“โรคห่าไรวะ ใกล้หญิงแล้วอ้วก” คิงหันมาถามเพื่อนอย่างงง ๆ
“กูก็ไม่รู้ว่ะ ทั้งตรวจสแกน ทั้งเจาะเลือด ผลก็ปกติดีแต่ทำยังไงแม่งก็ไม่หายกูอดอยากปากแห้งไปนานเลย”
“อดซะบ้างมึงแดกหญิงเป็นว่าเล่นปีนี้ก็ 34 แล้วนะกูว่ามึงมีเมียได้แล้วมั้ง”
“บอกแต่กูแล้วมึงล่ะไอ้เวรอายุเท่ากันแต่เสือกลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัยจนผู้หญิงวิ่งตามเป็นพรวนกูล่ะปวดหัวแทนม้ามึงจริง ๆ”
กฤษฎิ์แซวคิงอย่างไม่จริงจังนักก่อนที่เรียวจะเดินเข้ามาหากฤษฎิ์เพื่อรายงานผลงานที่กฤษฎิ์ให้ไปทำ
“เรียบร้อยครับนาย หนึ่งแสน โรงแรม Y ครับ” บอกผู้เป็นนายเสร็จก็ถอยไปยืนสงบอยู่ไม่ไกลจากกฤษฎิ์สักเท่าไหร่
“หึ เรียบร้อย กูไปล่ะไว้เจอกันวันนี้กูเหนื่อยมากอยากโดนนวด”
บอกเพื่อนเสร็จก็ลุกจากโซฟาเดินไปข้างนอกทันทีซึ่งเมื่อมาถึงที่จอดรถก็เห็นมินนี่ยืนรออยู่แล้วก่อนที่ทั้งคู่จะควงคู่กันขึ้นรถไป
โรงแรม Y
ตับ ตับ ตับ
เสียงกระแทกกระทั้นหยาบโลนดังขึ้นภายในห้องพักสุดหรูที่มีร่างหญิงและชายกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่อย่างเมามัน
“อ๊า คุณกฤษฎิ์ขาแรง ๆ ค่ะ แรง ๆ อีก” มินนี่ครางเสียงเบาหวิวก่อนที่จะร้องบอกกฤษฎิ์ให้กระแทกเข้ามาแรง ๆ เธอชอบอะไรที่รุนแรงมันถึงใจดี
“หึ ซาดิสม์เหรอเธอน่ะ” กฤษฎิ์ถามเสียงแข็งกระด้างก่อนที่จะกระแทกแรง ๆ ตามคำที่สาวเจ้าร้องขอเขาถอดถอนแก่นกายใหญ่ออกไปแล้วแทงเข้ามาในร่องรักใหม่ทีเดียวมิดด้ามท่อนเอ็นใหญ่ชนจุดกระสันของมินนี่ให้รู้สึกเสียววูบไปหมด
“อื้อ คุณกฤษฎิ์ขามินนี่เสียว ของคุณกฤษฎิ์ทั้งยาวทั้งใหญ่สะใจมินนี่จริง ๆ ค่ะ” บอกกฤษฎิ์เสียงหวานก่อนที่จะบีบนมตัวเองอย่างต้องการระบายความเสียว
ตับ ตับ ตับ
กฤษฎิ์ไม่ตอบแต่ตั้งหน้าตั้งตากระแทกร่องรักของมินนี่อย่างรุนแรงผู้หญิงที่รูหลวมแบบนี้เขาไม่จำเป็นต้องถนอมมือและออมแรงนี่ จริงไหม
“อ๊า แตกแล้ว” กฤษฎิ์ร้องบอกมินนี่เสียงแหบห้าวก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำรักใส่ถุงยางแล้วถอดทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี
ส่วนมินนี่เมื่อเห็นกฤษฎิ์ผละออกไปทันทีที่เสร็จกิจก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอดกฤษฎิ์จากทางด้านหลังเอาหน้าอกอวบถูไถแผ่นหลังกฤษฎิ์อย่างต้องการปลุกอารมณ์ของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
“รอบเดียวเหรอคะ วันนี้มินนี่ยินดีบริการคุณกฤษฎิ์ทั้งคืนนะคะ”
มือขาวบอบบางไต่ลงมาจนถึงท่อนเอ็นร้อนที่ยังคงพองขนาดใหญ่ก่อนที่จะกอบกุมไว้แล้วนวดเบา ๆ อย่างยั่วยวน
“หึ โทษทีนะหลวมไปว่ะเอาไม่มันรอบเดียวก็เกินพอ” จับมือมินนี่สะบัดออกอย่างไม่ไยดีก่อนจะลุกขึ้นตัวเปล่าเปลือยเดินเข้าไปชำระคราบน้ำกามออกจากร่างกาย
“หนึ่งแสนตามข้อตกลง”
เมื่อออกมาจากห้องน้ำกฤษฎิ์ก็วางเช็คลงบนหัวเตียงก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องเพื่อกลับคอนโดทันที
“กรี๊ด มีแต่คนอยากได้ฉันหลาย ๆ รอบโง่หรือไงเอาแค่รอบเดียว”
โยนหมอนลงบนพื้นอย่างระบายอารมณ์ก่อนที่จะลุกขึ้นแต่งตัวเพื่อกลับไปหาผู้ชายที่ผับมาบำเรอต่อเธอยังไม่สุดคืนนี้ต้องได้อีกแค่นี้มันยังไม่พอสำหรับเธอ
เช้าวันต่อมา
“คุณยายขาแก้มใสอยากชิมอันนี้ได้ไหมคะ” แก้มใสที่เกาะแขนผกาอยู่เงยหน้าเล็กจิ้มลิ้มถามคุณยายของเธออย่างอ้อนๆ
“แก้มใสอยากกินลูกชุบเหรอคะลูกมา ๆ ยายป้อน” ถามหลานสาวอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะหยิบลูกชุบที่กำลังจะจัดเรียงลงกล่องให้แก้มใสชิมตามที่ยายหนูร้องขอ
“อร่อยจังเลยค่ะคุณยายขา” ยิ้มหวานให้ผู้เป็นยายก่อนที่จะนั่งคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง
“กินแค่นี้พอนะลูกขนมหวานกินมากเดี๋ยวฟันผุ” ผู้เป็นยายบอกหลานสาวในขณะที่แก้มใสพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“แก้มใสคะมาทานข้าวเช้าก่อนเร็วค่ะลูกวันนี้แม่มีซีเรียลใส่นมกับสตรอว์เบอร์รีผลโต ๆ ที่หนูชอบด้วยนะคะ” ที่รักยกถ้วยลายการ์ตูนออกมาวางบนโต๊ะทานข้าวแก้มใสที่ได้ยินแบบนั้นรีบวิ่งไปหาผู้เป็นแม่ทันที
“แม่ขา แก้มใส หิ๊วหิวค่ะ อยากกินสตรอว์เบอร์รีจังเลย” เด็กน้อยยิ้มหวานอย่างน่ารักอ้อนผู้เป็นแม่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาขนาดพอดีตัว
“วันนี้ต้องกินให้หมดนะคะเดี๋ยวรถโรงเรียนมารับแล้ว” ที่รักลูบหัวแก้มใสก่อนจะบอกลูกสาวอย่างเอ็นดู
“รับทราบค่ะแม่ขา” แก้มใสยิ้มหวานบอกที่รักก่อนที่จะยกช้อนหมีพูห์ขึ้นมาตักซีเรียลกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยมีที่รักมองตามอย่างปลื้มใจที่ลูกสาวเธอกินได้ทุกอย่างไม่เกี่ยงงอน
“แม่จ๋า วันนี้ออเดอร์เยอะไหมจ๊ะ”
ที่รักละสายตาจากแก้มใสก่อนจะหันไปถามผกาที่กำลังจัดขนมใส่กล่องเรียงรายวางใส่ตะกร้าเพื่อรอคนมารับแม่ของเธอไม่ได้ขายกับข้าวมาสามปีแล้วตั้งแต่แก้มใสได้ขวบกว่าแต่ทำขนมไทยขายแทน ซึ่งที่รักเปิดเพจขายออนไลน์ทำให้มีคนสนใจและออเดอร์เข้ามามากมายทำให้ครอบครัวของพวกเธอมีรายได้พออยู่พอกินเพราะเงินที่กฤษฎิ์ให้เธอไว้ก็ยังคงมีอยู่ แต่เธออยากเก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
“มีลูกชุบ 20 กล่อง บุหลันดั้นเมฆ 60 ถ้วย ขนมโค 15 ถุง ขนมช่อม่วง 30 กล่องกับเทียนแก้วอีก 20 กล่องลูก” ผกายิ้มบอกลูกสาวอย่างมีความสุขที่ได้ทำขนมขายหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
ปี๊ด ปี๊ด
เสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่บีบแตรอยู่หน้าบ้านทำให้ที่รักรีบหยิบขนมที่ใส่ถุงเตรียมไว้เรียบร้อยขึ้นมาทันที
“ไปจ้ะแม่พี่เขามารับขนมแล้ว”
บอกแม่ก่อนจะถือขนมเต็มสองมือออกมาส่งรถที่เธอเรียกมารับขนมให้ไปส่งตามจุดที่สั่งเมื่อส่งขนมเสร็จเรียบร้อยแล้วรถโรงเรียนก็มารับหนูน้อยแก้มใสพอดี
“แก้มใสคะ คุณครูมารับแล้ว” ที่รักร้องบอกลูกสาวตัวน้อยด้วยรอยยิ้มก่อนที่แก้มใสในชุดกระโปรงน่ารักจะรีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายรูปการ์ตูนขึ้นมาสะพายหลัง
“สวัสดีค่ะคุณแม่น้องแก้มใส” คุณครูเวรประจำรถตู้ยิ้มทักทายที่รักทันทีที่ที่รักเดินมาพร้อมกับแก้มใส
“สวัสดีค่ะคุณครูเมย์” หนูน้อยแก้มใสยกมือไหว้คุณครูอย่างเด็กที่มีสัมมาคารวะ
“วันนี้ที่รักฝากแก้มใสด้วยนะคะเลิกเรียนแล้วจะรีบไปรับค่ะ” ฝากฝังลูกสาวกับคุณครูก่อนที่จะส่งลูกสาวขึ้นรถตู้เพื่อไปโรงเรียนเนอสเซอรี
“บ๊ายบายค่ะแม่ขา” แก้มใสโบกมือลามารดาก่อนที่รถตู้จะเคลื่อนตัวออกไปเพื่อไปรับเด็กคนอื่นต่อ
“แม่จ๋า ส่งขนมเสร็จแล้วก็พักผ่อนนะจ๊ะเดี๋ยววันนี้ที่รักรับออเดอร์ขนมเสร็จแล้วค่อยเตรียมของตอนที่รักกลับมาจากมหา’ลัยแล้วกันนะจ๊ะ”
“รู้แล้วจ้ะ ลูกสาวแม่ย้ำทุกวันจริงเชียวจนแม่จำได้ขึ้นใจแล้วเนี่ย”
ผกาแซวลูกสาวยิ้ม ๆ ก่อนที่รักจะนั่งลงบนโต๊ะทานข้าวแล้วเรียกผกามากินข้าวเช้า
“มาจ้ะแม่กินข้าวกัน วันนี้ที่รักทำน้ำพริกปลาทูของโปรดของแม่กับแกงพะแนง ผัดยอดอ่อนทานตะวัน สูตรปรับปรุงลดหวาน ลดมัน ลดเค็มเพื่อแม่โดยเฉพาะเลยนะจ๊ะ” ที่รักนำเสนอเมนูอาหารกับผู้เป็นแม่ก่อนที่ผกาจะลุกขึ้นจากพื้นมานั่งลงบนเก้าอี้กินข้าว
“ไหนมาชิมซิ ผ่านมาหลายปีฝีมือไปถึงขั้นไหนแล้ว” หยอกผู้เป็นลูกสาวก่อนจะตักอาหารขึ้นชิมรสชาติ
“อืม อร่อยมากเลยลูกสาวแม่ทำกับข้าวเก่งขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องห่วงว่าลูกแม่จะขายไม่ออกแล้ว” ผกาแอบแซวลูกสาวที่ตอนนี้แก้มใสก็สี่ขวบแล้วแต่ที่รักก็ยังไม่เปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตเลย
“โธ่ แม่จ๊ะให้ที่รักเรียนจบมีการมีงานทำก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องนั้นดีกว่าจ้ะ” บอกผู้เป็นมารดาก่อนจะตักอาหารให้แม่จนพูนจาน
“ตามใจ ลูกสาวแม่ว่าไงแม่ก็ว่างั้น” บอกลูกสาวก่อนที่จะลงมือทานมื้อเช้ากันอย่างเรียบง่ายและมีความสุข