บทที่ 9
เช้าวันต่อมา
วันนี้เธอมีเรียนช่วงบ่าย เลยไม่ต้องรีบมากนักทว่าก็ต้องตื่นมากินข้าวเช้าอยู่ดี เธอลุกไปล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย
แล้วเดินออกมาจากห้อง ได้กลิ่นหอมฉุยลอยมาจากห้องครัว
“หอมจังเลยทำอะไรเหรอคะพี่ภัทร”แก้วเกล้าเอ่ยถามเมื่อเดินมาหยุดตรงเคาท์เตอร์กลางห้องครัว
พลางชะเง้อมองไปในหม้อขนาดย่อมว่ามีอะไร
“ข้าวต้มกุ้งของโปรดน้องแก้วไงค่ะ”ณภัทรหันมาบอกหญิงสาวแล้วยิ้มให้
“อ๋อ พี่กานต์กับพี่ภพ ไปทำงานแล้วเหรอคะ”ถามต่อเพราะตอนออกมาจากห้องไม่เห็นสองหนุ่มเลยปรกติจะเห็นนั่งดื่มกาแฟกับอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตลอด เลยถามด้วยความสงสัย
“ไปตั้งแต่เช้าตรู่ พอดีมีงานด่วนเข้ามาด้วยเลยต้องรีบไปจัดการ”เสียงทุ้มตอบแล้วหันไปจัดการกับของในหม้อต่อ
“พี่ภัทรไม่เข้าบริษัทเหรอคะวันนี้”ยังคงถามต่อ
“เข้าค่ะ แต่ยังไม่ถึงเวลา ไปนั่งรอที่โต๊ะเลยข้าวต้มเสร็จแล้ว”ณภัทรบอก เธอทำตามคำสั่งอย่างง่ายดาย
เปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำพร้อมกับแก้วสองใบติดมือมาด้วยแล้วเทน้ำใส่แก้วเตรียมรอชายหนุ่มนำมื้อเข้ามาเสิร์ฟ
“ข้าวต้มร้อนๆมาแล้วจ้า”มือหนาถือถาดใส่ถ้วยข้าวต้มแล้วยกวางตรงหน้าหญิงสาวจากนั้นก็นั่งลงตรงข้าม
“น่ากินมากเลยค่ะจะลงมือกินแล้วนะ”มือบางหยิบช้อนข้างถ้วยขึ้นมาตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างมีความสุขเอร็ดอร่อยกับของโปรดปรานของตน
“กินเยอะๆ นะ ไม่อิ่มยังมีอีก”
“ค่ะ”เธอพยักหน้ารับแล้วตั้งตากินจนหมดชามแล้วขอเบิ้ลต่ออีกสองถ้วยทำเอาณภัทรยิ้มแก้มปริมีความสุขกับผลงานของตัวเองในเช้าวันนี้
“จะออกไปพร้อมพี่เลยมั้ย”ณภัทรถามต่อหลังกินข้าวเสร็จคงเตรียมตัวอาบน้ำไปทำงานต่อ ช่วงนี้งานเยอะพอสมควรเขาเลยต้องแบ่งเวลาทำงานและมาดูแลน้องแก้วตามที่รับปากคุณน้าเอาไว้หากวันไหนว่างก็มักจะไปรับที่มหาลัยหรือไปส่งทุกวัน
“ไม่ค่ะ ค่อยออกไปตอนเที่ยงเลยอีกอย่างมหาลัยก็ไม่ไกลจากคอนโดด้วย มีเวลาเหลือเยอะ”แก้วเกล้าตอบขืนไปตอนนี้ก็ไปนั่งเฉยๆ เพื่อนก็ยังไม่มากัน
“โอเค พี่เก็บถ้วยไปล้างก่อนนะ”
“ให้แก้วทำดีกว่าค่ะพี่ภัทรอุตส่าห์ตื่นมาทำข้าวเช้าให้กิน ให้แก้วช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง”
“ตามใจ พี่ขอตัวก่อนนะ ฝากทางนี้ด้วยอย่าให้สกปรกล่ะ"ไม่วายย้ำกำชับส่งท้าย
“รับทราบค่ะ”
ณภัทรลุกจากโต๊ะอาหารแล้วหยิบโทรศัพท์กดเข้าดูไลน์ว่ามีงานสำคัญอะไรบ้างที่ต้องจัดการตอนเข้าบริษัท
เขานั่งอ่านรายละเอียดงานคร่าวๆ พออาหารย่อยก็เดินเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเข้าบริษํท
ส่วนแก้วเกล้า หญิงสาวล้างจานและของในห้องครัวเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ชงกาแฟหนึ่งแก้วและตามด้วยขนมปิ้งอีกสองชิ้น เดินถือไปยังหน้าทีวี เปิดหาดูซีรีส์เพื่อฆ่าเวลา
สักพักณภัทรก็ออกมาจากห้องนอนในสภาพเรียบร้อยสวมชุดสูทสีดำที่แก้วเกล้าเคยซื้อให้เป็นของขวัญ จัดเชตทรงผมให้หล่อเหลาตามแบบฉบับที่ผู้ชายฮิตกัน
“พี่ไปทำงานก่อนนะน้องแก้ว อยู่ห้องก็อย่าดูซีรีส์จนเพลินแล้วลืมไปเรียนล่ะ”ณภัทรเอ่ยบอก
“รับทราบค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ ถึงแล้วไลน์มาบอกแก้วด้วย วันนี้ตอนเย็นว่างหรือเปล่าคะ”
“ทำไมเหรอ”เขาถามกลับแทนจะตอบพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ก็วันนั้นที่เกิดเรื่องเพื่อนสนิทของแก้ว อยากกินข้าวกับพวกพี่สามคน แก้วก็รับปากไปแล้วด้วย”แก้วเกล้าบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเอานิ้วชี้สองข้างจิ้มเข้าหากันทำปากมุ้ยราวกับกลัวโดนอีกฝ่ายเอ็ด
“อือ พี่ยังไม่แน่ใจ ส่วนพี่กานต์กับพี่ภพก็ตอบแทนไม่ได้ น้องแก้วต้องโทรไปถามเอง”เขานิ่งไปสักพัก แล้วเอ่ยบอกมา
“โอเคค่ะ ถ้าพี่ภัทรว่างรีบไลน์บอกเลยนะ แก้วจะได้โทรจองร้านอาหารไว้”
“นี่จะยัดเยียดพี่ให้เพื่อนเราเหรอ”
“เปล่า.... เพื่อนแก้วเป็นพวกนักมโนฝัน ชอบอ่านนิยายแนวมาเฟีย พอรู้ว่าแก้วมีพี่ชายข้างบ้านเป็นมาเฟียเลยอยากกินข้าวกับมาเฟียสักครั้ง ว่าจะโหดเหมือนในนิยายหรือเปล่า ช่วยสนองความฝันของเพื่อนแก้วหน่อยนะ พวกนางเพ้อหามาเฟียหนักมาก”แก้วเกล้าบอกไปตามตรง ถือว่าเป็นการช่วยทำให้ฝันของเพื่อนเป็นจริง
“ก็ได้ แต่พี่ไม่รับปากนะว่าว่างหรือเปล่า ไม่งั้นอาจจะต้องวันอื่น”
“โอเคค่ะ ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวสาย”
“จ้าๆ”เขายิ้มรับแล้วเดินออกไปจากห้องโดยมีแก้วเกล้าไปส่งที่หน้าประตูด้วย
--------------------
เมื่อใกล้ถึงเวลาไปเรียนแก้วเกล้าก็ปิดทีวีแล้วเดินเข้าห้องจัดการกับธุระส่วนตัวเมื่อเสร็จเรียบร้อยก็กดเรียกรถมารับที่ใต้คอนโด มุ่งหน้าไปยังมหาลัย
“ยัยแก้ว!!!! ทางนี้”เสียงตะโกนเรียกของแมวเหมียวดังไปสามบ้านแปดบ้านทำเอาผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองด้วยความตกใจ
“แฮร่ๆ ขอโทษด้วยค่ะ”รีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน จนต้องเอามือปิดหน้าไว้ด้วยความอาย พอๆ กับเพื่อนอีกสองคนก็แทบจะเอามุดดินหนี
“แหกปากทำเพื่ออะไร ไม่อายบ้างเหรอ”แก้วเกล้าเดินมาถึงก็เอ็ดเพื่อนสาวทันที
“อายสิ รีบไปจากตรงนี้เถอะ”
ทั้งสี่พากันเดินออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความอับอายเริ่มมีบางคนหันมาซุบซิบ
“มาเฟียสุดหล่อไม่มาส่งเหรอยัยแก้ว”น้ำหนาวเอ่ยถามเมื่อมาหยุดตรงตึกคณะ
“พวกพี่เขาไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว เวลาไม่ตรงกันจะให้มาส่งได้ยังไง”
“หว่า... เสียดาย อดเจอหนุ่มหล่อ”ถึงกับถอนหายใจออกมา ไม่ทันจะได้ถามต่อก็มีกลุ่มเพื่อนสาวเดินเข้ามาหาแล้วหยุดตรงหน้า พวกเธอหันหน้ามองกันด้วยสงสัยคิดว่าไปทำเรื่องให้ไม่พอใจหรือเปล่า
“นี่ๆ แก้ว พวกเรามีเรื่องจะถามน่ะ ว่างหรือเปล่า"ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยถาม
“ว่าง”
“คือ.... พวกเราอยากรู้ว่า เธอเป็นอะไรกับมาเฟียสามคนเมื่อวาน รู้จักกันด้วยเหรอ”
คำถามของคนตรงหน้าทำเอาพวกเธอถึงกับเหวอเลย โดยเฉพาะแก้วเกล้าหน้าตาเลิกลั่กไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
“เอ่อ... เราขอตอบแค่บางส่วนนะ พอดีเป็นเรื่องส่วนตัว พวกพี่เขาเป็นพี่ชายข้างบ้านเราเอง พอดีบ้างติดกันเลยสนิทสนทเป็นพิเศษ”นิ่งอยู่สักพักเลยตอบไปตามความจริงอย่างไม่ปิดบัง
“จริงเหรอ งั้นเธอก็เข้าออกบ้านพวกเขาตลอดเลยสิ”ผู้หญิงอีกคนถามด้วยความสนใจตาลุกวาวไม่น้อยเมื่อได้ยินคำตอบจากเพื่อนร่วมคณะ
“อือ”
“น่าอิจฉามาก เธอได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อเลยนะ มาเฟียในฝันของสาวๆ หลายคน บุญเยอะมาก”
“เหอะ!”เธออยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง อยากให้มาสัมผัสด้วยตัวเองเหลือเกินจะได้ตาสว่างกันบ้าง ในฝันของใครหลายคน แต่ดันเป็นฝันร้ายของเธอน่ะสิ ทั้งเจ้าแผนการ เจ้ากี้เจ้าการอีกด้วย ร้ายไม่เบา
“ฝากไปบอกสามหนุ่มด้วยนะว่า พวกเราชื่นชอบมาก เมื่อวานได้เจอตัวเป็นๆ หล่อเหมือนเทพบุตรเลย กร้าวใจมาก อยากจะเป็นลม”
“พวกเธอไม่กลัวมาเฟียกันหรือไง ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเลยนะ”
“ไม่อ่ะ จากเมื่อวานที่ได้เห็น พวกเขาไม่ได้โหดเหมือนในนิยายเลย รังสีความกลัวก็แทบไม่มี”
“เห็นว่าหล่อเลยคิดว่าใจดี ตัดสินเพียงแค่แป๊บเดียวไม่ได้หรอกนะ”
“หมายความว่าไงอ่ะ พวกเขาไม่ได้ใจดีเหรอ”เริ่มพากันเลิกลั่กแล้วสิ
“อย่าบอกนะว่า..... คงโหดเหมือนในนิยาย แบบไม่พอใจใครก็สั่งฆ่าไรงี้”หญิงสาวอีกคนพูด พลางทำท่าขนลุกไปด้วย
“ฮ่าๆ เราล้อเล่น พี่กานต์ พี่ภพ พี่ภัทร ใจดีมาก เป็นสุภาพบุรุษด้วย ต่างจากมาเฟียคนอื่น ถ้าหากใครไปมีเรื่องด้วย ก็น่าจะเหมือนในนิยายที่พวกเธออ่าน เราก็ไม่รู้อะไรมากหรอก ต่อหน้าเราพวกพี่เขาอาจจะแสนดี ลับหลังอาจจะอีกนิสัยก็ได้”เธอพ่นหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่ละคนมโนไปไกลเหลือเกิน
“หึยยย น่ากลัวจัง แล้วเธอรู้จักพวกเขามานานหรือยัง”
“ก็ตั้งแต่เกิดนะเท่าที่จำความได้ พวกพี่สามคนเลี้ยงเรามาตลอด ไม่เคยเจอโหมดโหดเลยสักครั้ง”
“เอาไงดีแก สองจิตสองใจแล้วเนี่ย”
“บางอย่างในนิยายกับความจริงไม่เหมือนกันหรอกนะ ถ้าให้เราสรุปง่ายๆคือ พวกพี่เขาสามคนถือว่าเป็นคนดีมาก เป็นพี่ชายแสนดีเลยแหละ"เธอพูดไปตามความจริงไม่ปกปิดแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าจะหมั่นไส้ก็ตาม ถึงยังไงแล้วพวกพี่เขาก็น่ารักสำหรับเธอมาตลอด ตามใจกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำ จะให้พูดในทางเสียหายไม่มีทางหรอก ก็ดีเหมือนกันถือว่าเป็นการเพิ่มกระแสให้กับพวกพี่เขาไปด้วย ยิ่งมีผู้หญิงมาชื่นชอบเยอะ เธอก็อาจจะได้พี่สะใภ้ในเร็ววัน
"งั้นพวกเราเชื่อเธอนะแก้ว ฝากบอกด้วยนะว่าพวกเราเป็นแฟนคลับ ติดตามมานานแล้ว"
"อือ เราจะบอกให้"
"ขอบใจมากนะ ช่วยสานฝันพวกเราแทนหน่อย"
"ถ้ามีโอกาสจะบอกให้มามหาลัยอีกก็แล้วกัน"
"กรี๊ดดด ขอบใจมากนะแก้ว ฝากความหวังไว้ที่เธอคนเดียวเลย"
"ไม่เป็นไร ขึ้นเรียนกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว"เธอตัดบทก่อนจะยาวไปมากกว่านี้