ตอนที่11 ลูกเทพ
“เทพมานี่หน่อย”
พอเข้าไปในงานได้เจ้าสัววันชัยก็เรียกลูกชายเพียงคนเดียวเข้าไปหาพร้อมกระซิบกระซาบพอได้ยินกันเพียงสองคน
“มีอะไรหรอครับคุณพ่อ”
“ลูกช่วยไปตามไอ้กาฝากมาพบอาม่าหน่อยสิ ไม่งั้นอาม่าของลูกไม่ยอมแน่ งานคืนนี้พ่อเชิญแต่แขกคนสำคัญระดับประเทศมาทั้งนั้น พอไม่อยากจะขายหน้า หากอาม่าของลูกอาละวาดขึ้นมากลางงานพวกนักข่าวต้องตีข่าวกันสนุกแน่”
“อะไรนะครับคุณพ่อ จะให้เทพไปตามไอ้กาฝากเนี่ยนะ”
เทพบดินทร์อ้าปากค้าง ทำหน้าเหมือนบิดาบังเกิดเกล้ากำลังบอกให้เขาเดินไปกระโดดลงจากหน้าผายังไงยังงั้น
“ฟังพ่อให้ดีนะถือซะว่าทำเพื่อพ่อกับอาม่าของลูกก็ได้”
“คุณพ่อครับ คิดดีแล้วเหรอมันได้หัวเราะเยาะพวกเราน่ะสิ ถ้าเทพไปตามนะมันจะยิ่งได้ใจคิดว่าตัวเองสำคัญมากไปกันใหญ่ ขนาดอาม่าเอ่ยปากชวนมันยังปฏิเสธเลย เทพไม่เข้าใจเลยว่าทำอาม่าต้องเอาใจมันมากแบบนี้ด้วย”
เทพบดินทร์บ่นอุบเป็นหมีกินผึ้ง ใครๆ ในตระกูลไม่เว้นแม้นกระทั่งคนรับใช้ต่างก็รู้ว่าเขาและไอ้กาฝากที่พูดถึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ อย่าว่าแต่ให้ไปตามมันเลยแค่เดินสวนกันหากเลี่ยงได้เขาก็จะทำ ไอ้เด็กกำพร้านั่นถึงมันจะตัวคนเดียวไม่มีพวกคนรับใช้คอยช่วยเหลือ แต่มันก็ไม่เคยยอมลงให้เขาเลยสักครั้งเดียว เพราะมันถือว่ามีอาม่าคอยถือหางให้ท้ายอยู่
“ช่วยคุณพ่อสักครั้งเถอะนะลูกเทพ”
เสียงคุณหญิงแก้วมุกดาดังเสริมขึ้นมาอีกคน
“แต่ คุณแม่ก็รู้นี่ครับว่าเทพเกลียดขี้หน้ามันขนาดไหน”
“เอางี้นะ หากลูกยอมไปตามไอ้กาฝากมาพบอาม่า ลูกอยากได้อะไรบอกมาเลยพ่อจะซื้อให้ทุกอย่างที่ขอว่าไง”
สิ้นคำของเจ้าสัววันชัยเทพบดินทร์ก็ทำตาโต ด้วยขอแลกเปลี่ยนที่บิดาเสนอมามันยั่วใจใช่เล่น
“จริงนะครับคุณพ่อ เทพอยากได้อะไรก็ได้ใช่ไหม จะราคากี่ล้านก็ไม่เกี่ยงนะ”
เทพบดินทร์ต่อลองกับบิดา
“กี่ล้านก็ไม่เกี่ยง”
“คุณแม่ต้องเป็นพยานให้เทพด้วยนะครับ”
“แม่เป็นพยานให้ค่ะลูก”
“ก็ได้ครับคุณพ่อ เทพจะไปตามไอ้กาฝากมันมาพบอาม่าให้ แต่ผลลัพธ์จะออกมาเป็นไงเทพไม่รับประกันนะครับ ว่าแต่ไอ้นั่นมันทำงานอยู่ในครัวเหม็นๆ ใช่ไหมครับ” เทพบดินทร์ย่นจมูก
“ใช่ค่ะ สู้ๆ นะคะลูก”
คุณหญิงแก้วมุกดาทำหน้าเห็นอกเห็นใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
5 นาทีต่อมา
“คุณครับห้องนี้เข้าไปไม่ได้นะครับ”
“ถอยสิวะ กูบอกให้ถอยไป ทำไมกูจะเข้าไม่ได้มึงรู้ไหมกูลูกใคร เจ้าสัววันชัยมหาเศรษฐีแสนล้านของเมืองไทยน่ะมึงรู้จักไหม… ไอ้สวะ”
เทพบดินทร์ส่งเสียงแอะอะโวยวาย เมื่อมาถึงบริเวณส่วนครัวของโรงแรมแล้วถูกพนักงานคนหนึ่งกันเอาไว้ไม่ให้เขาเข้าไปด้านใน
“ผมไม่รู้จักหรอกครับ รู้แค่ว่าขืนปล่อยให้คุณเข้าไปผมจะถูกไล่ออก ขอร้องเถอะนะครับผมไม่อยากตกงานผมมีลูกเมียต้องดูแล”
พนักงานดวงซวยยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มยกมือไหว้ปลกๆ
“ไอ้โง่เอ้ย แบบนี้ไงมึงถึงเป็นได้แค่พนักงานชั้นต่ำอยู่ในครัวเหม็นๆ กูถามจริงเหอะ มึงไปอยู่ไหนมาวะไม่รู้จักพ่อกู เจ้าสัววันชัยที่รวยๆ อ่ะรู้จักไหมห๊ะ”
เทพบดินทร์ยิ่งเสียงดังขึ้นเมื่อเห็นพนักงานยืนหงอให้เขาข่ม
“นี่ ไอ้ลูกแหง่! คราวหน้าคราวหลังก็บอกพ่อของมึงนะว่าให้เอารูปพ่อมึงขึ้นบิลบอร์ดใหญ่ๆ กลางเมืองเลยคนเค้าจะได้รู้จัก”
เสียงที่ดังจากทางด้านหลังเสมือนเสียงสวรรค์สำหรับพนักงานคนนั้น ทว่าทำให้เทพบดินทร์เกือบสะดุ้ง
“เชฟเกรียน/ไอ้กาฝาก”
“โอเล่มีอะไรก็ไปทำไป เดี๋ยวฉันการเอง”
เชฟเกรียนโบกไม้โบกมือ พนักงานชายคนนั้นกล่าวขอบคุณแล้วรีบเดินออกไปทันที พอเหลือกันเพียงสองคนต่อเชฟเกรียนก็ยกมือกอดอกแล้วจ้องมองหน้าเทพบดินทร์เขม็ง
“หิวไงไอ้ลูกแหง่ ถึงมาหาตีนกินถึงในนี้”