ตอนที่8 แม่… ผู้เป็นเจ้าหญิงนิทรา
โรงพยาบาล…
วิวของเกาะฮ่องกงตอนมองออกไปจากห้องนี้เวลากลางคืนมันสวยงามมาก เต็มไปด้วยแสงสีละลานตา แต่เชื่อไหมว่าฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเลยสักนิดที่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ ตึกสูงภายในห้องพักวีไอพีของโรงพยาบาล ข้างเตียงคนไข้ที่กำลังนอนหลับเป็นเจ้านิทราอยู่แบบนี้ คุณแม่นอนหลับไปนานเกินไป นานจนฉันรู้สึกใจหายและหวาดกลัว กลัวว่าคุณแม่จะหลงเพลิดเพลินอยู่ในความฝัน จนท่านไม่อยากตื่นขึ้นมาพบกับฉันอีก
“อีกสองสัปดาห์ก็จะถึงงานแต่งงานของพี่แจสเปอร์กับพี่มินนี่แล้วนะคะคุณแม่”
ฉันบีบมือของท่านเบาๆ มือแม่ยังอุ่นเหมือนคนปรกติ ดูจากภายนอกท่านก็เหมือนคนที่นอนหลับทั่วไป แต่คุณหมอที่เก่งที่สุดซึ่งเป็นเจ้าของไข้ของคุณแม่ มักจะเฝ้าย้ำบอกทำลายความหวังของฉันตลอดเวลา ว่าแม่อาจจะไม่มีวันฟื้นขึ้นมากอีก
“ญาติคนไข้ต้องทำใจไว้บ้างนะครับ”
ฉันเกลียดคำนี้ที่สุด…
แม่ผู้เป็นเจ้าหญิงนิทราคือโลกทั้งใบของฉัน ก่อนหน้าที่จะพบกับพี่ชายต่างพ่อ หากความจริงเป็นเหมือนเทพนิยายก็คงดีสิ ฉันรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ทุกครั้งที่ฉันมาหามาพูดคุยกับคุณแม่ ฉันจะเฝ้าหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของท่านหลายครั้ง พร้อมกับความหวังว่าท่านจะลืมตาขึ้นมาเหมือนเจ้าหญิงนิทรา ที่ได้รับจุมพิตจากเจ้าชาย
“หนูอยากให้เราสองคนได้ไปงานแต่งพี่แจสเปอร์ด้วยกันจังเลย มันต้องเป็นวันที่มีความสุขมากแน่ๆ จริงไหมคะ”
เสียงอุปกรณ์การแพทย์ที่เชื่อมต่อกับสัญญาณชีพของแม่เสมือนคุยตอบโต้กับฉัน จนบางทีฉันคิดว่าพวกมันอาจเป็นตัวแทนที่แม่สื่อสารฉันตอบกลับมา
“คุณแม่จะว่ายังไงคะ ถ้าหนูจะยังไม่บอกว่าแม่นอนหลับอยู่แบบนี้ คือหนูไม่ต้องการทำให้งานแต่งงานของพี่แจสเปอร์กับพี่มินนี่ต้องงานกร่อยน่ะค่ะ พวกเขาสองคนผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาเยอะแล้ว หนูคิดว่าพวกเขาควรจะมีความสุข ส่วนเรื่องของคุณแม่หนูคิดว่าจะบอกกับพวกเขาหลังจากงานแต่งผ่านไป คุณแม่ว่ายังไงคะ”
มีเสียงดังปิ๊บๆ มาจากเครื่องมืออะไรสักอย่าง
“คุณแม่รู้ไหมคะว่าตอนที่หนูได้เจอพี่แจสเปอร์ ตอนที่ได้รู้ว่าในโลกใบนี้หนูยังมีพี่ชายกับเขาอยู่อีกหนึ่งคน มันทำให้หนูมีความสุขมาก เพราะอย่างน้อยที่สุดหนูก็มีใครสักคนให้คิดถึงเพิ่มมากอีกตั้งหนึ่งคน ไม่สิพี่มินนี่แฟนของพี่แจสเปอร์ เธอน่ารักมากเลยนะคะ หนู… หนูอยากให้คุณแม่ตื่นมาเห็นพวกเขาเหลือเกิน”
จู่ๆ ฉันก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่หัวตาขึ้นมาซะอย่างงั้น ทั้งที่พยายามแล้วนะว่าจะไม่ร้องไห้ให้แม่ได้เห็น น้ำตาแห่งความอ่อนแอ ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียง เดินไปยังผนังห้องซึ่งเป็นกระจก ใช้หลังมือปาดหยาดน้ำตาออกจากใบหน้า ฝืนยิ้มแล้วหันกลับไปที่เตียงคนไข้
“วันนี้คุณลุงเฉิงโทร.มาอีกแล้วนะคะ คงคิดแหละว่าหนูจะยอมถอดใจง่ายๆ คุณลุงเฉิงคงจะลืมไปว่าหนูคือทายาทของจ่งซิ่น เลือดของคุณพ่อคุณแม่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของหนู หนูจะสู้จนหลังชนฝาเพื่อบอกให้ทุกคนที่หวังทำลายตระกูลของเราได้รู้ว่า ญ่าหลินคนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยให้คนพวกนั้นมารังแกได้ง่ายๆ”
ฉันเดินกลับมาที่เตียง ก้มลงหอมแก้มคุณแม่ฟอดใหญ่
“คุณแม่เองก็เหมือนกันนะคะ อย่ามัวนอนหลับจนเพลินไปล่ะ หนูกับพี่แจสเปอร์และทุกคนรอให้แม่ตื่นขึ้นมาอยู่นะคะ”
ใบหน้าของแม่กระตุก คุณหมอบอกว่ามันเกิดขึ้นได้และเป็นเพียงอาการกล้ามเนื้อกระตุกเท่านั้น
“หนูคิดถึงเสียงบ่นของคุณแม่จังเลย รีบตื่นขึ้นมาบ่นหนูอีกนะคะ หนูสัญญาว่าจะไม่เดินหนีไปไหนจะยอมให้คุณแม่บ่นจนพอใจเลย”
“คุณหนูครับที่ภัตตาคารเกิดเรื่อง”
เหยา จื่อหลิง เปิดประตูห้องพรวดพลาดเข้ามา สีหน้าของเขาตื่นตระหนก
“ชูวว์ อย่าเสียงดังสิเหยา คุณแม่นอนหลับอยู่”
ฉันยกปลายนิ้วขึ้นจ่อที่ริมฝีปาก
“ขอประทานโทษครับ”
เหยาค้อมตัวลง
“คุณแม่คะ คืนนี้หนูคงต้องไปแล้วล่ะ เอาไว้หนูจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ”
ฉันหอมหน้าผากของคุณแม่อีกครั้งเป็นการกล่าวลา ก่อนจะหันไปหาเหยา
“เราไปกันเถอะเหยา ฉันเติมพลังให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว”