6

1135 Words
อัคคียังคงทำตามแผนของตัวเองต่อไปดั่งที่ใจคิด เขามาหารดาที่ผับทุกคืน แม้ว่ารดาจะพยายามหลบเลี่ยงแล้วก็ตาม หากแต่หน้ากากของเจ้าของผับหรูที่เธอสวมใส่อยู่ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ ดอกไม้หลายสิบช่อที่อัคคีมอบให้เธอ ยังวางอยู่ในห้องนอนห้องเล็กๆ อาณาจักรส่วนตัวของเธอ ที่ไม่มีใครเข้ามายุ่งได้ แม้แต่ลดาลักษณ์ ที่ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในห้องที่อับชื้นของรดาเลยสักครั้งเดียว “รดา...รีบไปบอกผู้ชายคนนั้นเถอะว่าอย่ามายุ่งกับเธอเลย รู้ใช่ไหมว่าเจ๊ส้มไม่ชอบ...ดีนะที่เจ๊ส้มไม่อยู่ ไม่งั้นเธอเจ็บตัวแน่” เบิ้มพูดตักเตือน เพราะเขาสังเกตเห็นอัคคีชายหนุ่มที่มาติดพันรดา และเป็นเจ้าของช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของรดาตอนนี้ด้วย หากเรื่องนี้รู้ถึงหูลดาลักษณ์ มีหวังสาวน้อยแสนดีคนนี้เจ็บตัวเป็นแน่ “รดาบอกเขาแล้ว...บอกทุกวัน แต่เขาก็ยังมา รดาไม่รู้จะทำยังไงแล้วพี่เบิ้ม” รดาพูดเหมือนปรับทุกข์กับเบิ้ม ชายร่างใหญ่ที่คุมเธอทุกฝีก้าว ตามคำสั่งของลดาลักษณ์ ที่ตอนนี้กำลังมีความสุขอยู่กับยุทธการที่คอนโดของชายหนุ่ม โดยที่ไม่กลับมาที่นี่เลยตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ร่วมสิบวันแล้ว “เดี๋ยวพี่จัดการให้ ท่าทางมันอ่อนหัดอยู่ พูดข่มขู่ก็คงล่าถอยไปเอง” หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เบิ้มคิดนั้นผิดถนัด คนอย่างอัคคีนั้นตัดสินจากภายนอกไม่ได้ เพราะภายในร้ายยิ่งกว่าภายนอกหลายร้อยเท่า ร้ายจนคนอย่างเบิ้มและใครๆ คิดไม่ถึง “อย่าทำอะไรเขาเลยพี่เบิ้ม...เขามาดี” รดาร้องห้าม ปรายตามองบุรุษรูปงามที่นั่งอยู่โต๊ะประจำ ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย หนึ่งในความรู้สึกนั้นคือคำว่ารัก “รดารักนายคนนั้นเหรอ” เบิ้มถามตรงๆ เพราะดูจากน้ำเสียงและท่าทางของสาวน้อยตรงหน้า หากเขาดูไม่ผิด รดาอาจมีใจให้กับอัคคีเป็นแน่ “ปะ...เปล่า รดามีสิทธิ์รักชอบใครได้หรือพี่เบิ้ม” “คิดได้อย่างนั้นมันก็ดี จะได้ไม่มีปัญหากับเจ๊ส้ม พี่ไม่อยากให้เราเจ็บตัวนะรดา” เบิ้มเตือนด้วยความหวังดี เพราะทุกครั้งที่รดาถูกลดาลักษณ์ทำร้าย หัวใจของเขาเจ็บมากกว่าเธอทุกครั้ง เป็นเพราะเขาหลงรักรดาตั้งแต่แรกเห็น จนถึงปัจจุบันก็ยังรักไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เขาไม่แสดงออกมาเท่านั้น การสนทนาของทั้งสองยุติลง เมื่อมีนักท่องราตรีกลุ่มหนึ่งเข้ามาภายในผับที่อยู่ชั้นสอง สายตาของหนึ่งในกลุ่มนักท่องราตรี มองมาที่รดาตาไม่กระพริบ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหา สาวน้อยที่ยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ “รดาใช่ไหม...ใช่รดาของพี่หรือเปล่า” คำว่ารดาของพี่ ทำให้ผู้ถูกถามมองใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของผู้ถามตาไม่กระพริบ สมองอันน้อยนิดประมวลคำพูดและท่าทาง รวมทั้งรอยยิ้มของชายคนนั้น และในที่สุดเธอก็จำได้ว่าชายหนุ่มหน้ามนที่เข้ามาทักเธอคือวรวิชญ์ พี่ชายที่แสนดีของเธอเมื่อสิบสองปีก่อนนั่นเอง เขามีความเปลี่ยนแปลงจากอดีตไม่มากนัก “พี่วิชญ์” รดาอุทานเสียงเบา เหมือนกับไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ว่าจะได้เจอกับวรวิชญ์ที่นี่ “ใช่ พี่เอง...พี่ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอรดา รู้ไหมพี่คิดถึงรดามากขนาดไหน...แล้วรดามาทำอะไรที่นี่” วรวิชญ์ไม่พูดเปล่าเขาโอบกอดร่างบางที่เขาคิดถึงไว้ในอ้อมแขน กระชับอ้อมกอดอย่างแนบแน่น ท่ามกลางความตื่นตะลึงของรดาและผู้พบเห็น รวมทั้งอัคคีที่นั่งอยู่ไม่ไกลด้วย ก่อนจะตั้งคำถามด้วยความฉงนสงสัย รดามีทีท่าอึกอักเล็กน้อยกับคำถามของชายหนุ่ม “เอ่อ...คือว่า...รดาเป็นเจ้าของผับแห่งนี้ค่ะ” คำตอบของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อย หากแต่วงแขนที่โอบร่างบางหาได้ปล่อยไม่ ยังคงรัดแน่นมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามผลักดันให้ ชายหนุ่มออกห่างก็ตามที “พี่วิชญ์ปล่อยรดาก่อนนะคะ คนมองกันใหญ่แล้ว” รดาพูดเมื่อมองดูรอบๆ เห็นสายตาของใครหลายคู่มองมาที่เธอกับวรวิชญ์ และมีสายตาคู่หนึ่งที่เธอเผอิญเหลือบไปเห็น มองเธอและวรวิชญ์ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ทำให้รดารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก “ขอโทษที พี่ลืมตัวไปหน่อย...รู้ไหมพี่คิดถึงเรามากแค่ไหน สิบสองปีแล้วนะที่พี่ไม่ได้เห็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ของพี่” เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นดั่งเช่นวันวานไม่มีผิดเพี้ยน หากแต่อดีตที่เคยสดใสของเธอได้เปลี่ยนเป็นสีดำตั้งแต่เธอเข้ามาสวมหน้ากากในบทบาทนี้ พร้อมกับคลายอ้อมแขนออกแต่ยังคงยืนชิดกับร่างบางของรดาอยู่ “พี่วิชญ์มากับเพื่อนหรือคะ” รดาเปลี่ยนเรื่องคุย “ใช่...เพื่อนพี่มันลากมา มันบอกว่าที่นี่มีทีเด็ด” คำพูดของวรวิชญ์ทำให้รดาถึงกับใบหน้าถอดสี เพราะรู้ดีว่าความหมายของคำว่าที่นี่มีทีเด็ด นั้นหมายถึงอะไร “เฮ้ย!...ไอ้วิชญ์ สาวสวยคนนี้ใครวะ” เพื่อนในกลุ่มของวรวิชญ์เอ่ยถาม พลางจ้องมองรดาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แววตาของผู้ถามเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย “เขาเป็นน้องกู มึงอย่ายุ่ง” วรวิชญ์ออกโรงปกป้องรดาเต็มที่ “น้องมึง น้องท้องชนกันเวลาแก้ผ้าหรือเปล่าวะ” คำพูดของเพื่อนวรวิชญ์เรียกเสียงหัวเราะให้เพื่อนอีกหลายคนที่ตามมาด้วย “ถ้าจะมาพักผ่อนเชิญทางนี้ครับ...แต่ถ้าจะมาปากหมาที่นี่ โน่นครับ เดินเข้าไปในลิฟต์และย้ายก้นออกไปจากผับนี้เดี๋ยวนี้ครับ ก่อนที่ผมจะลากพวกคุณออกไปเอง” เบิ้มพูดแทรกขึ้นมา เพราะทนให้ใครมาดูหมิ่นหญิงที่ตนรักไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวแสนซื่อคนนี้ ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ คิดเลยแม้แต่นิดเดียว เพื่อนในกลุ่มของวรวิชญ์ที่เป็น นักท่องราตรีเงียบสนิท และเดินไปนั่งที่โต๊ะที่เบิ้มนำไป มีเพียงวรวิชญ์เท่านั้นที่ยังคงยืนไม่ยอมห่างจากร่างของรดา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD