10

1099 Words
“เฮอะ! ถ้าไม่พูดแบบนี้ แกก็คงไม่สารภาพสินะยัยผู้ร้ายปากแข็ง” อีกครั้งที่พริบพราวตาโตด้วยความอึ้งกิมกี่ “มะ...หมายความว่าไง” เสียงเธออ่อนลงจนแทบเป็นเสียงคราง “ก็หมายความว่าฉันไม่ได้อยู่หน้าห้องแกไง ทีนี้จะบอกได้รึยังว่าแกอยู่ไหน แล้วทำไมป่านนี้ยังไม่ถึงห้อง พูดมา แล้วก็อย่าคิดจะโกหกฉันอีกเชียว” ปลายสายขู่เสียงเขียว ทำเอาต้นสายถึงกับเม้มปาก ก่อนจะตอบกลับไปเสียงอ่อยๆ “ฉันอยู่เพนท์เฮาส์ท่านประธาน...” ทว่าเธอพูดยังไม่ทันจบ ปลายสายก็แว้ดขึ้นมาเสียงดัง “ไอ้พราว!” เสียงแสบแก้วหูของเจติยาทำให้พริบพราวถึงกับต้องเบี่ยงหน้าออกห่างโทรศัพท์ “โอ๊ย! แกก็อย่าเพิ่งโวยวายสิ ฟังฉันพูดให้จบก่อน” “งั้นก็รีบๆ พูดมา ฉันรอฟังอยู่ แล้วถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นล่ะก็ ฉันจะบ่นให้แกฟังสามวันสามคืนไม่ให้ซ้ำเลยคอยดู” คนเป็นเพื่อนไม่วายขู่อีก “ให้ตายสิ! บ่นขนาดนี้นี่แกเป็นเพื่อนหรือแม่ฉันกันแน่เนี่ยไอ้เจ” พริบพราวบ่นพึมพำกลับไปบ้าง “จะเล่าไม่เล่า ถ้าไม่เล่าฉันจะได้บ่นต่อ” “เล่าๆๆ คือที่ฉันต้องมานี่ก็เป็นเพราะว่า………..” ว่าแล้วพริบพราวก็อธิบายเหตุผลทั้งหมดให้เพื่อนฟัง “ต้องทำงานในห้องกับเขาสองต่อสองจนดึกดื่น แล้วแกก็ยอมเขาเนี่ยนะ” หลังจากได้ฟังที่เพื่อนอธิบาย เจติยาก็โพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “ก็เงินเดือนขนาดนั้นมันหาได้ง่ายๆ ซะที่ไหนล่ะ แกก็รู้ว่าตอนนี้บ้านฉันมีปัญหาเรื่องการเงิน ไหนจะเรื่องร้านเรื่องบ้าน แล้วยังมีน้องที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยอีก ถ้ามีทางไหนที่พอจะช่วยได้ ฉันก็อยากจะทำ อีกอย่างงานนี้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็แค่เหนื่อยเพิ่มอีกหน่อย มีเวลาส่วนตัวน้อยลงหน่อย ถ้ามันจะทำให้ครอบครัวฉันสบายขึ้น ต่อให้ต้องเหนื่อยกว่านี้ ฉันก็ยอม” ทุกประโยคของเธอทำเอาคนที่ยืนฟังอยู่อีกฟากของประตูนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิด “เออๆๆ ก็หวังว่าเขาจะให้แกทำงานอย่างเดียวจริงๆ แล้วกัน ว่าแต่เรื่องนั้นล่ะ แกจะเอายังไง” “ไม่รู้สิ ก็ถ้าเป็นอย่างที่แกพูด ถ้าฉันถูกวางยาจริงๆ บางทีคนที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขา อาจเป็นฉันเองก็ได้” ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้พริบพราวยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะคาดคั้นคำตอบจากเขา “จะบ้าเหรอ คิดอะไรของแกเนี่ย ดูละครมากไปรึไง หรือถ้ามันจะเป็นอย่างที่แกว่าจริงๆ แล้วไง? แกจะปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้น่ะเหรอ” เจติยาเอ็ดเสียงเขียว “ไม่รู้สิ ตอนนี้ในหัวฉันมันมีหลายเรื่องให้คิดเต็มไปหมด ฉันแทบไม่รู้เลยว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี” “เออๆๆ เอาไว้ค่อยคิดกันอีกทีก็ได้ ไว้ฉันจะช่วยแกเอง ตอนนี้แกรีบไปทำงานต่อเถอะ เสร็จแล้วจะได้รีบกลับไปพัก มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน ยังไงฉันก็อยู่ข้างแก” หลังวางสายจากเพื่อน พริบพราวก็รีบไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ให้ตายสิ! ใครจะคิดว่าจู่ๆ ประจำเดือนจะมาก่อนกำหนด โชคดีที่ในกระเป๋ามีผ้าอนามัยอยู่ ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องให้ได้อายแน่ แต่ก็อีกนั่นแหละ มันคงพอแค่ให้เธอเดินทางกลับ ดังนั้นทางเดียวที่จะปลอดภัยที่สุด คือเธอต้องกลับซะตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนเรื่องที่จะให้อยู่สะสางงานต่อคงเป็นไปไม่ได้แน่ “เอ้า! ไปไหนของเขาเนี่ย” หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ หลังเดินออกมาแล้วพบว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ พลันความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา “หรือว่าเราจะฉวยโอกาสกลับตอนนี้เลย” คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบวิ่งกลับเข้าไปเอากระเป๋าสะพายในห้อง หวังใช้โอกาสนี้ออกไปจากที่นี่ซะ อย่างน้อยการหาเหตุผลบอกเขาวันหลังก็คงไม่ยากเกินไป “เฮ้ย!” เธอเผลออุทานเสียงดังพลางทำหน้าราวกับเห็นผี หลังเปิดประตูออกไปแล้วพบว่าเจ้าของห้องยืนอยู่ “จะไปไหน” เสียงเข้มๆ บวกกับหน้าดุๆ ของเขาทำเอาคนที่ตั้งใจหนีถึงกับชะงักพลางผงะถอย “กะ...กลับบ้านค่ะ” เสียงเธอเบาจนแทบไม่ได้ยิน “คิดจะไปโดยไม่ลา?” เขาเลิกคิ้วหยั่งเชิง “คือวันนี้ฉันไม่สะดวกที่จะอยู่ต่อ ยังไงลาตรงนี้เลยนะคะ” เธอยกมือขึ้นไหว้ หวังจะเดินออกไป ติดก็ตรงที่อีกฝ่ายยังยืนขวางไว้ “ช่วยหลีกทางด้วยค่ะ” “แล้วถ้าฉันไม่ให้ไปล่ะ” พริบพราวถึงกับเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ชอบใจนัก แต่นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความดื้อรั้นกลับทำให้เขาต้องยิ้มออกมา และรอยยิ้มนี้ก็ยิ่งกระตุ้นให้เธอไม่พอใจมากขึ้นอีก “คุณไม่มีสิทธิ์ ถอยไป ฉันจะกลับ” พริบพราวจึงต่อต้านด้วยการผลักเจ้านายหนุ่มออก แต่กลับกลายเป็นเธอเองที่ถูกดันให้กลับเข้ามาในห้อง “คุณ!” เธอตะโกนเสียงห้วน เมื่อเขายังลอยหน้าลอยตา มิหนำซ้ำยังปิดประตูไม่ให้เธอออกไปอย่างที่ตั้งใจอีก “ก็อย่างที่บอก เธอยังทำงานให้ฉันไม่เสร็จ” “ฉันก็บอกคุณไปแล้วนี่ว่าวันนี้ฉันไม่สะดวก เข้าใจไหมว่าฉันไม่สะดวก” เธอตะโกนใส่หน้าด้วยความโกรธกรุ่น ในขณะที่เขาก็ตะโกนกลับมาเสียงดังไม่แพ้กัน “แล้วเพราะอะไรล่ะ เธอก็บอกเหตุผลมาสิ” “เพราะฉันมีประจำเดือนไงเล่า” พริบพราวตะโกนกลับไปอย่างเหลืออด ความโมโหทำให้เธอไม่สนเรื่องความกระดากอายอะไรนั่นอีก “อ้อ! งั้นก็รับนี่ไปสิ” เพลิงยักไหล่ก่อนยื่นถุงกระดาษไปให้ ตอนนี้เองที่ความอายกลับมาจู่โจมเธออีกครั้ง หลังได้เห็นว่าในถุงนั้นมีแต่ผ้าอนามัยเต็มไปหมด ซึ่งดูเหมือนเขาจะกวาดมาทุกยี่ห้อเลยด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD