[TW ; การทำร้ายตัวเอง] 00 บทนำ
คำเตือนก่อนอ่าน
มีการบรรยายถึงการทำร้ายตัวเอง, ตัวละครอยู่ในสภาวะดิ่ง หดหู่
โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพผลงาน
__________________
00
บทนำ
ขาเล็กแกว่งไกวไปกับอากาศ ขณะที่ร่างแบบบางได้ทิ้งตัวนั่งอยู่บนราวเหล็กของสะพานข้ามแม่น้ำอันกว้างใหญ่
ดวงตาเคล้าทุกข์ทอดมองไปยังภาพเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอยไร้จุดจับจด มันมีเพียงความว่างเปล่าที่ซึมซับครอบครองพื้นที่ของสมองและความรู้สึกเท่านั้น หากแต่มีอยู่เสี้ยวหนึ่งของความคิดที่แทรกซ้อนเข้ามา มันเป็นคำเตือนสั้น ๆ ของห้วงความคิด คลับคล้ายกับว่ามันกำลังร้องบอกให้เธอเดินหน้าต่อ แม้ว่า ณ ตอนนี้เธอจะปล่อยทุกอย่างทิ้งไว้ก็ตาม
และเพียงเศษเสี้ยวที่แทรกมากลับทำให้หญิงสาวใช้เล็บจิกไปที่ต้นขาของตัวเอง ความเจ็บแปลบน้อย ๆ ทำให้เธอพอมีสตินึกคิดขึ้นมาได้บ้าง จากความว่างเปล่าไร้จุดหมายก็ดันมีความเจ็บเข้ามาอยู่เคียงข้างกัน
"คนที่เขาทำร้ายตัวเองคงคิดแบบนี้เองสินะ" หญิงสาวยิ้มน้อย ๆ กดมองแผลและรอยแดงบนต้นขาจากฝีมือของตัวเอง
เธอเข้าใจแล้วว่าคนที่ทำร้ายตัวเองกำลังรู้สึกยังไง
สร้างร่องรอยของแผลทำให้เจ็บแสบยังดีว่าเอาความคิดของตัวเองไปจมกับความทุกข์ ที่แท้มันก็เป็นวิธีระบายและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองวิธีหนึ่ง
น่าสนใจ...
"แล้วถ้าโดดลงไปล่ะ...จะเจ็บหรือเปล่า" คำถามต่อไปเอ่ยขึ้นพลางลากสายตามองลงไปยังด้านล่างซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ทั้งลึกและกว้าง
ความคิดนอกเหนือจากการจิกเล็บสร้างบาดแผลและความเจ็บปวดก็คือความสนใจที่อยากจะลองดิ่งจมลงสู่ผืนน้ำกว้างใหญ่ ภายใต้นั้นมีอะไรแฝงซ่อนอยู่บ้าง แล้วมันจะต้องดำลึกไปมากแค่ไหนถึงจะค้นพบจุดหมายที่ทำให้เธอพ้นทุกข์ทรมาน
ดวงตากลมโตกดมองราวกับค้นหาสิ่งที่ต้องการ มันมืดมนแต่เธอกลับมองเห็นแสงสว่างน้อย ๆ ที่อยู่เบื้องล่างรอคอยให้ลงไปสัมผัสและไขว่คว้า
แขนข้างขวายื่นไปข้างหน้าทำท่าเอื้อมจับดวงไฟที่มองเห็น ทว่าแท้จริงแล้วมันกลับเป็นอากาศเบาบางที่ไม่สามารถครอบครอง
"ต่อจากนี้คงไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว" เสียงเล็กเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่ประดับ ริมฝีปากของเธอหยัดโค้งสวยงาม แต่ดวงตาและความรู้สึกที่สะท้อนผ่านกลับเป็นความชอกช้ำเกินกว่าจะรับไหว
เธอตัดสินใจที่จะปล่อยมันทิ้งทุกอย่างลงสู่แม่น้ำ ให้มันล่องลอยหายลับ หรือไม่ก็จมดิ่งไปยังจุดที่ลึกที่สุด เช่นเดียวกับร่างกายอันแตกสลายของเธอ...
"ขอนั่งด้วยได้เปล่า"
ทว่า...เสียงห้าวทุ้มเอ่ยแทรกขึ้นพลันทำให้ความคิดของหญิงสาวหยุดกึกไปชั่วขณะ
ใบหน้าสะสวยอาบน้ำตาหันไปมองยังต้นเสียง เธอเห็นผู้ชายร่างใหญ่หน้าโหดยืนอยู่ไม่ไกล เขากำลังยืนเท้าคางกับราวสะพานที่เธอกำลังนั่ง ดวงตาก็ทอดมองไปยังเส้นทางของสายน้ำที่ไหลธารอย่างไม่มีวันจบ
"คุณ" คำพูดสั้น ๆ เอื้อนเอ่ยออกมาแผ่วเบาเจือจาง
เธอมองไปยังเจ้าของเสียงขัดจังหวะพลางขมวดคิ้วมุ่น ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขาที่มาอยู่ตรงนี้ ในสถานการณ์ที่เธอกำลังตัดสินใจกับชีวิตของตัวเอง
"ว่าไง นั่งด้วยได้ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง พร้อมกันนั้นเขายังสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า หากแต่สายตาคมกลับกดตรึงจดจ้องมองไปยังใบหน้าของเธอเพียงจุดเดียว
"คุณ...มาได้ไง"
"ขึ้นยังไงวะเนี่ย หรือคนที่ขึ้นได้ต้องตัวเล็ก ๆ แบบเธอ" คนตัวใหญ่บ่นอุบนิ่วหน้าหงุดหงิด เขาพยายามกระโดดและทรงตัวนั่งบนราวสะพานในท่าเดียวกันกับเธอ แต่มันก็เอนเอียงจวนจะล้ม ตอนนี้มีทางเลือกแค่สองทาง ไม่หน้าทิ่มดิ่งลงน้ำก็หงายหลังตึงไปนั่นแหละ
"คุณจะขึ้นมาทำไม คุณนั่งไม่ได้หรอก" คนตัวเล็กขยับเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือไปช่วยจับรั้งที่ต้นแขนแกร่งเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ล้มเลิกความพยายาม
"เปลี่ยนที่นั่งกัน มานั่งข้างล่างแทนเถอะ ง่ายกว่าเยอะ" เสียงถอนหายใจผ่อนออกมาหนัก ๆ ราวกับยอมแพ้ยกธงขาว ซ้ำยังชวนให้เธอลงมานั่งข้างล่างที่พื้นด้วยกันเพราะมันง่ายกว่าหลายเท่า
"คุณมาทำไม แล้วมันล่ะ...คุณจัดการกับมันหรือยัง"
เธอถามถึง 'มัน' ซึ่งเป็นสรรพนามที่เธอใช้เรียกแทนตัวต้นเหตุของความทุกข์ทรมาน และผู้ชายคนนี้ที่ยืนข้าง ๆ เธอนี่แหละที่เป็นคนอาสา 'จัดการ' แทนทุกอย่าง
เวลาแบบนี้เขาควรจะอยู่จัดการมันไม่ใช่หรอกหรือ แล้วทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?
"ที่ถามนี่เพราะอยากรู้จริง ๆ หรือเป็นห่วงมัน" ใบหน้าหล่อเหลาหันมองและเลิกคิ้วถาม เขาอยากรู้ว่าที่เธอถามถึงมันนั้นมีเหตุผลอะไร
"..." หญิงสาวไม่ตอบ เธอหันกลับมาและก้มหน้ามองไปที่หน้าตักของตัวเองซึ่งมีร่องรอยบาดแผลปรากฏอยู่
คนข้างกายที่มองตามระดับสายตาของเธอก็ถึงกับสะท้านไหวไปทั่วร่างกาย หัวใจแข็งแกร่งของเขากระตุกวูบเพียงเห็นบาดแผลและเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมน้อย ๆ บนต้นขาเล็ก
"มันยังไม่ตาย...แต่มันจะทรมานที่สุด" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยขึ้นสะท้อนถึงความอดทนอดกลั้นของอารมณ์ตัวเองอย่างถึงที่สุด หากแต่เขาเลือกที่จะหลับตาและถอนหายใจเพื่อระบายมันออกมาเพราะไม่อยากแสดงท่าทีด้านลบให้เธอเห็น
"ขอบคุณนะ...คะ" เกือบลืมหางเสียงเพราะนึกขึ้นได้ว่าเขาโตกว่าเธอหลายปี
คนที่ฟังก็ถึงกับหลุดหัวเราะ สถานการณ์ย่ำแย่แบบนี้เธอยังไม่ลืมมารยาทเสียด้วย
น่ารักไม่หยอก...
"กระโดดลงไปน่ะเจ็บมากนะ ผิวกายจะกระแทกกับน้ำโดยตรง มันจะชาก่อน แล้วก็เจ็บจุกจนไม่มีแรงว่ายต่อ หลังจากนั้นร่างกายก็จะจมลม" เขาบอกและชะโงกมองผืนน้ำที่เคลื่อนไหวไม่มีวันหยุดนิ่ง ใจจริงอยากจะคำนวณฟิสิกส์ถึงท่ากระโดดให้เธอฟังด้วยซ้ำแต่ก็คิดว่ามันคงสะเหล่อเกินไปกับสถานการณ์แบบนี้
"แล้วมีวิธีที่ไม่เจ็บไหม ฉัน...ฉันไม่อยากอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่อยากเจ็บปวด" คนตัวเล็กถามด้วยความหนักแน่น แต่ก็มีจุดสั่นเครือที่แทรกเข้ามาเมื่อหวนนึกถึง 'เรื่องเลวร้าย' ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
"มีสิ...มีเยอะเลย"
"คุณพูดจริงเหรอ"
"แต่ไม่บอกหรอก"
สิ้นคำตอบเธอก็หลุดสีหน้าหงุดหงิดออกมา คราวนี้กลับได้รับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้า พานทำให้หญิงสาวถึงกับแปลกใจว่าเธอเผลอทำอะไรน่าอายให้เขาดูหรือเปล่า
"ขำอะไร"
"มีคนเคยบอกไหมว่าตอนที่เธอร้องไห้โคตรทุเรศ"
ใช้คำว่าทุเรศเลยเหรอ...
"แล้วทำไม" เธอถามกลับ น้ำเสียงติดฉุนไม่พอใจ
"เธอจะจากไปเฉย ๆ ไม่ได้หรอก เพราะเธอต้องอยู่ตกรางวัลให้ฉันก่อน ฉันมันเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรให้ใครฟรี ๆ ซะด้วยสิ" ชายหนุ่มผิวปากพลางสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางยียวนน่าหมั่นไส้อย่างถึงที่สุด
ดวงตาและรอยยิ้มของเขาค่อย ๆ เผยถึงความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจออกมา มันทั้งน่ากลัวแต่ทว่าก็น่าค้นหาไปพร้อม ๆ กัน!
"รางวัลอะไร"
"ก็บอกไปแล้วนี่ว่าถ้าจัดการมันแล้วฉันจะมาขอรางวัล" เสียงเข้มเอ่ยต่อทันที
"ทวงบุญคุณเหรอ"
"ว่างั้นก็ได้"
"แล้วจะขออะไร"
"ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาทวงรางวัลแล้วกัน" แสร้งยกข้อมือขึ้นทำทีเป็นดูนาฬิกา เขายกอ้างเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะอยากยื้อเวลาให้ได้นานที่สุด
ไม่รู้ว่าการเหนี่ยวรั้งเธอให้อยู่ต่อด้วยบุญคุณจะเป็นวิธีที่ทำให้เธอเลิกคิดทำร้ายตัวเองหรือเปล่า ไม่รู้ว่ามันคือวิธีที่เหมาะสมกับสภาพจิตใจของเธอหรือไม่ แต่เขาเองกลับคิดว่ามันคือสิ่งเดียวที่จะสามารถดึงให้เธออยู่ต่อได้
ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นแค่เพียงเวลาสั้น ๆ ...
"คุณสนใจฉันเหรอ"
สุ้มเสียงเล็กที่เอ่ยต่อจากนั้นทำเอาร่างสูงใหญ่ถึงกับสะดุด เขาพินิจมองใบหน้าของเธอและค้นคว้าหาความหมายแต่ก็พบกับความว่างเปล่า
"รางวัลที่คุณว่าคือนอนกับฉันเหรอ" เธอถามอย่างตรงไปตรงมา มองเห็นลงลึกว่าสายตาของเขามีความปรารถนาและความสนใจอยู่ไม่น้อย
ความต้องการของผู้ชายไม่มีอะไรมากหรอก ถ้าไม่ใช่เงินที่มากพอก็คงเป็นเซ็กซ์ที่ถึงใจ
"หลงตัวเอง" คำตอบดังฟังชัดตอกหน้ากลับมา พร้อมกันกับมือหนาที่กดศีรษะของเธอแรง ๆ จนต้องนิ่วหน้าเจ็บ
"เจ็บนะ!"
"สวยขนาดนั้นเลยหรือไงถึงคิดว่าคนเขาอยากนอนด้วย!" ชายหนุ่มพูดเสียงดุ เขากำลังโกรธเธอจริง ๆ นั่นแหละ แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น
"ก็จริง...ผู้หญิงอย่างฉันมันไม่ได้มีอะไรดีนี่นา สกปรกด้วย"
"ฉัน...ไม่ได้หมายความแบบนั้น" ก่นด่าตัวเองในใจที่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล คำพูดของเขาคงจี้จุดเลยทำให้เธอจมดิ่งอีกครั้ง
"ช่างเถอะ ฉันเหนื่อยมากเลย อยากกลับแล้ว คุณจะมาเอารางวัลพรุ่งนี้ใช่ป้ะ อย่าเช้านักล่ะ หลังบ่ายสามได้ยิ่งดี" หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เอ่ยทิ้งท้ายและเดินห่อไหล่คอตกไปตามทางเดินของสะพาน
คราวนี้คนฟังถึงกับยิ้มออกเริ่มมีความหวัง รู้ซึ้งแล้วว่าเธอเข้มแข็งกว่าที่เขาคิดไว้มาก
สายตาคมขลับทอดมองคนตัวเล็กที่เดินห่างออกไป เขาตั้งใจว่าจะไปส่ง แต่ก็เลือกที่จะขับรถตามหลังเธอช้า ๆ เว้นระยะไกล ๆ ไม่ให้เธออึดอัด กระทั่งมาถึงยังหอพักของเธอเขาถึงได้วางใจและเตรียมตัวเตรียมใจรอคอยสำหรับ 'รางวัล' ที่จะขอเธอในวันพรุ่งนี้