12
โง่เหมือนเดิม
ร่างสูงตระหง่านเดินตรงปรี่เข้าไปและแผดเสียงเข้มคำรามลั่นราวกับเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้ทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว
“เอะอะอะไรกันวะ มีเรื่องอะไรกัน!” ตนุธิปตวาดกร้าวหนักแน่น ส่งผลให้คนอื่น ๆ ที่มายืนมุงต่างก็รีบถอยหนีเพราะเกรงกลัวในอำนาจและอิทธิพล
เช่นเดียวกับนายที่ตอนนี้หน้าซีดตัวสั่น นอกจากตนุธิปจะเป็นรุ่นพี่ที่เขายกให้เป็นแบบอย่างในการเดินตามความฝันแล้ว เขายังมีอิทธิพลที่จะสามารถสั่งการกับลูกน้องให้ทำตามอย่างใจต้องการได้เพียงชี้นิ้วสั่ง
“เฮียต๊อด...มะ...ไม่มีอะไรครับเฮีย ไม่มีอะไรครับ” นายที่จากเดิมแข็งกร้าวก็อ่อนยวบสิ้นท่า น้ำเสียงของเขาอ่อนลงทันทีเมื่อเจ้าของร้านปรากฏตัว
“แต่กูเห็น มึงมีปัญหาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สองคนวะ!”
“อึก! เปล่านะครับ เปล่าครับเฮีย ผมแค่ทะเลาะกับแฟนผมนิดหน่อย ไม่มีอะไรเลยครับ” คนอีกฝ่ายปฏิเสธท่าเดียว
“ที่เหลือมึงก็จัดการเองนะไอ้เวย์” ตนุธิปหันไปเอ่ยบอกกับน้องชายเพื่อนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะถอยหลังออกมาและปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปอย่างที่ควรเป็น
“อ้าว นายจะไปไหนล่ะครับ” เดย์ที่เดินตามลงมาก็ร้องถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาเดินถอยออกมา ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้พูดเสียงดังฟังชัดว่าจะออกโรงเป็นพระเอก
“สูบบุหรี่ มีสักตัวไหมวะ ขอหน่อย”
“แล้วเธอล่ะครับ นายจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ เรื่องกำลังเดือดเลยนะครับนาย” เดย์เดินตามผู้เป็นนายด้วยความร้อนรนเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาไม่ได้ทำอะไรสักอย่างนอกจากตวาดเสียงเข้ม ๆ ทรงพลังนั่น
ความจริงเขาคาดหวังว่าจะได้เห็นฉากเด็ด ๆ จำพวกพระเอกออกโรงปกป้องนางเอก หรือไม่ก็ศึกชิงนางเหมือนในละคร แต่นี่อะไร...เจ้านายเขาเดินถอยหลังออกมาแล้วขอบุหรี่มาดูดนอกร้านซะงั้น?
“อะไรของมึง ไหนล่ะบุหรี่ เอามาดิ๊!” ตนุธิปขมวดคิ้วมุ่น แบมือไปรับบุหรี่จากลูกน้องที่กำลังทำท่าราวกับแบกความสงสัยไว้เต็มอก
“สรุปว่านายไม่อยากได้เธอเหรอครับ”
“ไอ้เดย์!”
“ขะ...ขอโทษครับนาย นี่ครับบุหรี่” เดย์รีบหยิบบุหรี่ออกมาทันทีเพราะเสียงกดต่ำของเจ้านายน่ากลัวยิ่งกว่ามีปืนมาจ่อหัวซะอีก
ควันนิโคตินถูกปล่อยให้ลอยล่องเหนือศีรษะก่อนที่มันจะหายลับไปกับอากาศ ตอนนี้มีเพียงความเงียบที่ปรากฏอยู่รอบกายเท่านั้นแม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงคำถามและความสงสัยของลูกน้องมากเพียงใดก็ตาม
“กูทำได้แค่นี้ไอ้เดย์ ที่เหลือก็ปล่อยให้คนที่เกี่ยวข้องจัดการ” ตนุธิปให้คำตอบหลังจากปล่อยพ่นควันบุหรี่ออกมาอีกครั้ง
“ผมไม่เข้าใจ”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่ามึงรู้ไว้ว่ากูทำได้แค่นี้ก็พอ” ลมหายใจถูกผ่อนออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่เขาจะอัดสูบบุหรี่เข้าปอดหนัก ๆ อีกครั้งเพราะไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้
และจังหวะนั้นเองก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นตามมาทางประตูหน้าร้าน ทั้งสองคนหันไปมองถึงได้เห็นว่าเป็นนายและแฟนสาวของเธอที่กำลังยื้อยุดกระชากตัวกันออกมาอย่างรุนแรง
“พี่แม่งเลวสัส! กุ๊กเห็นเต็มสองตาว่าพี่ทำอะไรเพื่อนกุ๊กอะ พี่ทำแบบนี้ได้ยังไงวะ นั่นเพื่อนกุ๊กนะ พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง!”
“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้ทำอะไร!”
“ไม่ได้ทำอะไรก็เหี้ยแล้ว มึงลวนลามเพื่อนกูยังกล้ามาแก้ตัวอีกเหรอวะ มึงแม่ง...อ๊ะ”
เพียะ!
“หุบปากมึงอีกุ๊ก!”
ฝ่ามือหนาฟาดลงที่ซีกแก้มข้างขวาของแฟนสาวจนร่างแบบบางล้มลงกับพื้น พร้อมด้วยหยาดเลือดที่ไหลซึมออกมาบริเวณมุมปาก
ตนุธิปที่ยืนมองเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นก็ถึงกับตาวาวโรจน์ เขาก้าวเดินไปยังจุดหมาย ปรากฏตัวแทรกกลางทั้งที่คิดว่าจะปล่อยเฉยเลยผ่าน พลันทำให้นายอยู่ในอาการตกใจและสั่นกลัวเพราะไม่คิดว่าจะเจอกับเขาอีกครั้ง
“เฮียต๊อด...”
“มึงทำอะไร!” เสียงเข้มกดต่ำระงับความสั่นพร่าของกระแสอารมณ์โทสะ
“ผม...ผมเปล่าครับเฮีย”
“มึงหน้าตัวเมียถึงขั้นทำร้ายผู้หญิงเลยเหรอวะ!”
“ผม...” นายพูดไม่ออก ทำได้เพียงก้มหน้ามองพื้นเพราะไม่กล้าสบสายตาคมของคนตรงหน้า
“เป็นอะไรไหม” ร่างสูงย่อตัวลงพลางเอ่ยถามกับหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน
เขามองเห็นความหวาดกลัวจากดวงตาของเธอ แผลที่มุมปากก็ยิ่งตอกย้ำความเห็นใจจนเขากลับรู้สึกผิดเสียเองที่ไม่เข้ามาช่วยเหลือเธอให้เร็วกว่านี้
ยิ่งอยู่ใกล้เขาก็ยิ่งเห็นร่องรอยตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรอยช้ำ บาดแผล และความเสียใจที่ปรากฏ เขารับรู้และมองเห็นมันแม้ไม่ต้องสาวความถามลงลึกเลยด้วยซ้ำ
ผู้หญิงคนนี้คงเจ็บปวดไม่น้อยเลยทีเดียว...
“ฉะ...ฉัน...”
“ผมขอให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับแฟนนะครับเฮียต๊อด ไปกุ๊ก กลับ!” อุ้งมือใหญ่คว้าหมับกระชากแขนเล็กให้ลุกขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะถูกลากให้เดินไปตามแรงดึงของแฟนหนุ่ม
ทว่าตนุธิปเองก็คว้ารั้งที่ต้นแขนของเธออีกข้างเอาไว้เช่นกัน
หมับ!
“มึงยังกล้าเรียกเขาว่าแฟนอีกเหรอวะ” มือใหญ่กระชับจับให้แน่นขึ้นขณะที่สายตาก็กดมองคนอีกฝ่ายด้วยความดุดันโดยมีหญิงสาวยืนกั้นกลาง
“ช่วยปล่อยแขนแฟนผมด้วย นี่มันเรื่องของสองคน คนนอกไม่เกี่ยว”
“อ้าวไอ้นี่!” เดย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบปรี่เข้ามาประจันหน้า ยอมไม่ได้ที่เจ้านายตัวเองถูกหยาม
“มึงทำกับผู้หญิงขนาดนี้แล้วยังคิดว่าเขาจะกลับไปกับมึงอีกเหรอวะไอ้นาย” ตนุธิปแค่นเสียงถาม
“กุ๊ก มาหาพี่ เดินมา!”
“อึก!” หญิงสาวตัวสั่นเมื่อได้ยินคำคาดคั้น เธอหันหน้ามองไปยังตนุธิปด้วยความหวาดหวั่น เธออยากได้รับความช่วยเหลือ แต่คำข่มขู่ของแฟนหนุ่มที่ตราตรึงหลอกหลอนกลับทำให้เธอไม่สามารถทำอย่างใจต้องการได้
“เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าคนโง่มันไม่ได้น่าสงสาร” เสียงเข้มพูดย้ำเพื่อเตือนสติกับการตัดสินใจของเธอ
ตนุธิปเห็นความลังเลชั่งใจที่ฉายชัด ทั้ง ๆ ที่การกระทำที่เธอได้รับมันก็ให้คำตอบแล้วว่าเธอไม่ควรหวนกลับไปยังจุดเดิมอีก
มันแทบไม่ต่างจากการก้าวสู่ขุมนรก!
“กุ๊ก! พี่บอกให้เดินมาไง พี่ไม่อยากใจร้ายนะ” นายบีบรัดข้อมือของแฟนสาวราวกับมันคือคีมเหล็กร้อน ๆ ที่กักกันร่างกายให้เจ็บปวด
กุ๊กนิ่วหน้าน้ำตาคลอ เธอแสบสันชอกช้ำจนอยากหายไป แต่คำขู่ที่แฟนหนุ่มพูดกรอกหูเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมากลับจองจำให้เธอทำตาม
“ปะ...ปล่อยฉัน” หญิงสาวเอ่ยบอกกับคนด้านหลังก่อนที่เธอจะแกะมือใหญ่ของตนุธิปออก
สิ่งที่ออกมาจากปากของเธอทำเอาร่างสูงถึงกับแน่นิ่งไปชั่วขณะ พยายามทวนคิดซ้ำ ๆ ว่าเขาเข้าใจผิดหรือไม่ หากแต่ดวงตาหนักแน่นที่มองมากลับย้ำชัดว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง
“เฮียต๊อดได้ยินชัดเจนแล้วนะครับ ช่วยปล่อยแขนแฟนผมด้วย นี่มันเป็นเรื่องของผมกับแฟน ขอให้ผมได้เคลียร์กับแฟนแค่สองคนนะครับ คนนอกอย่างเฮียไม่ควรเข้ามายุ่ง” นายหยัดยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็กระชากร่างของแฟนสาวและพาเดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่
ตนุธิปลากสายตามองตามไปจนพ้นระยะ เขาถอนหายใจและสบถด่าออกมาหนัก ๆ
“คนโง่แม่งก็โง่เหมือนเดิม!”