ยิ่งยาก ยิ่งอยากได้

1108 Words
บนเวทีขนาดใหญ่ พิธีกรสาวสวยกับพิธีกรหนุ่มหล่อยังคงทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งโปรโมทรถรุ่นใหม่ ตอบคำถามเกี่ยวกับรถ รวมทั้งอธิบายรายละเอียดของรถแต่ละรุ่นให้คนในงานฟัง คนที่มาร่วมงานให้ความสนใจรถรุ่นใหม่อย่างล้นหลาม รวมทั้งสนใจพิธีกรสาวสวยที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าคร่าตามาก่อน แม้จะพยายามถามคนในงานแล้วว่าเธอเป็นใคร แต่ตัวตนของเธอเป็นปริศนามาก ไม่มีใครรู้แม้แต่ชื่อ แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้รับหน้าที่พิธีกรที่สำคัญขนาดนี้ แม้จะทำได้ดี แต่ยังมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเด็กเส้นของใครหรือเปล่า ทิพย์วารีมองสคิปในมือ เมื่อเห็นว่าหน้าที่ของตัวเองใกล้จะจบลง ก็เริ่มมองหาคนที่แนะนำให้เธอมาทำงานนี้ มองไปทั่วทั้งงาน ก่อนที่สายตาเธอจะปะทะเข้ากับใบหน้าเจ้าของบริษัท รอยยิ้มมุมปากยกขึ้น เมื่อเห็นว่าสายตาคู่คมมองตัวเองอย่างสนใจ รอยยิ้มที่ตัวเธอรู้ความหมายของมันมากที่สุด ทิพย์วารีทำหน้าที่บนเวทีต่ออีกไม่นาน ก็เดินลงมาข้างล่างเวที เพราะหมดหน้าที่ของเธอแล้ว ปล่อยให้พิธีกรหนุ่มทำหน้าที่ที่เหลือต่อเพียงลำพัง สอดส่องสายตามองหาคนที่เธอต้องการเจออีกครั้ง ก่อนที่สายตาของเธอจะโดนหยุด เพราะใครบางคนมายืนขวางการมองเห็นของเธอไว้ “สวัสดี นักศึกษาฝึกงานเหรอ?” อคินเดินไปหยุดยืนตรงหน้าคนที่พยายามมองหาอะไรสักอย่างอยู่ ป้ายที่ติดอยู่อกซ้ายของชุดเดรส ทำให้เขาต้องถาม นักศึกษาฝึกงานที่บริษัทจริงดิ ทำไมไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง “ค่ะ” ทิพย์วารีตอบเสร็จก็เอียงตัวไปด้านขวา เพราะเขายืนขวางอยู่เธอจึงต้องใช้วิธีนั้นมองหาคนที่เสนองานให้ตัวเอง ปล่อยให้ตัวตนเจ้าของบริษัทเป็นเพียงอากาศธาตุ อคินเหยียดยิ้มถูกใจ มองคนที่สูงเกือบระดับใกล้เคียงกับตัวเองเพราะรองเท้าส้นสูง องศาที่เห็นเขาคิดว่ามันส่งให้เธอดูดีขึ้น มองมุมนี้แล้วสวยมาก ขนตางอนยาวเป็นแพรหนา ไม่รู้ว่าเพราะขนตาปลอมหรือขนตาเธอจริงๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารัก ดวงตาหลุบต่ำ ดูเย้ายวนมากทีเดียว ถ้าไม่มีท่าทีของเธอ ทุกอย่างบนตัวเธอจะน่าสนใจมากกว่านี้ “ช่วยหลบไปทีสิคะ คุณขวางทางฉันอยู่” น้ำเสียงห้วนพอๆกับท่าทางที่แสดงออกว่าไม่พอใจเขา ทำให้อคินอ่านป้ายตรงหน้าอกเธออีกครั้ง ยัยนี่ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ว่ากำลังพูดอยู่กับเจ้าของบริษัทที่เธอกำลังฝึกงานอยู่ อยากโดนเตะออกจากงานว่างั้น “เธอรู้ไหมว่ากำลังพูดกับใครอยู่” พูดจบเขาเห็นว่ามุมปากของเธอขยับขึ้นเป็นรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกโมโหมากกว่ารู้สึกดี ยัยนักศึกษานี่กำลังเหยียดยิ้มใส่เจ้าของบริษัทวะ! “คุณอคิน อัครโยธินกุล เจ้าของบริษัทAKS บริษัทในเครือของอัครโยธินกุล ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี” ริมฝีปากแดงสดแย้มยิ้มมากขึ้น เมื่อร่ายยาวสิ่งที่ตัวเองรู้ดีที่สุดจบลง สายตาไม่เคยละไปจากใบหน้าหล่อเหลานั่นสักครั้ง ถ้าใครมาเห็นตอนนี้ คงคิดว่าเธอกำลังหาเรื่องเขาอยู่ ซึ่งเธอคิดว่ามันไม่ผิดนักถ้าคนจะมองว่าเป็นแบบนั้น “แล้วไงคะ? เป็นเจ้าของบริษัทแล้วจะยืนขวางหน้าใครก็ได้งั้นสิ โทษทีนะคะ ฉันรีบ” ทิพย์วารีพูดจบก็ใช้ไหล่ของตัวเองกระแทกไหล่หนาให้พ้นทาง ก้าวเดินไปด้วยมองหาคนที่ต้องการไปด้วย โดยไม่สนใจว่าการทำแบบนั้น จะส่งผลยังไงต่อชีวิตต่อจากนี้ของตัวเอง “คิดจะไปง่ายๆเหรอ” เดินได้เพียงสามก้าวก็ถูกดึงข้อมือไว้ แรงที่บีบรอบข้อมือไม่ได้ทำให้ทิพย์วารีเปลี่ยนสีหน้า หรือแสดงอาการตกใจ ไม่มีแม้แต่เสียงโวยวายที่ควรทำ “ต้องการอะไรคะ” ดวงตาคู่สวยหลุบมองมือหนาที่ยังคงกำรอบข้อมือเธออยู่ ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่สูงกว่า 185 เซนติเมตร นิ่งๆ “ฉันสนใจเธอ!” อคินไม่ปล่อยให้สิ่งที่คิดก่อนหน้านั้นเสียเปล่า เขาต้องการเธอในความหมายอย่างนั้น ต้องการที่หมายถึงคู่นอน ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยสักนิด “แล้วไง?” ทิพย์วารีไม่ได้เบาเสียงลงเหมือนที่เขาพูดตอนบอกว่าสนใจเธอ เธอยังคงใช้น้ำเสียงปกติ แม้หลังเวทีแห่งนี้จะเป็นที่ลับตาคน แต่ก็ยังมีคนอยู่พอสมควร เธอไม่แคร์หรอก รวมทั้งไม่แคร์สิ่งที่เขาบอกด้วย “เท่าไหร่?” อคินทำอย่างที่เคยทำ นั่นคือยื่นข้อเสนอให้ เป็นการดีลงานที่สำเร็จมากกว่าจะล้มเหลว สาวๆที่เขาสนใจ ไม่เคยมีใครปฏิเสธข้อเสนอสักครั้ง มีแต่อยากจะยื่นข้อเสนอให้เขาเองมากกว่า “เก็บไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่เถอะค่ะ” “คืนเดียว หนึ่งแสน!” ยิ่งยาก ยิ่งอยากได้ เขารู้สึกแบบนั้น เธออาจจะแค่เล่นตัว เพราะเขาเห็นว่าเธอทำตาลุกวาว ตอนที่เขาบอกยอดเงินไป “ว้าว! เยอะนะ แต่ไม่เอาอะ ไม่ได้ขัดสน!” ดวงตาคู่หวานฉายแววเหยาะหยัน แม้คนตรงหน้าจะดูไม่ต่างไปเลย แต่แววตาเขาเปลี่ยนไปไม่น้อย คงเสียความมั่นใจหนักเลยมั้งที่ถูกปฏิเสธ “ห้าแสน!” สุดๆแล้วสำหรับของที่ไม่รู้เลยว่าสดหรือเปล่า เขาไม่เคยเสนอให้ใครมากขนาดนี้มาก่อน แม้จะจ่ายหนักมาตลอด แต่ไม่เคยจ่ายก่อนแบบนี้ มีแต่เอาก่อน จ่ายทีหลัง “คุณชอบซื้อคนด้วยเงินนะคะ ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด น่าผิดหวังนะ โตกว่าควายที่บ้านฉันตั้งเยอะ แต่ทำตัวต่ำกว่าไอ้ทุยที่ฉันเลี้ยงไว้ซะอีก” ทิพย์วารีเหยียดยิ้ม ออกแรงหมุนตัวกลับด้วยท่าที่ตัวเองเรียนมาจากครู เพื่อทำให้ตัวเองเป็นอิสระ ออกแรงผลักคนที่ทำหน้าถมึงทึงให้พ้นทาง เธอเกลียดเขามากที่สุด และวันนี้ความเกลียดยิ่งทวีขึ้น เมื่อเขาใช้เงินและคำพูดดูถูกเธอ รวมทั้งผู้หญิงคนอื่นๆด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD