07

1006 Words
เธอเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟในมือให้เจ้าของห้อง ก่อนจะขยับถอยไปนั่งอีกฝั่งเพื่อรอดูผลงาน ใช่! ผลงานที่เธอใส่เกลือแทนน้ำตาลลงไปในกาแฟแก้วนั้นยังไงล่ะ จริงๆ ก็กลัวนั่นแหละว่าเขาจะลุกขึ้นมาบีบคอหรือไม่ก็ไล่เธอออก แต่เพราะเตรียมคำแก้ตัวดีๆ เอาไว้แล้ว พริบพราวจึงอยากลองเสี่ยงดู อย่างน้อยก็ได้ความสะใจ ‘อุ๊ย! ตายจริง ฉันนึกว่ากระปุกเกลือเป็นกระปุกน้ำตาลเหรอเนี่ย ขอโทษนะคะท่านประธาน’ เธอกระหยิ่มยิ้มย่องในใจกับคำตอบที่เตรียมไว้หลังจากที่อีกฝ่ายพ่นกาแฟเค็มๆ ออกมาพร้อมกับโวยวาย แต่ให้ตายสิ! เจ้านายหนุ่มกลับไม่มีท่าทีอะไรเลยทั้งที่จิบกาแฟไม่แคร์ไตแก้วนั้นไปแล้ว ‘เฮ้ย! ทำไมไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ หรือว่าเขาเป็นพวกลิ้นจระเข้’ เธอมองคนที่นั่งจิบกาแฟหน้าตาเฉยด้วยใบหน้าแหยๆ เพราะไม่สบอารมณ์เท่าไรกับแผนการแกล้งเขาที่ดูจะล้มไม่เป็นท่า พริบพราวจึงหันไปสนใจแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าสุดเซ็ง กระทั่งรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่เบื้องหน้า เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง “คะ?” ทันทีที่เธออ้าปากจะถามว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เขาก็โน้มลงมาประกบปากเธออย่างรวดเร็ว หญิงสาวผงะตาโตด้วยความตกใจ แล้วก็ยิ่งตกใจมากขึ้น เพราะความขมคละเคล้าความเค็มที่ถูกส่งเข้ามา นี่ไม่ใช่การแค่การป้อนกาแฟโดยไม่แคร์ไตจากปากเขาสู่ปากเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นการปล้นจูบกันชัดๆ ! “...” เธอพ่นกาแฟรสชาติทำลายล้างนั่นทันทีที่เขาผละออก “คุณ!” เธอมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อกาแฟแก้วนั้นมันดันมาจากฝีมือเธอเอง แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่า…ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว “ฉันเป็นพวกชอบแบ่งปันน่ะ ในเมื่อเธออุตส่าห์แบ่งปันสิ่งดีๆ มาให้ ฉันก็อยากแบ่งปันให้เธอบ้าง เป็นไง? รสชาติดีนะว่าไหม” ในขณะที่เขาดูเหมือนจะอารมณ์ดีนักหนา เธอกลับทำได้แค่นั่งกัดฟันกรอดๆ “มากินข้าวพริบพราว” ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโตที่เขาให้ตรวจ เขาก็เดินเข้ามาตาม หลังจากที่อาหารทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว เห็นจะมีก็แต่เธอที่ยังไม่ยอมละสายตาจากแฟ้มเอกสารที่ถืออยู่ “ขออีกเดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวฉันตามไป” เธอบอกโดยไม่เงยหน้ามองเขาด้วยซ้ำ ด้วยกำลังติดพันกับงานที่ทำอยู่ กระทั่ง… “ว้าย!” เธออุทานเสียงหลง หลังถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นมาจากโซฟาแบบไม่ทันตั้งตัว “กินข้าวก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เขาวางเธอบนเก้าอี้ ก่อนจะหยิบแฟ้มที่เธอถือติดมือมาด้วยออกมาวางข้างๆ “บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องอุ้ม” เธอทำหน้างอง้ำ “จำได้ว่าฉันบอกแล้ว แต่เธอเองต่างหากที่ดื้อ” คนถูกหาว่าดื้อเม้มปากแน่นด้วยความเจ็บใจ แต่ดูเหมือนกลิ่นชวนน้ำลายสอของอาหารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะจะช่วยเยียวยาทุกอย่างได้ ไม่ต้องรอเจ้าของห้องพูดซ้ำ หญิงสาวก็จัดการกับอาหารตรงหน้าโดยไม่เกรงใจอีก “มีแต่ของชอบฉันทั้งนั้นเลยอะคุณ บังเอิญมาก” เธอว่าพลางตักโน่นตักนี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย “ถ้าชอบก็กินเยอะๆ” เดี๋ยวนะ ทั้งคำพูด แล้วสีหน้าท่าทางของเขาตอนนี้มันคืออะไร ทำไมมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด “คุณเองก็กินเยอะๆ นะคะ ฉันเห็นคุณไม่ค่อยกินเลย อาหารไม่ถูกปากเหรอ” พริบพราวเห็นอาหารในจานเขาไม่ค่อยพร่อง จึงอดถามไม่ได้ “แค่เห็นเธอกินได้ ฉันก็อิ่มแล้ว” อีกครั้งที่เลขาสาวทำหน้านิ่งอึ้ง รู้สึกเหมือนมีอะไรพุ่งมาชนที่อกข้างซ้าย พระเจ้า! เขาทำให้เธอใจสั่นอีกแล้ว และก่อนที่มันจะสั่นจนเขาจับได้ เธอจะต้องพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์น่ากลัวนี้ซะ “เอ้อ! เท่าที่ฉันตรวจดู รายรับส่วนใหญ่ของคุณล้วนแต่มาจากธุรกิจเอ่อ…” เธออึกอักไม่กล้าพูดต่อ จนเขาต้องเป็นฝ่ายพูดเอง “ธุรกิจสีเทา หึ! นั่นแหละธุรกิจหลักของฉัน แล้วมันก็เป็นตัวตนของฉัน” “เอ้า! แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึง…” อีกครั้งที่เธอพูดไม่ทันจบ เขาก็แทรกขึ้นให้ “เทคโอเวอร์บริษัทที่กำลังร่อแร่เต็มทีอย่าง Aurora ที่สำคัญมันดันตรงข้ามกับตัวตนของฉันลิบลับด้วยน่ะเหรอ” เธอพยักหน้าหงึกหงักทันที “เพราะเธอมั้ง” เธอชะงักกับคำตอบทีเล่นทีจริงของเขาอีกครั้ง ครั้นพอเห็นเธอนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เขาจึงพูดต่อ “เธอเองก็น่าจะรู้ดีว่าถึงแม้ Aurora จะไม่ใช่บริษัทใหญ่โตอะไรมากมาย แต่สินค้าทุกตัวก็ติดตลาดและมีคุณภาพมากพอที่จะทำกำไรให้บริษัทได้ ลองถ้าได้ผู้บริหารดีๆ ยังไงมันก็โต แต่ที่มันแย่ก็เป็นเพราะว่าผู้บริหารคนเก่ามันไม่ได้เรื่อง บริษัทมันก็เลยมาถึงจุดนี้ หึ...ทำไมฉันถึงรู้น่ะเหรอ” เขาถามราวกับเข้ามานั่งอยู่ในใจเธอ แล้วก็รู้ว่าเธออยากถามเรื่องอะไร “เพราะผู้บริหารคนนั้นเป็นลูกค้าที่บ่อนฉันไง ทีนี้คงพอเดาได้นะว่าทำไมฉันถึงได้เทคโอเวอร์บริษัทนี้มา” เธอผู้เพิ่งรับตำแหน่งเลขาทำตาโตในขณะที่ท่านประธานคนใหม่กลับยักไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD