ล้วงความลับ

897 Words
การประชุมลับกำจัดหมาป่าคลั่งเกิดขึ้นอีกครั้ง หนนี้บรรยากาศเคร่งเครียดกว่าครั้งไหน ๆ โดยเฉพาะอดีตบอดีการ์ดของดันเต้ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนหลังการลอบสังหารที่กรุงเทพ แม้จะมีค่าตอบแทนก้อนโตมาจูงใจ คำถามคือเมื่อไหร่ภารกิจจะเสร็จสิ้น “หนนี้เราถึงต้องวางแผนให้รัดกุมที่สุดไงล่ะ” ฟรานเชสโก้กล่าวแล้วจึงเปลี่ยนหัวข้อไปพูดเรื่องอื่นทันที “เราตามติดความเคลื่อนไหวมารีญามาสักพัก เธอเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี ไม่เคยอวดอ้างว่าเป็นคนของแก๊งมาเฟีย เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ” รูปภาพมิรินตามสถานที่ต่าง ๆ ถูกฉายขึ้นจอ หลายคนลงความเห็นว่าไม่ควรเสียเวลาเรื่องไร้สาระผู้หญิง มีเพียงคนเดียวที่ไม่มองข้ามรายละเอียดสำคัญ “พฤติกรรมเธอน่าสนใจดีนะครับ น่าจะชอบไปร้านหนังสือกับร้านเจลาโต้เอามาก ๆ ด้วย” หนุ่มรูปงามจากดูลซัลดรอฟบุ้ยใบ้ไปที่จอ “มันสำคัญด้วยเหรอคุณวากเนอร์” “สำคัญสิครับ มันดูผิดที่ผิดทางไปหมด มารีญาดูใสสะอาดเกินกว่าจะอยู่กับพวกนั้นได้” เขาตัดสินใจเสนอตัวต่อที่ประชุม “ผมจะสืบเรื่องของเธอเอง เราจะพบจุดอ่อนของหมาป่าก็ได้” งานของมิรินคือการแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปสืบข่าวตามที่ได้รับแจ้ง ล่าสุดได้ข่าวสำคัญมาพอสมควรโดยเฉพาะคู่ปรับที่มีฉายาว่าราชสีห์จากดูลซัลดรอฟที่มาปรากฏตัวแถวย่านชานเมือง ระหว่างนี้ระบบยังช่วยให้เธอสามารถสื่อสารได้ทุกภาษา เครื่องดักฟังก็จับความผิดแปลกนี้ได้และมันก็ไปหูดันเต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันที่จริงแค่ภาษาอิตาเลี่ยนได้นับว่าเหลือเชื่อแล้ว แต่นี่ได้ทั้งสแปนิช ดอยซ์และฮังกาเรี่ยนในเวลาใกล้เคียงกัน “ฮังกาเรี่ยนแปลว่าไร” มาเฟียหนุ่มถาม “น่าจะแปลว่าสวัสดีจ๊ะพ่อรูปหล่อ” “ไร้สาระว่ะ” ที่สำคัญรูปถ่ายที่ดึงมาจากโทรศัพท์ก็มีแต่รูปถ่ายเซลฟี่กับหมาแมวและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งไร้ประโยชน์อย่างที่สุด ถ้าเป็นเมื่อก่อนมิรินจะโดนกล่าวหาเป็นสายลับ นอกจากถูกจับเค้นความจริงแล้วอาจจบด้วยการส่งไปไร่องุ่นที่มีแต่คนงานวัยกลัดมัน ตอนนี้ดันเต้จะใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้จึงสั่งให้เธอแฝงตัวเข้าไปในคลับที่ตระกูลวากเนอร์เป็นเจ้าของ การแฝงตัวหนนี้ต้องแปลงโฉมแบบยกเครื่องเลยทีเดียว “แต่ทำไมต้องใส่วิกผมทองด้วยล่ะคะ” มิรินถามแต่ได้คำตอบแค่ว่าเป็นคำสั่งห้ามถามเหตุผลเป็นอันขาด เธอได้แต่ปิดปากเงียบปล่อยให้ช่างฯ ทำงานต่อจนเสร็จแล้วไปให้เจ้านายดูตัวก่อนไปทำภารกิจ “หึ ขี้เหร่น้อยลง” คำก็ขี้เหร่สองคำก็ว่าขี้เหร่ขนาดแปลงโฉมเป็นแหม่มผมทองแล้ว ที่ผ่านมาคำขอบคุณหรือชื่นชมก็ไม่เคยมีสักคำ ที่สำคัญไม่เคยเรียกชื่อเธอเลยสักครั้ง ถ้าไม่ใช่ภารกิจคงไม่อยู่ให้เสียสุขภาพจิตเป็นแน่ “รินถือเป็นคำชมนะคะ ขี้เหร่น้อยลงแปลว่าสวยขึ้น ขอบคุณค่ะดอน” มิรินคลี่ยิ้มหวานกลายเป็นดันเต้นิ่งไปราวต้องมนตร์สะกดเพราะไม่เคยเห็นรอยยิ้มโง่ ๆ ที่ดูจริงใจเช่นนี้มาก่อน แล้วการพูดขอบคุณทั้งที่โดนถากถางมันหมายความว่าอะไรกัน “ประสาทฉิบ!” “อะไรนะคะ” ร่างบางถามแต่ก็ถูกสั่งให้ออกจากห้องทันที ปลายทางคือคลับดนตรีแจ๊ซที่อยู่ในชุมชนชาวเยอมนี โชคดีที่มิรินมาทันการแสดงสดที่ได้นักเปียโนรูปงามฉายาราชสีห์แห่งดูลซัลดรอฟ “เพอร์ซี่ เขาคือเพอร์ซี่ วากเนอร์แน่ ๆ” ในที่สุดก็ได้เจอพระเอกนิยายผู้ปิดตำนานหมาป่าคลั่ง สิ่งที่จะเกิดจากนี้คือการลอบสังหารที่ฟลอเรนซ์ ระหว่างการแสดงมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งทยอยลุกจากโต๊ะแล้วเดินหายไปหลังร้านแล้วพูดคุยกันด้วยภาษาดอยซ์โดยไม่รู้ว่ามีคนแอบตามไปบันทึกวิดีโอไว้ได้ “เราทุ่มเทให้ขนาดนี้ไม่ซาบซึ้งในน้ำใจก็คงไม่รู้จะว่าไงแล้ว” เธอบ่นด้วยความเหนื่อยหน่ายใจระหว่างทางกลับบ้าน แม้ภารกิจจะจบลงในเวลาอันสั้นแต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด การปลอมตัวครั้งนี้ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของเพอร์ซี่ได้ ฝ่ายนั้นพลาดตรงที่ลุกออกไประหว่างการแสดงแล้วหายเข้ากลีบเมฆ ทั้งที่ควรจะกลับมานั่งต่อจนจบ ยกเลิกภารกิจก่อนเถอะครับ คนของหมาป่ามาที่นี่ ข้อความแจ้งเตือนที่ทำให้ความคิดเห็นแตกเป็นสองฝั่งทันที แต่ส่วนใหญ่อยากทำตามแผนเพราะรอไม่ได้แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด คนโดนหมายหัวที่รู้เหตุการณ์อยู่ก่อนแล้วกำลังเริงสวาทแบบ 3 ต่อ 1 ในห้องประตูแดงอย่างสบายอารมณ์ ดวงตาสีเทาคมกริบดุจนักล่ามองสามสาวที่แย่งกันปรนเปรอแท่งร้อนด้วยปาก “อ่าห์~ โอ้ว ซี๊ด!...อ่าห์ เสียวเว้ย!” ต่อไปตากูนะไอ้พวกลอบกัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD