ผ่านไปสิบนาทีกับการทำอาหาร เมนูวันนี้มีไก่ผัดเม็ดมะม่วง หมูมะนาว หมึกนึ่งมะนาว หมูคลุกฝุ่น สามชั้นทอดน้ำปลา นี่เป็นเพียงกับแกล้ม กับข้าววันนี้รอเฮียหินสั่งอีกครั้ง เผื่อว่าเพื่อนของเฮียจะค้างที่นี่
“ทำไรอะ” เสียงทุ้มดังมาจากประตูครัว เขายืนมองเด็กสาวที่ขะมักเขม้นกับวัตถุดิบมาสักพักใหญ่ เธอจดจ่อกับงานตรงหน้าโดยไม่สนใจเลยว่ามีคนมายืนด้านหลัง นี่ถ้าไม่ทักก็คงไม่เห็นจนกว่าจะหันมาเจอเขา
“สวัสดีค่ะเฮียกานต์” อาอี้หันมาเจอเจ้าของเสียงจึงวางของยกมือไหว้การิน อาอี้รู้จักกับพริกหวานจึงรู้จักการินเป็นการส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้เพื่อน ๆ ของการินไม่ค่อยรู้หรือบอกว่าไม่รู้เลยก็ได้
“ทำไมมาทำงานกับไอ้หิน ไอ้หินมันเกลียดหน้าอาอี้ไม่ใช่เหรอ โดนมันบังคับปะเนี่ย”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“ยังไงกัน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เฮียพอช่วยได้ไหม บอกเฮียได้เลยนะ”
“อี้เกรงใจค่ะ อี้ขอจัดการเองนะ”
“เฮ้ย ได้ไง ถ้าพริกรู้เอาเฮียตาย”
“งั้นเฮียก็ไม่น่าตายนะคะเพราะเจ้พริกตัดขาดกับเฮียไปแล้ว อี้ไม่พูดยังไงเจ้พริกก็ไม่รู้”
“…”
“ขอโทษที่พูดตรง ๆ ค่ะ”
“เอาเรื่องเราเนี่ยยังไง เล่าให้เฮียฟังหน่อย”
“พ่ออี้เขามากู้เงินเฮียหินไปใช้หนี้ให้ลูกเขา เฮียหินเสนอให้พ่อยกอี้ให้เขาถึงจะให้เงินตามที่ต้องการ ย่ากับแม่เลี้ยงเห็นดีเห็นงาม พ่อลังเล อี้เลยได้มาอยู่ที่นี่ ก็ไม่ถึงกับแย่ค่ะ เฮียหินให้อี้ได้เรียน ให้อี้ทำงาน ให้เงินเดือน อี้อายุเท่านี้มีเงินเดือนหมื่นกว่าถือว่าดีนะคะที่พักก็ฟรี” อาอี้เอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่ได้สดใสอย่างที่ควรจะเป็น เธอก็แค่พยายามยอมรับโชคชะตาตัวเอง
“ระยะหลังมานี้ไอ้หินมันเปลี่ยนรสนิยม ผู้หญิงที่สร้างร่องรอยตามตัวมันใช่อี้หรือเปล่า”
“เฮียกานต์คะ ถึงอี้จะทำเรื่องแย่ ๆ กับพี่นิก แต่อี้ไม่คิดขายตัวนะ แล้วจะบอกให้นะคะปลายเล็บเฮียหินอี้ก็ไม่เคยแตะ จะไปสร้างรอยบนร่างกายเขาได้ยังไงคะ เฮียกานต์ก็พูดเองว่าเฮียหินเกลียดอี้มาก คนเกลียดกันที่ไหนจะเอากันได้คะ”
“อืม ก็จริง อาอี้ติดเงินมันเท่าไหร่ เฮียจะใช้คืนให้”
“ไม่ต้องค่ะเงินมันเยอะ เฮียกานต์จะช่วยอี้ได้ยังไง เมียเฮียไม่รู้นะว่าเรารู้จักกัน ถ้าเฮียช่วยอี้แล้วอี้โดนดักตบจะทำไงคะ ไหนจะคนของเฮียหินอีก เฮียหินเขาอยากให้อี้อยู่ในสายตาจะได้คอยดูว่าอี้ไปก่อกวนพี่นิกไหม อี้ทนได้ค่ะ อย่างที่อี้บอกมันก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง ตอนนี้อี้มีบ้านหลังใหญ่ให้อยู่ ไม่ต้องเสียเงินเช่าด้วย เงินเดือนก็มีใช้ อี้ว่าโอเคอยู่นะคะ ดีกว่าไปลำบากข้างนอกตั้งหลายเท่า”
“มันก็ดี แต่ก็ต้องทนคำพูดกับสายตาเหน็บแนมจากไอ้หินใช่ไหมล่ะ”
“ค่ะ อี้ว่าทนเฮียหินได้อี้ก็ทนคนทั้งโลกได้แล้วนะ”
“ฮาฮา จริง ๆ เลยนะเราเนี่ย”
“แล้วนี่เข้ามาในครัวเพราะเฮียกานต์อยากรู้เรื่องอี้อย่างเดียวหรืออยากรู้เรื่องอีกคนคะ”
“เรื่องเราคนเดียว เห็นอยู่ที่นี่เฮียเป็นห่วงไง”
“ขอบคุณค่ะ อี้โอเค”
“เออ เฮียรู้อาอี้เก่ง เรื่องไหนที่ผิดไปแล้วให้เป็นบทเรียนชีวิตเข้าใจไหม”
“ค่ะ ชีวิตนี้ไม่ทำกับคนอื่นอีกแล้วค่ะ อี้รู้สิ่งที่ทำลงไปทำให้คนอื่นรังเกียจมาก”
“อาอี้คิดได้เฮียก็ดีใจ ตอนนั้นเตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ถามเท่าไหร่ก็ไม่บอก”
“ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผิดไปแล้วรู้ว่าผิดก็อย่าทำอีก ต่อไปตั้งใจเรียนนะ วิชาความรู้จะช่วยให้อาอี้เอาตัวรอดได้ แล้วถ้าไม่ไหวกับไอ้หินจริง ๆ บอกเฮีย เฮียจะช่วยอี้เอง”
“ค่ะ” อาอี้ฉีกยิ้มเมื่อเฮียกานต์วางมือที่ศีรษะของเธอด้วยความรู้สึกเอ็นดูที่พี่ชายมีให้น้องสาวคนหนึ่ง
ทว่าภาพที่คนอื่นมองมาไม่ได้เข้าใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยเฉพาะกล้วยหอมภรรยาของการิน “ทำอะไรกัน จะเอากันตรงนี้เลยไหมหรือเอาเสร็จแล้ว”
เสียงเกี้ยวกราดของกล้วยหอมทำให้การินอาอี้ขยับออกห่างกัน อาอี้ก้มหน้าเมื่อหันไปเจอว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร การินหันมองหน้าภรรยาพลางเอ่ยเสียงนิ่งเรียบ “พูดอะไรบ้า ๆ”
“บ้าเหรอ บ้าตรงไหนก็เห็นอยู่ว่ามันอ่อยมึง กูพูดผิดตรงไหน ทำไมอะ ถามจริง ๆ นะคันมากเหรอ อ่อยนิกไม่ได้เลยจะอ่อยไอ้กานต์ว่างั้น หรือที่มาอยู่ที่นี่มาขายตัวแล้วรับจ๊อบเสริมเสนอตัวให้ผัวกู”
“เฮ้ย กล้วยแรงไป อาอี้ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น”
“แรง! แรงตรงไหน ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าอีเด็กนี่มันใจแตก สิ่งที่มันทำกับนิกผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนทำกัน ต่ำ!” กล้วยหอมมองอาอี้ด้วยสายตารังเกียจทั้งยังพูดเหยียดหยามเต็มที่ เธอเกลียดอาอี้ที่ทำให้หลานสาวของเธอเสียใจ
คำดูถูกจากปากผู้หญิงที่ไม่ได้ดีกว่าอาอี้ ทำให้อาอี้ฟิวส์ขาด ลืมไปว่าตัวเธอเป็นเพียงลูกหนี้ของเจ้าบ้านหลังนี้
อาอี้เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของกล้วยหอม มุมปากแสยะยิ้มเหยียดคืนบ้าง “ต่ำ คุณกล้าใช้คำว่าต่ำกับคนอื่นเพราะคิดว่าตัวคุณสูงส่งเหรอคะ สิ่งที่หนูทำมันไม่ดีหนูยอมรับ แล้วสิ่งที่คุณทำสิ่งที่คุณพยายามปิดไว้ละคะมันเรียกว่าอะไร เรียกว่าโคตรเลว ได้ไหมคะ”
เพี้ยะ! เพี้ยะ! ฝ่ามือเรียวยาวของกล้วยหอมฟาดลงที่ใบหน้าสะสวยของอาอี้ “อีเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน มึงอยากลองดีงั้นเหรอ ได้วันนี้กูจะสั่งสอนมึงเอง”
เพี้ยะ! อาอี้ตบคืนบ้าง ถึงเธอเด็กกว่าเป็นสิบปีแล้วยังไง เธอต้องกลัวผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอ ไม่ ไม่เลย สังคมที่โหดร้ายสอนให้เธอหัดเอาตัวรอด ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับสิ
“นี่มึงกล้าตบกูเหรอ” สิ้นเสียงกล้วยหอมฟาดฝ่ามือลงที่ใบหน้าอาอี้อีกรอบ ทว่ารอบนี้อาอี้หลบทัน
“ใช่ค่ะ ก็คุณตบหนูจะให้หนูกราบคุณงั้นเหรอ”
“ใช่ เธอต้องกราบ กราบเท้าขอโทษเมียของเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้” เสียงทรงพลังดังมาจากด้านหลังของกล้วยหอม อาอี้มองเห็นร่างสูงใหญ่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง ด้านหลังของเฮียหินมีเพื่อน ๆ ของเขาตามมาสมทบ
“แต่เขาตบอี้ก่อน”
“ก็เธอไปอ่อยไอ้กานต์ กล้วยหอมตบเธอไม่ถูกตรงไหน”
“มันผิดตรงที่อี้ไม่ได้อ่อยเฮียกานต์”
“ใครจะเชื่อเด็กแก่แดดอย่างเธอ เทียบกับเมียของเพื่อนฉันคนอย่างเธอมันน่าเชื่อนักหรือไง ขอโทษกล้วยหอมเดี๋ยวนี้!”
“อี้ไม่ผิด ทำไมอี้ต้องยอม”