สายฝนยังคงกระหน่ำตกไม่หยุดและก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆ เสียด้วย เพราะตอนนี้มันยิ่งเพิ่มความแรงและพลังในการโจมตีมากขึ้นเป็นทวีคูณ เม็ดฝนเริ่มสาดเข้ามาบริเวณที่ฉันนั่งแล้ว หลังคามุงจากที่คุ้มกบาลอยู่ลอยละล่องลั้นลาไปกับสายลม จากที่พอกันอะไรได้บ้างกลายเป็นต้องนั่งตากฝนอย่างเสียมิได้ พระเจ้าหมั่นไส้อะไรฉันเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า? อาจจะใช่ คงหมั่นไส้ที่ฉันหนีแม่บังเกิดเกล้ามาโดยไม่บอกกล่าวล่ะสินะ ใช่ซี่~ ฉันมันเป็นเด็กบาปหนัก ทำให้แม่ที่ต้องการหาสามีให้ตัวเองระทมใจไปแล้วนี่ เฮอะ! ขณะที่ฉันนั่งปลงตกกับทุกขเวทนาของตัวเองอยู่นั้น พลันก็มีอะไรดำๆ แวบผ่านหน้าไป ก่อนที่ร่างสูงกำยำล้ำเลิศของคนข้างๆ จะย้ายมาอยู่ตรงหน้าฉันแทน “โทษที...” เสียงแหบห้าวดังขึ้นเบาๆ จากชายตรงหน้าที่ยืนบังฝนให้ฉันอยู่ มือทั้งสองข้างกางเสื้อสูทนักเรียนสีดำที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเหนือหัว ฉันเหลือบตามองเขาเล็กน้อยเป็นเชิงถ