“ยังไง นี่มึงทำอะไรน้องมัน”
“ที่น้องมาสารภาพเพราะพี่หินหรือเปล่าคะ” สองสามีภรรยาถามทันทีที่อาอี้เดินออกไป ความสงสัยที่เคยค้างคาใจเจี๋ยดูท่าวันนี้พี่หินจะเฉลยออกมาแล้ว
“ใช่”
“ใช่อะไรคะ พี่หินจะบอกว่าใช่อย่างเดียวไม่ได้ พี่หินทำอะไรน้อง ทำไมน้องมันนิ่งแบบนั้น”
“มึงไม่ใช่คนกินมั่วซั่ว มึงคงไม่…”
“กูไม่คิดจะเอาเด็กแก่แดด”
“แล้วมันยังไง อาอี้ไม่ใช่คนที่จะยอมให้คนบังคับ”
“พ่ออาอี้มายืมเงิน กูเลยเสนอให้ขายลูกสาวให้กู คนพ่อก็ดูลังเลแต่ย่ากับแม่เลี้ยงรับข้อเสนอทันที”
“อาอี้ออกจากบ้านมานานแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจะยอมง่ายขนาดนี้นะคะ”
“เอางี้กูถามมึงทำทำไมก่อน” นิกถามทั้งที่มีคำตอบอยู่ในใจ ทว่าไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองอยากได้ยินจากปากไอ้หิน
“เพื่อมึง กูอยากให้มึงมีความสุข” เขามันคนตรง ถามก็บอกความจริง ในเมื่อทำเพื่อเพื่อนจะอายทำไม ไม่มีหรอกความรู้สึกอย่างอื่น เขาแค่ทำเพื่อเพื่อนเท่านั้น
“อาอี้ติดหนี้มึงเท่าไหร่”
“เรื่องนี้มึงไม่ต้องยุ่ง” เขารู้เลยว่าไอ้นิกจะพูดอะไรต่อ
“งั้นเจี๋ยยุ่งได้ไหม” คนท้องถามบ้าง
“ไม่ครับ เจี๋ยก็ห้าม” เขาหันไปยิ้มให้เจี๋ยอย่างเลือดเย็น
“พี่นิก…ทำไมพี่หินใจร้ายคะ”
“พี่ใจร้ายตรงไหน ที่พี่ให้ทำงานบ้านก็เพื่อใช้หนี้ พี่ให้เงินเดือน ให้ที่อยู่ที่นอน ค่าไฟค่าน้ำไม่เสีย และพี่ให้ไปเรียน หาเจ้าหนี้ใจดีกว่าพี่จะมีไหมเจี๋ย แล้วที่พี่ให้เด็กนั่นมาอยู่ใกล้ ๆ ทั้งที่เกลียดขี้หน้าก็เพราะเด็กนั่นร้าย พี่ไม่ไว้ใจ พี่กลัวจะไปสร้างความวุ่นวายให้เจี๋ยเครียด”
“…” พอได้พูดพี่หินก็พูดจนเจี๋ยเถียงไม่ออก
“แบบนี้พี่ยังร้ายไหมครับ”
“พี่นิกดุพี่หินหน่อย เจี๋ยไม่รู้จะดุอะไรพี่หิน” เถียงไม่ออกก็โยนให้พี่นิก
“มันต้องมีอะไรมากกว่าที่มึงเล่ามา ไม่งั้นอาอี้ไม่มีทางยอมพูดความจริง”
ศิวดลแสยะยิ้ม สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันมานาน ถึงได้ใจ รู้นิสัยในระดับหนึ่ง “วันเกิดครบ 18 ปีของอาอี้กูแค่ให้เด็กไปจับตัวมาเค้นเอาความจริง”
“ยังไง” แม้นิกจะตกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดแต่ก็ต้องถามต่อ ขณะที่เจี๋ยเริ่มนึกถึงคืนนั้นที่อาอี้โทรมาขอความช่วยเหลือแล้วพี่นิกไม่ไป เช้าวันต่อมาอาอี้ก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่เรียกร้องความสนใจ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันอาอี้ก็นัดเจอพร้อมกับเล่าความจริงเรื่องที่เธอทำกับพี่นิก
“จับมัดเก้าอี้ จับแก้ผ้าบางชิ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นโป๊หรอก ถ่ายคลิป แล้วก็เอาสิ่งที่เด็กนั่นไม่ชอบมาข่มขู่ว่าจะจับใส่…ตาม…ตัวทีละตัว ทีละตัว ตอนแรกก็ไม่เชื่อ พยศน่าดู ก็เลยเจอไปสองสามตัว พอรู้ว่าจริงแน่ ๆ ไม่ใช่แค่ขู่เลยพูดความจริง” น้ำเสียงที่ศิวดลพูดมันดูเย็นชาไร้หัวใจที่สุด
“อะไรคะ เอาอะไรใส่”
“กิ้งกือ หนอนผีเสื้อ” เขาพูดสบาย ๆ นั่งไขว่ห้าง แขนพาดพนักโซฟา ยักไหล่ชิว ๆ
“พี่หิน…” ใจร้ายมาก แค่คิดเจี๋ยก็จะร้อง
“มึงใจร้ายกับน้องมันจังวะ”
“แล้วที่เด็กนั่นทำกับมึงอะ”
“ก็น้องมันยังเด็ก ที่ทำไปเพราะต้องการความรัก น้องมันขาดความรัก”
“มึงหยุดปกป้องคนอื่นไอ้นิก มึงก็เคยเห็นผลลัพธ์ที่มึงใจดีจนเกิดเรื่อง คนที่มึงต้องปกป้องมีแค่เจี๋ยกับลูก กูถามจริงเถอะ ถ้ากูไม่ทำแบบนั้นมึงคิดว่าเด็กนั่นจะพูดความจริงไหม”
“ไม่” เพราะนิกก็หว่านล้อมทุกทาง อาอี้ไม่พูดสักครั้ง ดึงดันคำเดิมตลอด
“เรื่องนี้ต้องโทษที่ไอ้นิกมันหล่อ” เสียงการินดังมาก่อนตัว แม้มาไม่ทันฟังสิ่งที่ศิวดลพูด แต่ก็พอเข้าใจว่าพูดถึงอาอี้ “แต่กูก็หล่อนี่หว่า แสดงว่าไอ้นิกแค่หล่อถูกใจอาอี้หรือไม่ก็เป็นเพราะเมื่อก่อนไอ้นิกเฟรนด์ลี่กับผู้หญิง”
“กล้วยไม่มา?” ศิวดลมองหาเพื่อนอีกคน
“กูถามแล้วเงียบใส่” การินผ่อนลมหายใจ ใบหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อถามถึงกล้วยหอม
“เรื่องพวกมึงกูไม่ยุ่งนะ” ศิวดลพูดพลางคิดเรื่องของไอ้กานต์ทั้งที่เหมือนจะแฮปปี้ ทว่าซับซ้อนวุ่นวายที่สุด แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าไอ้กานต์มันต้องการอะไรกันแน่ถึงได้ปล่อยทุกอย่างคาราคาซังแบบนี้
“มึงอยู่นิ่ง ๆ ถือว่าช่วยกูมาก เดี๋ยวกูจัดการเอง”
“จัดการใคร” ซัน เฌอปราง เฟย สไปรท์เดินเข้ามาสมทบ คนถามคือซัน
“กูไม่รู้เรื่อง ไอ้กานต์มันบ้า” นิกโบกมือให้เพื่อนรู้ว่าเรื่องนี้อย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่า ไอ้กานต์มันต้องการอะไรตอนนี้มันยังไม่รู้ใจตัวเองเลย
ตั้งแต่เกิดเรื่องกับนิกเจี๋ย กานต์ก็ไม่คิดเล่าปัญหาชีวิตให้เพื่อนฟัง เขาไม่อยากให้เพื่อนหลวมตัวมาทำอะไรบ้า ๆ อีก
“พี่กานต์เป็นคนบ้า พี่หินเป็นอะไรคะ” เฌอปรางถามถึงพี่หินของเธอเพราะหันไปเจอใบหน้าหล่อที่หัวคิ้วขมวดมุ่น
“ไอ้หินเป็นคนดี”
“คำพูดที่ออกจากปากพี่นิกเชื่อได้เท่าไหร่คะ” สไปรท์แกล้งพูดแหย่คนที่เมื่อก่อนปากเก่งมาก ทว่าสุดท้ายตายน้ำตื้น
“แต่ละคน” ศิวดลส่ายหัว
“โอ๊ะ! มาได้ไงเนี่ย” การินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกใจเมื่อเห็นอาอี้อยู่ในชุดสาวใช้เดินถือถาดอาหารเข้ามา
“มึงจะสงสัยอีกนานไหม นั่ง ๆ” นิกพยายามเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้อาอี้รู้สึกอายเพราะทุกสายตากำลังจ้องไปที่อาอี้
“เออ นั่ง ๆ” เฟยมองตานิกก็พอเข้าใจอยู่บ้าง
เพื่อน ๆ พากันนั่งประจำที่เป็นคู่ ๆ อาอี้วางถาดอาหารเรียบร้อยก็รีบเดินออกจากห้อง เดินลิ่ว ๆ มาที่ห้องครัว มาถึงห้องครัวเธอก็พยายามหายใจเข้าหายใจออกอย่างใจเย็น สงบสติอารมณ์และกลั้นน้ำตาของความอับอายไม่ให้ไหล
ก็นึกว่าเฮียหินจะให้เธอหลบซ่อนไม่ต้องเจอเพื่อน ๆ ของเขา ทว่าความเป็นจริงไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะเขาอยากให้เธอเจียมตัว อยากให้เธอรู้ว่าเธอกับพวกเขามันเทียบกันไม่ได้ ซึ่งตลอดสองเดือนที่ผ่านมาอาอี้รับรู้และเข้าใจดีว่าเธอไม่คู่ควรกับพี่นิกทั้งยังเข้าใจแล้วว่าต่อให้พยายามแค่ไหนพี่นิกก็ไม่รักเธอ เธอยอมแพ้ยอมรับความจริงทุกอย่างและก็หวังว่าพี่นิกจะมีความสุขกับคนที่เขารัก ส่วนตัวเธอก็จะมีเพียงความรู้สึกดี ๆ และไม่คิดจะเข้าไปทำลายความรักของพี่นิกพี่เจี๋ยอีก
อาอี้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วฮึบสู้กับชะตาชีวิตอีกครั้ง เบื้องหน้าของเธอยังมีอีกหลายเมนูที่ต้องเตรียม หากทำไม่ทันเวลาเดี๋ยวได้โดนเฮียหินเอ็ดชุดใหญ่