และการประเมินมีผลต่อหน่วยกิตเหมือนเป็นวิชาหนึ่งที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาก่อนออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปสู่การทำงานในชีวิตจริง
“เปลี่ยนใจ… แล้วน้องกันย์จะไปฝึกงานที่ไหน”
“เชียงรายครับ… ”
กันย์ตอบ…
จู่ๆ แผนการฝึกงานก็ถูกเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ไม่คิดว่าเหตุการณ์โดนลักพาตัวเมื่อคืนนั้น จะทำให้กันย์อยากกลับไปเชียงรายอีก
“พี่ว่าไปฝึกที่กรุงเทพฯ ไม่ดีกว่าหรือ เพราะว่าที่กรุงเทพฯ มีโรงแรมใหญ่ๆ อยู่หลายที่นะ กันย์น่าจะได้ประสบการณ์มากกว่า… ”
แทนไทแนะตามที่รู้
“ที่เชียงรายก็มีโรงแรมครับ… มีรีสอร์ตด้วย… ”
กันย์นึกถึงคำพูดของดำตอนที่ขับรถมาส่ง ดำบอกว่าพ่อเลี้ยงเดชมีโรงแรมและรีสอร์ตอยู่ในเชียงราย ก็เลยอยากนึกไปฝึกงานที่นั่น
แม้ตอนนี้จะยังไม่รู้…
ว่าโรงแรมของพ่อเลี้ยงชื่ออะไรและอยู่ตรงไหน แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาสถานที่สักแห่ง ในยุคที่เราสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับทุกอย่างบนโลกใบนี้ด้วย Google
“อ้าว… จู่ๆ ทำไมน้องกันย์เปลี่ยนใจอยากไปฝึกงานที่เชียงราย… ”
คำพูดของกันย์ทำเอาแทนไทสงสัยเลยต้องถาม
“เชียงรายอยู่ไม่ไกลจากเชียงใหม่ครับที่แทน และการเดินทางก็สะดวกกว่าเมื่อเทียบกับการที่ต้องไปอยู่กรุงเทพฯ… ”
กันย์ตอบ ตัวเองเท่านั้นที่รู้ว่าอะไร? คือแรงดลใจให้อยากกลับไปเชียงรายอีกครั้ง
เสร็จจากกินข้าวกลางวันด้วยกัน พอกลับมาถึงห้อง กัยน์รีบเปิดโทรศัพท์มือถือที่ชาร์ตแบตทิ้งเอาไว้ก่อนออกไปกินข้าว หลังจากแบตหมดมาสองวัน
เมื่อเปิดขึ้นมาก็พบว่ามีมิสคอลของเพื่อนๆ เด้งขึ้นมารัวๆ เพราะหลายคนเป็นห่วงที่จู่ๆ กันย์ก็หายตัวไปสองคืนโดยไม่มีใครรู้
“ไอ้กันย์… มึงหายไปไหนมาวะ”
เพื่อนสนิทคนหนึ่ง มีชื่อว่า ‘เอก’ โทรเข้ามาทันทีหลังจากกันย์เปิดโทรศัพท์
“กูไปต่างจังหวัด พอดีออกมาจากผับแล้วเกิดคิดถึงบ้านขึ้นมากะทันหัน กูก็เลยไปที่ท่ารถ นั่งรถเที่ยวสุดท้ายกลับลำพูน… ”
กันย์มีพ่อแม่อาศัยอยู่ในจังหวัดลำพูน มีอาชีพทำสวนลำไย จำต้องโกหกเพื่อนว่ากลับบ้าน เพราะว่าเรื่องราวที่ตัวเองได้เจอมานั้นมันออกจะแปลกๆ จนไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง
“นี่ถ้าวันนี้ยังติดต่อมึงไม่ได้กูกะว่าจะไปโรงพักแจ้งความคนหาย… เพราะว่าพยายามโทรหามึงหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้… ”
“ขอบใจที่เป็นห่วงกู… โทรศัพท์กูแบตหมดว่ะ”
“เออ… แล้วเรื่องฝึกงานล่ะ มึงตัดสินใจหรือยังว่าจะเลือกที่ไหน”
เอกถาม
“ตัดสินใจแล้ว… กูจะไปฝึกงานที่เชียงราย”
“ห๊ะ… บริษัทอะไรวะ”
เอกสงสัย…
เพราะว่ารายชื่อบริษัทรับนักศึกษาฝึกงานที่ภาควิชาแจ้งไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เกือบทั้งหมด
“บริษัท… เอ่อ… เดี๋ยวกูหาข้อมูลดูก่อน”
กันย์ตอบไปตามตรง
“อ้าว… อีกไม่กี่วันแล้วนะ งั้นมึงต้องรีบแล้วนะโว้ย… ”
เอกเตือนด้วยความเป็นห่วง จากนั้นพุดคุยกันต่อมาอีกสองสามคำก็กดวางสาย
เสร็จจากสนทนากับเพื่อนสนิท กันย์รีบค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทส่งออกเมล็ดกาแฟและโรงแรม
และก็เจอจริงๆ…
แต่ที่เจอนั้นเป็นรีสอร์ต มีชื่อว่า ‘โรงแรมแอนด์รีสอร์ตเดชตะวัน’ ชื่อบ่งบอกชัดเจนแบบนี้คงไม่ผิดแน่น เพราะว่าสถานที่ก็ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย
กันย์ไม่รอรี…
รีบโทรเข้าไปถามแผนกบุคคลของโรงแรมด้วยตัวเอง และก็ได้รับคำตอบว่าตอนนี้โรงแรมมีนโยบายรับนักศึกษาฝึกงานอยู่พอดี
กันย์ดีใจมาก…
ในที่สุดก็จะได้กลับไปเชียงรายอีกครั้ง จังหวัดที่ทำให้ได้เจอกับเรื่องราวไม่คาดคิด และเหตุการณ์ที่ทำให้ความรู้สึกบางอย่างของตัวเองเปลี่ยนไป
อีกสองสัปดาห์ต่อมา
เมื่อวันฝึกงานมาถึง กันย์โชคดีที่ทางโรงแรมให้พักฟรี เมื่อรู้ว่ากันย์ต้องเดินทางมาจากเชียงใหม่และต้องหาที่พักในระหว่างฝึกงาน
ไม่แปลกที่พนักงานในโรงแรมจะกรี๊ดเด็กใหม่หน้าใสตัวเล็กผิวขาวจั๊วะสไตล์โอปป้าอย่างกันย์
กันย์เป็นคนน่ารัก มีเสน่ห์และอัธยาศัยไมตรี จึงปรับตัวเข้ากับพนักงานทุกคนได้ไม่ยาก ด้วยบุคลิกภาพอ่อนน้อม ไม่ทำตัวเหมือนน้ำเต็มแก้ว ทำให้พนักงานทุกคนต่างก็เอ็นดูกันย์และช่วยกันสอนงานให้อย่างไม่หวงวิชา
“พรุ่งนี้บอสจะเข้ามาสายๆ… ”
‘สายสมร’ ผู้จัดการโรงแรมสาวใหญ่วัยใกล้สี่สิบปีที่พนักงานทุกคนมักจะเรียกกันว่า ‘พี่หมอน’ กล่าวกับเจ้าหน้าที่บัญชีการเงินและแผนกต้อนรับที่นั่งทำงานรวมอยู่ภายในห้องเดียวกันของส่วนงานออฟฟิศ
คำว่า ‘บอส’ สะดุดหูของกันย์เข้าอย่างจัง รู้ว่าจะต้องเป็นพ่อเลี้ยงเดชตะวันอย่างแน่นอนเพราะว่าเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ต
ใกล้เที่ยง…
พนักงานในส่วนของออฟฟิศที่กันย์ฝึกงานเริ่มออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารของโรงแรม แต่แยกพื้นที่เอาไว้สำหรับพนักงาน และพนักงานบางคนก็เพิ่งกลับเข้ามาจากรับประทานอาหาร เพราะต้องพักสลับกันตามเวลาที่จัดสรรเอาไว้ โดนเฉพาะพนักงานต้อนรับที่ต้องประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ตลอดเวลา
“น้องกันย์… ไปกินข้าวกันเถอะเที่ยงแล้ว… ”
‘นนท์’ ชายหนุ่มร่างบึกผิวเข้มแต่กิริยาท่าทางอ้อนแอ้นนุ่มนวลตรงข้ามกับหุ่นจนเพื่อนๆ ในแผนกพากันเรียกว่า ‘นนนี่’ ร้องเรียกกันย์ที่กำลังช่วยพนักงานคนหนึ่งเตรียมเอกสารใบปลิวและแผ่นพับ หลังจากนั่งปริ๊นข้อมูลการจองของลูกค้าจนใกล้จะเสร็จ
“ครับ… พี่นนท์”
กันย์ตอบพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตามหลังนนท์และพนักงานคนอื่นๆ ไปยังห้องอาหารซึ่งทางโรงแรมจัดไว้ให้กับพนักงานโดยเฉพาะ
“เป็นไงบ้าง… อาหารอร่อยไหม”
นนท์ถามกันย์ หลังจากใช้เวลานั่งรับประทานอาหารกันครู่ใหญ่ๆ
“อาหารอร่อยมากครับพี่นนท์… ”
กันย์ตอบ
“นี่แหละข้อดีของการทำงานโรงแรม… ก็เลยได้กินอาหารฝีมือเชฟทุกวัน”
นนท์กล่าวอย่างมีอารมณ์ขัน พนักงานหญิงชื่อต้อยอยู่ในแผนกเดียวกันที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยได้ยินที่นนท์กล่าวก็อดแซวไม่ได้
“ตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆ ทุกคนจะผอมบางเหมือนน้องกันย์นี่แหละ… แต่หลังจากนั้นนี่คือผลของการเจริญอาหาร… ”
ต้อยผายมือมาที่นนท์
“แหม… หุ่นแบบนี้เขายังไม่เรียกว่าอ้วนนะย๊ะ… แต่เรียกว่าอวบระยะสุดท้าย… ”
นนท์ตอบอย่างมีอารมณ์ขัน ชงเองเล่นเอง ด้วยน้ำเสียงและท่าทางมีจริตของนางเรียกเสียงฮาไปทั้งโต๊ะอาหาร
ในเวลาต่อมา
เมื่อถึงเวลาประชุมพนักงาน…
ซึ่งเป็นกฎของโรงแรมแห่งนี้ที่จะให้พนักงานในออฟฟิศได้เจอกับผู้บริหารสัปดาห์ละสองครั้ง เพื่อ