3...

1729 Words
“เป็นอะไรคะ ทำไมวันนี้คุณดูเหนื่อยๆ” ทางด้านคริสเตียน พอคุยกับทอมมี่เสร็จเขาก็ขับรถตรงไปหาติช่าที่คอนโดประจำของเขาทันทีซึ่งที่นี่เป็นที่ๆเขาเอาไว้เริงรักกับสาวๆ “ก็เหนื่อยนะสิถึงมาให้คุณช่วยให้หายเหนื่อย” คริสเตียนบอกขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างสูงของนางแบบสาว ที่พึ่งนอนกับเขาเพียงครั้งสองครั้ง และที่เธอยังอยู่เพราะรสรักอันช่ำชองที่ทำเอาเขาแทบคลั่งเลยทำให้เขายังไม่เปลี่ยนคู่นอนทั้งๆที่ปกติแล้วแทบไม่มีใครได้อยู่บนเตียงของเขาเกินสองครั้งเลยจริงๆ “ถ้าทำให้ผมหายเครียดได้ ผมจ่ายสองเท่า...” เสียงกระซิบอันทรงเสน่ห์ที่ทำเอานางแบบสาวแทบระทวย ยิ่งมันดังอยู่ข้างๆหูเธอยิ่งแทบละลาย เธออยากที่จะหลงรักเขาจริงๆถ้าไม่ติดตรงที่ว่า กฎข้อเดียวของคริสเตียนคือไม่ผูกมัดไม่ว่าจะทางใดก็ตาม และถ้าเกิดผู้หญิงคนไหนทำท่าทีหึงหวงหรือต้องการจับเขา ชายหนุ่มจะยุติทุกอย่างลงในทันที เลยทำให้พวกผู้หญิงไม่กล้าคิดที่จะเป็นเจ้าของคาสโนว่าหนุ่มที่มีบทรักอันร้อนแรงและจ่ายหนักที่สุดเท่าที่พวกเธอเคยเจอมา และจากนั้นติช่าก็เริ่มจัดการกับร่างใหญ่ เสื้อผ้าราคาแพงถูกถอดออกอย่างเชื่องช้าเนิบนาบอย่างที่เธอเคยทำ ก่อนลิ้นเรียวเล็กจะค่อยๆแตะเลียไต่ไปตามกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันน่าหลงใหล คริสเตียนที่ตอนนี้นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ได้แต่หลับตาพริ้ม เพราะอีกไม่นานบทรักอันแสนร้อนแรงจะถูกส่งมาที่เขาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนแน่นอน “มีอะไรเหรอคะคุณอา” ทางด้านแรกรัก ชีวิตของเธอก็เริ่มวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อพวกผู้บริหารพากันเข้านอกออกในห้องทำงานของเธอเป็นว่าเล่น ทุกอย่างชะงักไปหมดเพราะไร้ตำแหน่งประธาน เธอเองก็อยากบอกว่าตอนนี้เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อทายาทของคุณนิรุตยังไม่กลับมาเปิดพินัยกรรมสักที “เห็นว่าคณะกรรมการจะพากันประชุมจัดตั้งประธานกันเอง อาคิดว่ามันไม่ถูกต้อง” “แล้วจะให้รักทำยังไงคะในเมื่อเขาไม่ยอมมา พินัยกรรมก็เปิดไม่ได้” ทนายไกรสรณ์รีบร้อนมาหาแรกรักอีกครั้งเมื่อตอนนี้พวกผู้บริหารจะพากันแต่งตั้งคนมาดำรงตำแหน่งกันเองเพราะตอนนี้มันร่วมเดือนแล้วที่ตำแหน่งว่างลง “เฮ้อ อาก็ได้แต่รอคำตอบจากลูกชายคุณนิรุต คนที่อาส่งไปก็ถูกไล่กลับมาอีก ถ้าเป็นแบบนี้มีหวังได้วุ่นวายกันไปใหญ่แน่” แรกรักได้แต่มองไปที่ทนายไกรสรณ์อย่างไม่รู้จะช่วยยังไงเมื่อทางนั้นไม่ยอมมา “จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราไปหาเขาที่นั่นแล้วก็ทำการเปิดพินัยกรรม เพราะถ้าไม่อย่างนั้นคุณนิรุตคงตายตาไม่หลับ อาก็ไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล” “ถ้าไปแล้วเขาไล่เรากลับมาอีกล่ะค่ะ ไม่มีทางเปิดโดยไม่มีเขาเหรอคะคุณอา” ทนายไกรสรณ์ส่ายหัวให้เป็นคำตอบ เมื่อเขารู้ว่าเนื้อหาในพินัยกรรมฉบับนี้นั้นต้องมีบุตรชายของคุณนิรุตอยู่ด้วย “งั้นเราก็ไปหาเขาที่โน่น ทุกอย่างมันจะได้จบๆ” “ใช่! หนูไปได้ใช่ไหม เดี๋ยวอาจัดการทุกอย่างเอง แล้วอาจะโทรมาบอกวันเวลาที่ต้องบิน หนูเตรียมตัวเอาไว้นะ” “ค่ะ...” เมื่อไม่รู้จะหาทางออกยังไงสำหรับเรื่องนี้ แรกรักเลยตัดสินใจที่จะไปเปิดพินัยกรรมกันที่อังกฤษ ทุกอย่างที่คาราคาซังจะได้สิ้นสุดลงสักที ประเทศอังกฤษ “ทำไมแกต้องเอาฉันมาด้วยล่ะ ฉันไม่อยากมาเลยสักนิด” เสียงบ่นของซอลลาดังขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนมาถึงอังกฤษเธอก็ยังไม่หยุดบ่น แรกรักที่รำคาญจนแทบจะหยุดรำคาญได้แต่เดินแบบไม่สนใจเสียงบ่นของเพื่อนสนิทที่เหมือนจะโดนเธอบังคับให้มาด้วย แต่ก็แค่เหมือนเมื่อซอลลาเล่นหอบกระเป๋าใบใหญ่มาด้วยถึงสองใบพร้อมกับใบเล็กอีกหนึ่งใบเหมือนกับต้องการจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ตรงข้ามกับเสียงบ่นว่าไม่อยากมาโดยสิ้นเชิง “ก็บอกแล้วว่าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา” “ก็...ฉันเป็นห่วงนี่” “งั้นก็เลิกบ่น เราถึงโรงแรมแล้ว” “จริงเหรอ! โอโห นี่มันโรงแรมที่ฉันเคยเห็นพวกดารามาพักแล้วถ่ายรูปลงไอจีนี่ อ๊าย! ฉันต้องได้ถ่ายบ้าง” และพอได้เห็นที่พัก เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นเต้นของซอลลาก็ดังขึ้น ทำเอาแรกรักได้แต่มองเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มเพราะเธอรู้ดีว่าซอลลานั้นอยากมาด้วยแค่ปากแข็งเท่านั้นเอง “แล้วคนอื่นๆล่ะทำไมมีแค่เราสองคน” “คนอื่นคุณอาไกรสรณ์ให้พักโรงแรมอื่นน่ะ เข้าไปกันเถอะ ง่วงแล้ว” พอชื่นชมด้านนอกเสร็จแรกรักก็พาซอลลาเข้าไปในโรงแรม ก่อนพนักงานจะพาเธอสองคนขึ้นมายังห้องพัก ที่ดูหรูหราไม่ต่างจากภายนอกเลยสักนิด พรุ่งนี้ทนายไกรสรณ์แจ้งว่าจะพาเธอและพยานที่พามาเข้าไปพบบุตรชายของคุณนิรุต ซึ่งมันเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอกับพี่ชายบุญธรรม ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเจอหรือรู้จักกันแรกรักก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะลึกๆในจิตใจของเธอนั้นเธอก็ยังมีพี่ชายซึ่งเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ “อะไรนะคะ ทำไมล่ะ เราขอเวลาไม่ถึงวันด้วยซ้ำ” “เดี๋ยวอาจะพยายามดูอีกที หนูรักพักผ่อนกันไปก่อนนะ ได้เรื่องยังไงอาจะติดต่อไป” “ค่ะ...เดี๋ยวค่ะคุณอา รักขอเบอร์โทรและที่อยู่ที่ทำงานของเขาได้ไหมคะ เผื่อเขาจะยอมให้รักพบ” เช้าวันต่อมาขณะที่แรกรักกำลังจะออกไปเจอทนายไกรสรณ์แต่ทนายไกรสรณ์กลับโทรเข้ามาหาเธอแล้วบอกว่าทางนั้นไม่อนุญาตให้พวกเธอเข้าพบทำเอาหญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก ขอพบแค่ไม่นานทำไมเขาถึงไม่อนุญาตล่ะ ยิ่งคิดเธอยิ่งไม่เข้าใจ “หนูแน่ใจเหรอ ให้อาคุยกับเขาก่อนดีไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ เขาคงไม่ใจดำไล่หนูออกมาหรอกมั้งคะ” “งั้น...เดี๋ยวอาส่งข้อความไปให้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็โทรหาอาได้เลยนะ” “ค่ะ” ทนายไกรสรณ์บอกอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะขนาดตนเองโทรเข้าไปขอเข้าพบยังโดนฝ่ายนั้นปฏิเสธมาแทบทันที “บอสคะ มีคนมาขอเข้าพบ...” “ผมบอกคุณไปชัดแล้วนะ ว่าไม่ต้องการพบใคร” ทางด้านคริสเตียนที่หันไปทำหน้าหงุดหงิดใส่เลขาของตนเองเมื่อเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบแต่ก็ยังมาบอกเขาว่ามีคนขอพบเขาอยู่อีก “แต่ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเป็นน้อง...เอ่อ ค่ะ ฉันจะบอกให้เธอกลับไปนะคะ” ยังพูดไม่ทันจบเลขาของคริสเตียนก็ต้องรีบตัดบทแล้วเดินออกไปเมื่อสายตาอันน่ากลัวของเจ้านายถูกส่งมาที่เธอจนอดขนลุกไม่ได้ “เฮ้อ น้องบ้าน้องบออะไร ฉันไม่มีน้อง...น้องเหรอ? เฮ้ย!” พอเลขาเดินออกไปได้สักพัก เสียงถอนหายใจของคริสเตียนก็ดังขึ้นพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเด้งตัวขึ้นเมื่อพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเขามีน้องสาวนอกไส้อีกคน ชายหนุ่มถึงกับลุกวิ่งออกไปนอกห้องทันที แต่กลับไม่เจอเลขาของเขาเสียแล้ว เขาเลยวิ่งตรงไปที่ลิฟต์และพบว่ามันกำลังลงไปชั้นล่าง “บ้าเอ้ย!” ชายหนุ่มตัดสินใจวิ่งลงบันไดอย่างไม่คิดรอลิฟต์ เมื่อน้องที่เลขาบอกนั้นคงเป็นแรกรักอย่างแน่นอนเพราะก่อนหน้านี้เลขาของเขามาบอกว่าพวกที่เคยมาพบเขานั้นกลับมาขอพบเขาอีกครั้งและเขาก็ปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้ว “บอส! มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ ทำไมถึง...” “แฮ่กๆๆ ไปไหน แฮ่กๆๆๆ ไปไหนแล้ว” “คะ? เอ่อ ใครไปไหน” “น้อง...น้องไง” “คะ? น้องเหรอ” “ก็คนที่มาพบผมน่ะ ไปไหน!” “อ้อ พึ่งกลับออกไป...” “โธ่เว้ย!” คริสเตียนสบถเสียงดังก่อนจะวิ่งออกไป ทำเอาพวกพนักงานพากันมองอย่างนึกแปลกใจระคนสงสัยกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม “หยุดก่อน!” “คะ? เอ่อ พวกเราเหรอ” คริสเตียนวิ่งออกมาจนเจอสาวร่างเล็กสองคนเลยตะโกนเรียก ทำเอาทั้งแรกรักและซอลลาถึงกับสะดุ้งรีบหันมามอง ก่อนที่ซอลลาจะถามขึ้น “ใช่ แฮ่กๆๆๆ พวกคุณนั่นแหละ” เสียงหอบกระเส่าอันเหน็ดเหนื่อยของคริสเตียนบอกขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้สองสาวที่เริ่มเดินถอยหนีอย่างนึกกลัว “พวกคุณมาพบผมใช่ไหม แฮ่กๆ” “พวกเรามาพบ เอ่อ คุณคริสเตียน?” “ใช่ ผมนี่แหละคริสเตียน” สองสาวมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ เลขาของเขาลงมาบอกว่าเขาไม่ต้องการพบพวกเธอแต่ทำไมเขากลับวิ่งหน้าตั้งตามพวกเธอมาล่ะ “มีอะไรรึเปล่าคะ” แรกรักถามขึ้นอย่างตกใจโดยลืมไปเลยว่าเป็นพวกเธอเองที่มีเรื่องอยากคุยกับเขา “ก็...พวกคุณมาหาผมไม่ใช่เหรอ” “อ่าว เอ่อ ใช่ๆๆ พวกเรามาขอเจอคุณ” “อืม งั้นตามผมมา” ชายหนุ่มบอกขึ้นพร้อมกับเดินนำสองสาวกลับเข้าไปในบริษัท ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าที่ใจเต้นแรงเพราะเหนื่อยหรือว่าเพราะได้เจอแรกรักอีกครั้งกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD