11

1087 Words
“มีเหตุผลอื่นอีกไหม ถ้าไม่มีก็มานั่งนี่สิ” เขาว่าพลางเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่เธอก็หลับตาแน่นด้วยความอาย ถึงจะสงสัยว่าเจ้านายหนุ่มรู้ได้ยังไง แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะถามออกไป จึงได้แต่ทำตามที่เขาสั่ง “กินสิ จะได้มีแรงทำงานต่อ” เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะมีอาหารจัดวางไว้แล้ว แต่สถานการณ์แบบนี้ใครจะไปมีอารมณ์อยากกิน “เชิญคุณทานเถอะค่ะ ฉันยังไม่หิว” หญิงสาวบอกด้วยเสียงกระแทกกระทั้นที่ฟังจากดาวอังคารก็ยังรู้เลยว่าไม่พอใจ “แต่เธอต้องกิน หรือจะให้ฉันป้อน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ถนัดใช้ช้อน แต่ถนัดใช้อย่างอื่นมากกว่า” แล้วไอ้คำว่าอย่างอื่นของเขาที่มาพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ มันก็ทำให้เธอตักข้าวเข้าปากได้โดยอัตโนมัติ เห็นแล้วคนข้างๆ ก็อดยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนเขาจะพลอยเจริญอาหารไปด้วย เมื่อได้กินไปมองหน้าเลขาสาวไป ต่างกับเธอที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตักอาหารเขาเข้าปากอย่างประชดประชันคำแล้วคำเล่า กระทั่ง… “มาอยู่ด้วยกันไหม” จู่ๆ เขาก็เอ่ยถามทำลายความเงียบ ทำเอาคนถูกถามสำลักหน้าดำหน้าแดงเสียงดังแค่ก “เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงไม่ไว้ใจให้เธออยู่คนเดียว” เขาว่าพลางลูบหลังให้อย่างอ่อนโยน แต่คำพูดกอปรกับท่าทีที่ราวกับว่าห่วงใยก็ทำให้เธอจำต้องเงยหน้าขึ้นมอง ครั้นพอได้สบกับดวงตาคู่คม เธอก็นิ่งไปชั่วขณะราวกับถูกสะกด “อะเอ้อ…ฉันอิ่มแล้วค่ะ ขอตัวไปทำงานต่อนะคะ” เธอผุดลุกขึ้นเร็วๆ ด้วยรู้สึกว่าสายตาคู่นั้นกำลังทำให้ใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เดินไปได้แค่ก้าวเดียวก็ถูกเขาฉุดแขนกลับมาจนเสียหลักล้มลงบนตักเขาอย่างกับในละคร ทันทีที่ตั้งสติได้ เธอก็พยายามจะดิ้นลงจากตักนั่น แต่ก็ยังถูกเขาจองจำเอาไว้อยู่ดี “เธอยังไม่ตอบคำถามฉันเลย” เขากระซิบกอปรกับลมหายใจอุ่นๆ ที่ข้างหู ทำให้เธอดิ้นแรงขึ้นด้วยความตกใจ “ฉันจะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น จนกว่าคุณจะปล่อย แล้วการที่ฉันมาเป็นเลขา ใช่ว่าฉันจะยอมให้คุณทำอะไรตามอำเภอใจได้ ถ้าคุณไม่ให้เกียรติฉัน ฉันขอลาออก” ดูเหมือนการประกาศกร้าวของเธอจะได้ผลชะงัด เพราะมันทำให้เขายอมปล่อยเธอเป็นอิสระในที่สุด แต่ให้ตายเถอะ! นัยน์ตาดุกร้าวกับหน้าถมึงทึงนั้นมันกลับทำให้คนเป็นเธอก้าวขาไม่ออก ขาสองข้างราวกับถูกตรึงอยู่ตรงนั้น “งะ...งั้นฉันไปนะคะ” พริบพราวบอกเสียงตะกุกตะกักก่อนจะค่อยๆ เดินห่างออกไป กระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู ‘โอ๊ย! ไม่น่าปากไวเลยเรา ฮือ! เงินเดือนของฉัน ถ้ากลับไปง้อเขาตอนนี้จะเป็นไรไหมนะ’เธอคิดพลางค่อยๆ เหลือบไปมองคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ‘ไม่มีทาง ทำแบบนั้นมันก็เสียศักดิ์ศรีน่ะสิ เฮอะ! กะอีแค่หางานใหม่มันจะไปยากอะไร’ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วก้าวขาเดินต่อ แต่เป็นการเดินกลับไปหาเขานะ! “เอ่อ…ฉันขอไม่ลาออกแล้วได้ไหมคะ” คนขี้เกียจหางานใหม่ค้อมศีรษะให้อย่างหมดมาด ก็อย่างว่าแหละ ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ เธอยังมีคนในครอบครัวที่ต้องดูแลนี่นา อีกอย่างเธอก็ดันมีความหวังกับเงินจำนวนนั้นแล้วด้วย “แน่ใจนะ” หน้าเขาเรียบเฉยจนเดาความรู้สึกไม่ได้ และเธอก็ไม่มีเวลาที่จะมาเดาอะไรตอนนี้ด้วย “ค่ะ ฉันแน่ใจ ฉันอยากทำงานต่อค่ะ” “ดี! งั้นฉันจะถือว่านี่เป็นคำสัญญา แล้วถ้าเธอผิดสัญญาเมื่อไหร่ เธอจะต้องถูกลงโทษ…อย่างสาสม” อยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะโน้มลงมากระซิบใกล้ๆ จนเธอผงะถอยด้วยความตกใจ “เอื๊อก…!” พริบพราวกลืนน้ำลายดังเอื๊อกอย่างยากลำบาก ก็ไม่รู้ว่าประโยคนั้นคือการขู่ หรือแค่บอกให้รู้กันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือ…เธอกลัว หลังจากตกลงกันได้ว่าเธอทำงานต่อ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็พากันนั่งทำงานของตัวเอง เขานั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ ในขณะที่เธอก็กำลังนั่งตรวจบัญชีทั้งหมดอยู่บนโซฟา บ่อยครั้งที่เขาลอบมองมาแล้วเห็นเธอหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางกัดเม้มริมฝีปาก มันเลยทำให้เขาทนนิ่งเฉยไม่ได้อีก “เป็นอะไรไป” เขาหย่อนสะโพกลงนั่งข้างๆ ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นจากเอกสารเพื่อมองหน้าเขาแทน ถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะฟังดูแข็งๆ ไปบ้าง แต่สายตาเขากลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด “ปละ...เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” หลังจากรู้ตัวว่าเผลอมองหน้าเขานานเกินไป เธอก็รีบตอบ “จะเปล่าได้ยังไง หน้าซีดขนาดนี้ ยังจะบอกไม่เป็นอะไร หรือว่าเธอไม่สบาย” เขารีบยกหลังมือขึ้นอังที่หน้าผากเธอด้วยความร้อนใจ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่ปวดท้องนิดหน่อย” เมื่อเห็นว่าคงเปล่าประโยชน์ที่จะปฏิเสธ เธอจึงต้องบอกออกไปในที่สุด อย่างน้อยเขาจะได้เลิกถูกเนื้อต้องตัวให้เธอต้องใจสั่นอีก “ปวดท้อง? ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือว่า…ไส้ติ่ง” เขาผุดลุกหน้าตาตื่น ทำให้เธอพลอยตกใจไปด้วย ก่อนจะตกใจมากขึ้นเมื่อจู่ๆ พ่อคุณก็สอดมือมาอุ้ม “ให้ตายสิ! เธอต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” “เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว ฉันไม่ได้เป็นไส้ติ่ง คือฉันเอ่อ…ฉัน” หญิงสาวอึกอักกระดากเกินกว่าที่จะบอกความจริง ก่อนหน้าแค่เขาซื้อผ้าอนามัยให้ เธอก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว ถ้าต้องพูดเรื่องนี้อีก ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน “ฉันอะไร หรือว่าเธอเป็นโรคกระเพาะ” อา…! ดูเหมือนคำตอบนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดี จะไม่ดีก็ตรงที่พ่อคุณยังไม่เลิกตีโพยตีพายนี่สิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD