“อือ ไม่เท่าไหร่”
อคินตอบไปตามที่รู้สึก เขาดื่มเตกีล่าไปแล้วสามช็อต รู้สึกมึนหัวแปลกๆ รวมทั้งง่วงด้วย แอบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองบ่อยๆ นี่ยังไม่ดึกเลยด้วยซ้ำ ทำไมมันง่วงขนาดนี้วะ
“ไปต่อกันไหมคะ?”
เพราะเขาดูเหมือนจะคอแข็งมาก พวกเธอเลยใช้วิธีอื่นที่รวดเร็วกว่าตอนที่เขาเผลอ ตอนนี้ยากำลังเริ่มออกฤทธิ์ ต้องรีบพาเขาไปที่อื่น ก่อนคนในร้านจะผิดสังเกต และจับพวกเธอส่งตำรวจ
“อ่า! จ่ายค่าเหล้าแป๊บ”
อคินเออออด้วย เพราะตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะพาพวกเธอไปด้วยอยู่แล้ว ออกไปตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาไม่อยากเห็นใบหน้าที่ชวนให้หงุดหงิดของยัยคนนั้นอีก
อคินโบกมือเรียกพนักงานคนเดิมที่ทำงานโซนนี้เพียงลำพัง ไม่นานร่างเย้ายวนใจของพนักงานคนสวยก็เดินมาใกล้ สายตาผิดหวังนั่นส่งมาให้เขาอีกแล้ว เป็นแม่เขาหรือไง ทำไมชอบมองเขาแบบนั้นนักวะ!
“จะรับอะไรเพิ่มคะ?”
“เช็คบิล”
“ค่ะ”
ทิพย์วารีสังเกตอาการของอคินเงียบๆ รับคำก่อนจะรีบเดินไปเคลียร์เงินให้เขา กลับมาที่โต๊ะอีกครั้งโดยใช้เวลาไม่นาน แจ้งราคาพร้อมกับยื่นใบเสร็จให้เขาดู ก่อนจะได้เงินสดเกินจำนวนมาเป็นค่าเหล้าทั้งหมด
“ไม่ต้องทอน”
“ค่ะ”
ทิพย์วารีรีบเดินเอาเงินไปให้แคชเชียร์ เพื่อเคลียร์ค่าใช้จ่าย เดินไปขออนุญาตเจ้าของร้านที่นั่งอยู่ในห้องทำงาน ก่อนจะเดินออกมามองหาคนที่มีอาการผิดปกติกับสองสาว
‘ไอ้โง่เอ่ย’
เธอถึงกับสบทลั่นในใจ เมื่อออกมาหน้าร้านแล้วเห็นว่าเขาถูกสองสาวหิ้วแขนราวกับคนเมาไร้สติ สาวเท้าเข้าไปหา ก่อนจะยิ้มให้สองสาวที่ทำหน้าตาเหลอหลาเมื่อเห็นเธอ
“เงินทอนค่ะคุณ มันเกินมาเยอะเกินไป”
ทิพย์วารีกำเงินค่าแรงของตัวเองไว้แน่นอย่างเสียดาย ยื่นมันออกไปตรงหน้าคนตัวโต คนไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ยื่นมือมารับด้วยใบหน้างงๆ เธอเลยถือโอกาศนั้นคว้าข้อมือเขาไว้ กำมันแรงๆ เพื่อให้เขารู้สึกเจ็บ เผื่อจะมีสติขึ้นมาบ้าง
“ปล่อยได้หรือยัง เราจะไปต่อ”
“ปล่อยสิคะ?”
ทิพย์วารีแกล้งพูด แม้ตอนนี้เธอจะเป็นฝ่ายโดนจับข้อมืออยู่จริงๆก็เถอะ ก็ไม่รู้ไง เผื่อว่าเขาอยากไปกับพวกเธอ ที่ตามออกมาแค่อยากมาดูให้แน่ใจ ว่าเขาเต็มใจหรือถูกอะไรลากไปก็เท่านั้น
“ปล่อยสิคะคุณ เราต้องไปแล้วนะ”
“ไม่ไป!”
“เราจะไปต่อนะคะ รีบปล่อยเธอสิ”
“ไม่!”
อคินคว้าคนที่เขากำข้อมือเข้ามากอด เขารู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เมาแน่ๆ แต่กำลังโดยฤทธิ์ยาบางอย่างเล่นงาน ตอนนี้เขาแทบไม่มีสติ ถ้าขืนไปกับพวกเธอ มีหวังเกิดหายนะแน่ๆ
“ตามนั้นนะคะ”
แม้จะมีใบหน้าสวยหวานและรอยยิ้มประดับใบหน้า แต่ท่าทางตอนนี้พร้อมหาเรื่องมาก อีกทั้งตรงนี้ยังมีการ์ดหน้าร้านที่คอยมองดูอยู่ สองสาวที่มีความผิดเลยต้องถอย แม้จะพลาดเหยื่ออันโอชะไป แต่ไม่อยากเสี่ยงติดคุกตอนนี้
“เอาตัวไม่รอด แต่เสือกอวดเก่ง”
ทิพย์วารีใช้ร่างกายของตัวเองพยุงคนหลับไว้ ร่างกายที่พาดอยู่กับแผ่นหลังของเธอ หนักอึ้งจนเข่าแทบทรุด ถ้าเธอไม่เรียนยูโดมาก่อน เธอคงลงไปกองกับพื้นแล้ว อายุก็ปูนนี้แล้ว แต่ไม่ฉลาดขึ้นเลย
“น้องวาวให้ช่วยไหม”
“ดีเลยค่ะ ช่วยวาวแบกขยะหน่อย”
คนที่ถูกเรียกว่าขยะพยายามปรือตาขึ้นมอง ยัยนี่เป็นใครกันแน่ เธอทำราวกับว่ารู้จักเขามาก่อน ไม่รู้จักเกรงกลัวอำนาจที่เขามี ทั้งยังกล้าว่าเขาอีก เป็นผู้หญิงน่าสนใจมาก น่าสนใจสุดๆ
“รถจอดอยู่ไหน?”
รู้ว่าเขายังไม่ได้หลับ เพราะมือที่ขยับไปมาอยู่หัวไหล่ แม้ตอนนี้จะมีคนมาช่วยพยุงเขาอยู่อีกด้าน แต่ร่างกายของเขากลับโถมมาที่ตัวเธอเกือบทั้งหมดเหมือนตั้งใจ
“หลังร้าน AK Sports สีดำ”
อคินบอกรายละเอียดรถของตัวเองอย่างยากลำบาก รถเขาเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตโดยบริษัทของเขาเอง มันมีลักษณะเด่น น่าจะสังเกตเจอได้ไม่ยาก
ทิพย์วารีมองหารถคันดังกล่าว ตอนที่พาร่างของเขามาถึงบริเวณที่จอดรถหลังร้าน เมื่อเจอก็ก้าวไปยืนข้างรถ พลางตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อดี สภาพนี้ขับรถกลับเองไม่ไหวแน่
“เอาไงดีน้องวาว?”
“ฝากบอกพี่พีระด้วยนะคะ ว่าวันนี้วาวกลับเร็ว”
ก็คงต้องไปส่งนั่นแหละ สภาพนี้คงขับเองได้อยู่หรอกมั้ง แม้จะรู้สึกเกรงใจเจ้าของร้าน แต่เธอก็ไม่อยากปล่อยให้เขากลับเอง
“จะไปส่ง?”
“ดูสภาพสิคะ กลับเองได้ที่ไหน?”
ตอนนี้คนที่เธอเคยพยุง ฟุบอยู่หน้ารถโดยฝีมือเธอกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ปล่อยไว้อย่างนั้นก่อนละกัน ตอนนี้เขาหลับไปแล้วจริงๆ
“แฟนเหรอ?”
“คนรู้จัก”
“พี่นึกว่าแฟน”
“ขยะแบบนี้ คงมีคนอยากได้อยู่หรอก”
ริมฝีปากกระจับเหยียดออก อคินเหมือนขยะเปียกสำหรับเธอ เขาอายุมากแล้ว แทนที่จะคิดได้ กลับทำตัวไม่ต่างจากเดิมสักนิด ไม่มีหัวคิดเรื่องดีๆ มีแต่สมองไว้คิดเรื่องอกุศล
“อ่า! เดี๋ยวพี่ช่วยพยุงขึ้นรถ”
“ค่ะ แป๊บนะคะ นี่อคิน กุญแจรถอยู่ไหน”
พูดกับการ์ดของร้านจบ ก็ก้าวไปตะโกนถามคนหลับที่ฟุบหน้าอยู่บนกระโปรงรถสุดหรู เมื่อไม่ได้คำตอบ ก็ลงมือควานหาไปตามกระเป๋ากางเกง เมื่อเจอก็จัดการกดปลดล็อก จากนั้นก็ช่วยกันพยุงร่างของเขาขึ้นไปนอนที่เบาะหลัง
ทิพย์วารีหยิบเงินในกระเป๋าของอคิน ยื่นให้การ์ดที่มาช่วยแบกเขาไปสองใบ เป็นแบงค์สีเทาทั้งคู่ จากนั้นก็ปิดประตูฝั่งที่ตัวเองนั่งลง เธอไม่จำเป็นต้องกลับไปหยิบอะไร เพราะไม่ได้เอาอะไรมาสักอย่าง ชุดที่ใส่มาวันนี้ก็ใส่ไว้ในตู้เก็บของเรียบร้อย จึงไม่กังวลอะไรเลย
ทิพย์วารีขับรถคันหรูออกจากร้านอย่างรวดเร็ว มองสำรวจคนหลับผ่านกระจกหลัง สบทเบาๆเมื่อเห็นว่านาฬิกาข้อมือของเขาหายไป นาฬิกาเรือนละหลายล้านนั่นมันเป็นของสำคัญของเขา
“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ โอ้ย! ไอ้บ้า!”
ทิพย์วารีปากล่องทิชชู่ที่วางอยู่ใกล้มือ ใส่คนที่นอนอยู่เบาะหลังเพื่อระบายความโกรธ ทุกอย่างที่เป็นอคินทำเธอโกรธมาก ไม่ว่าจะคำพูด การกระทำ ทุกๆอย่างเลย
“อย่าหวังเลยว่าจะมีคนแต่งด้วย อยู่เป็นโสดแบบนี้แหละ เป็นวาว วาวก็ไม่เอาหรอก ถ้ายังทำตัวเหมือนขยะอยู่แบบนี้”
ใบหน้าสวยแสดงออกชัดเจนว่าผิดหวังมาก เหยียบคันเร่งมากขึ้น เพื่อไปให้ถึงบ้านอัครโยธินกุลให้เร็วที่สุด ไม่อยากเสียเวลาอยู่กับเขาลำพังนานๆ มันพาลให้รู้สึกหงุดหงิดและผิดหวัง