ทันทีที่ขับรถถึงบ้าน ภูเบศก็วิ่งตรงเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่สนใจจะดับเครื่องยนต์รถยนต์ของตัวเอง พอวิ่งเข้ามาในบ้านมองเห็นร่างเล็กนอนหมดสติกับพื้นก็รีบวิ่งถลาไปโอบประคองเธอขึ้นมานอนหนุนตักตัวเองทันที พร้อมตบแก้มนวลชื้นน้ำตาไปมาเพื่อปลุกให้เธอตื่น
“นวล...นวลตื่น คุณอย่าเป็นอะไรนะนวล” เขาปลุกเธอ แต่ปลุกเท่าไหร่ก็ยังนอนนิ่งจนเขาหวาดกลัวและร้อนใจรีบยกอุ้มร่างอวบอิ่มของภรรยาสาวท้องแก่ใกล้คลอดเดินออกจากบ้านไปยังรถยนต์ที่ยังไม่ดับเครื่องยนต์
“อย่าทิ้งผมไปนะนวล คุณกับลูกต้องอยู่กับผม” เขาพึมพำขณะวางร่างหมดสติของนวลพรรณไว้ที่เบาะข้างคนขับพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบวิ่งไปประจำข้างคนขับแล้วรีบเปิดประตูขึ้นรถแล้วออกตัวรถไปโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านทันที
ระหว่างรอภรรยาสาวที่ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน เขาก็ได้แต่เดินวนเวียนไปมาหน้าห้อง ภูเบศนั่งแทบไม่ติด หัวใจห่วงคนข้างใน สำหรับเขาแล้วนวลพรรณกับลูกสำคัญที่สุด สำหรับเขาแล้วมีแค่เธอและลูกน้อยเท่านั้นที่เป็นครอบครัว เขาเดินวนไปวนมาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด คิ้วเข้มขมวดเป็นปมตลอดเวลาที่รอให้ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา และการรอคอยก็หยุดลงเมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมพยาบาลและคุณหมอเดินออกมา
“ภรรยาผมเป็นอะไรรึเปล่าครับ เธอกับลูกเป็นยังไงบ้างครับ”
“ปลอดภัยดีครับ ตอนนี้ผมให้ยาคลายเครียดคุณแม่ไปแล้วนะคะ ที่เธอไม่ได้สติแบบนั้นเพราะความเครียด รบกวนคุณพ่อดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับในสองสามวันนี้ และอย่าทำให้เธอเครียด เพราะตอนนี้เสี่ยงทำให้คลอดก่อนกำหนดมากครับ” หมอวัยกลางคนเอ่ยแนะนำกับภูเบศ
“ครับ ขอบคุณครับคุณหมอ” เขารู้ดีว่าสาเหตุมาจากเขาเองที่ทำให้เธอเครียดจนเป็นลมหมดสติไปแบบนี้
“เดี๋ยวจะย้ายผู้ป่วยไปยังห้องพักฟื้นนะครับ” คุณหมอบอก
“ครับ ขอบคุณครับ” ตอนนี้เขายิ้มออกมาได้นิดหน่อย แต่ก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นเมื่อคิดหาคำตอบและคำอธิบายที่จะอธิบายยามเธอตื่นขึ้นมา
มือเล็กอวบอูมของว่าที่คุณแม่ขยับไปมาพร้อมกับปรือตาตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวัน เธอมองสำรวจไปรอบๆ ตัวเองเมื่อตื่นเต็มตาและปรับการมองเห็นให้คุ้นชินกับแสงในห้องแล้วก็ได้รู้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล แล้วมองไปยังมือที่หนักอึ้งของตัวเองก็มีใครบางคนฟุบหลับทับมือตัวเองอยู่ และมือเธอก็ถูกเขากุมไว้แน่น ปากสวยได้รูปเม้มแน่นทันทีเมื่อได้มองชัดๆ ว่าคนที่ฟุบหลับคือใคร แล้วรีบชักดึงมือตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่ทันที
“คะ...คุณตื่นแล้วเหรอนวล” ภูเบศรู้สึกตัวตื่นทันทีเมื่อรับรู้ถึงแรงดึงมือของสาวเจ้า
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง แล้วภรรยาของคุณล่ะคะ” เธอถามเสียงเย็นเยือกไร้ความรู้สึก ตอนนี้เธอมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า เขาเหมือนคนแปลกหน้า เขาไม่ใช่สามีของเธออีกต่อไปแล้ว
“คุณพูดอะไรนวล ภรรยาของผมก็คุณไง และเรากำลังมีลูกด้วยกัน”
หึ!
หล่อนแค่นขำยกยิ้มออกมาด้วยความสมเพชตัวเองนักที่โดนผู้ชายคนนี้หลอก หลอกจนท้องโตขนาดนี้
“เหรอคะ นวลยังเป็นภรรยาของคุณอยู่เหรอคะ แล้วผู้หญิงที่แต่งงานด้วยเมื่อวาน เธอคือใครคะ?”
“เธอไม่ใช่เมียผม ผมมีแค่คุณนะนวล” ภูเบศเอ่ยจริงจังพร้อมคว้าดึงมือของเธอมาแนบแก้มสากตัวเอง แต่ก็ถูกเธอดึงกลับ
“หยุดหลอกลวงได้แล้วค่ะ ความรักของคุณมันจอมปลอม เลิกทำเหมือนรักนวลได้แล้ว หย่าให้นวลเถอะค่ะ” เมื่อเจ็บปวดก็ต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
“คุณพูดอะไรของคุณนวล หย่า? หย่าอะไร ผมไม่หย่าหรอกนะ ผมไม่มีวันหย่ากับคุณหรอก” ภูเบศลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาโกรธที่เธอต้องการไปจากเขา
“แล้วคุณจะเก็บนวลกับลูกไว้ทำไมคะ ในเมื่อคุณมีคนที่แต่งงานด้วยแล้ว คุณมีเธอคนนั้นแล้วคุณภูเบศ หงส์เสน่ห์ ทายาทคนเดียวของบริษัทส่งออกลำไย ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณร่ำรวยขนาดนี้ ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณไม่ใช่คุณภูเบศพนักงานกินเงินเดือน แต่คุณ...ช่างเถอะ ฉันไม่อยากพูดถึงมันอีกแล้ว จะหย่าวันไหนบอกนะคะ ฉันพร้อมจะหย่าให้”
“ผมบอกรึยังว่าจะหย่ากับคุณนวล ไม่มีทาง ผมไม่หย่า และจะไม่มีวันหย่ากับคุณหรอก ที่ผมทำทุกอย่างผมจำเป็น และความรักที่ผมมีให้คุณไม่ใช่ความรักจอมปลอม แต่มันคือความจริง หัวใจผมมันรักแค่คุณคนเดียว ผมจะมาหาคุณใหม่ คุณพักผ่อนเถอะ หมอบอกไม่ให้คุณเครียด เพราะเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด”
“เห็นแก่ตัวสิไม่ว่า” เธอโต้ตอบกลับทันทีพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้มนวลจนต้องรีบยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาทิ้ง
อึก!
เสียงสะอื้นของนวลพรรณบาดหัวใจเขายิ่งนักในตอนนี้ เขาอยากจะยื่นมือไปปาดเช็ดน้ำตาให้ แต่ก็ไม่กล้าพอ ได้แต่กำมือแน่นแล้วพูดออกไปว่า...
“หลับซะนะคนดี ผมไม่มีวันปล่อยมือจากคุณจำไว้นวล” แล้วเขาก็หมุนตัวพาร่างสูงใหญ่ของตัวเองออกจากห้องพักฟื้นของเธอไปทันที
ฮือๆๆ
อึก!
“คนเห็นแก่ตัว!” เธอได้แต่ตะโกนด่าไล่หลังเขาไปทั้งน้ำตา