Chapter 2 เรื่องบนเตียง (1)

1669 Words
Chapter 2 เรื่องบนเตียง (1) เสียงสายน้ำจากฝักบัวดูเหมือนจะเงียบลงไป...สิตางคุ์รีบปิดหนังสือในมือแล้ววางมันไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นจึงพลิกกายนอนตะแคงแสร้งทำเป็นหลับ...หล่อนไม่อยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสามีนับตั้งแต่ตั้งครรภ์ อารมณ์ในเรื่องแบบนั้นมันหายไปจนกลายเป็นหงุดหงิด และคิดเอาเองว่าเขาคงเข้าใจที่หล่อนไม่ยอมให้ล่วงล้ำทางกายเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป "แบมจ๋า วันนี้ขอได้ไหม" น้ำคำออดอ้อนมาพร้อมเตียงนอนที่ไหวยวบ สิตางคุ์นอนนิ่งเมื่อฝ่ามือแกร่งลากไล้มาด้านหน้าแล้วบีบเคล้นลงบนอกอิ่มหน่วงหนัก ความสากระคายที่ซุกไซ้อยู่ข้างซอกคอทำให้หล่อนเอี้ยวหน้าหนี บอกเป็นนัยๆ ว่าวันนี้ไม่พร้อมสำหรับสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกาย "เอาไว้วันหลังนะคะ แบมไม่ค่อยสบาย" เพียงแค่นั้น ฝ่ามือที่บีบเคล้นอกอิ่มก็หยุดกึก พร้อมกับลมหายใจแรงๆ ที่ผ่อนออกมากระทบผิวแก้มนวลเนียนคล้ายหงุดหงิดใจ "คุณปฏิเสธผมหลายครั้งแล้วนะแบม...คุณมีอะไรในใจกับผมหรือเปล่า...หรือคุณเบื่อรสรักผัวตัวเองเพราะความจำเจ!" สิตางคุ์ถึงกับพลิกกายหันไปเผชิญหน้า รู้สึกโกรธที่เขามองตนในแง่ร้ายเกินไป "คุณกำลังดูถูกแบมนะคะภีม ก็คนมันไม่สบายจะให้ทำยังไงคะ แบมไม่ไหวจริงๆ" "ไม่เป็นไรแบม ไม่อยากมีอะไรกันผมก็จะไม่ฝืน...นอนเถอะ ผมไม่กวนแล้ว" เขาจูบลาหล่อนที่ขมับข้างขวา คว้ารีโมทมากดปิดไฟ สิตางคุ์หันหลังให้เขานอนนิ่งอย่างรู้สึกผิด เขายังคงดูแลด้วยการคว้าผ้าห่มมาคลุมกาย...แม้จะไม่ได้หันกลับไปมอง แต่หล่อนก็สัมผัสได้ว่าเขากำลังพาร่างลงไปจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ตามมาด้วยเสียงปิดประตูห้องเบาๆ ++++ ภัทรนันท์เดินออกมาจากลิฟท์เมื่อมันพาเขาลงมาที่ชั้นล่างของตึก ชายหนุ่มเดินตรงไปยังมุมประจำของครอบครัว คว้ารีโมทมากดเปิดหน้าจอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่ฝังอยู่กับผนังอย่างกลมกลืน จากนั้นจึงกดหาช่องบอลเพื่อดูคลายเครียด จังหวะที่คว้าหมอนมากอดแล้วกำลังจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา เสียงบางอย่างที่ดังมาจากครัวก็ทำให้ต้องเงี่ยหูฟัง 'ใครมาล้างอะไรในครัวตอนนี้’ เสียงเหมือนคนล้างถ้วยชามดังอยู่ในครัว ชายหนุ่มสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ๆ...คนๆ นั้นไม่ใช่ใคร เป็นน้องสาวจอมจุ้นจ้านที่ป่านนี้ก็ยังไม่เข้านอน "ทำอะไรน่ะ ดึกแล้วทำไมไม่นอน" เสียงที่ทักทายทำลายความเงียบ ทำให้มินตราชะงักมือที่ถือฟองน้ำล้างจาน หันไปมองก็เห็นพี่ชายตนมาหยุดยืนที่ข้างหลัง หล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามาตั้งแต่ตอนไหน "เก็บจานที่ตกค้างล้างค่ะ เช้าจะได้ไม่ต้องล้าง" "ไปนอนเถอะ ไว้ให้แม่บ้านทำตอนเช้าก็ได้นี่ครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ ใกล้จะเสร็จพอดี อัยย์ยังไม่ง่วงด้วยค่ะ" หล่อนหันไปล้างจานต่อ...ภัทรนันท์เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วมองหาเครื่องดื่ม เขาได้เบียร์เย็นๆ ติดมือมาหนึ่งกระป๋อง...ยังขาดของกินเล่น คิดพลางเดินไปเปิดตู้ที่ฝังอยู่กับผนังเหนือศีรษะ มือรื้อค้นอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้นออกมา "ดื้อนักไม่ยอมนอน งั้นก็ใช้เสียเลยดีไหม ช่วยอบไอ้นี่ให้พี่หน่อยสิครับ" เขายื่นถุงป๊อบคอร์นแห้งมาให้ ส่งยิ้มออดอ้อนเพื่อจะใช้หล่อนแบบเนียนๆ "ดูบอลอีกแล้วใช่มั้ยคะ" "จะดูเป็นเพื่อนกันมั้ยล่ะ ดูคนเดียวมันเหงานะ" มินตรายิ้มแต่ไม่ตอบ หล่อนปรายตามองวัตถุดิบที่อยู่ในอุ้งมือแกร่ง รับมาทำให้เขาอย่างเต็มใจเพราะเห็นว่าเป็นพี่ชายที่มีสิทธิ์จะไหว้วานให้ทำอะไรก็ได้...เขาส่งให้หล่อนแล้วออกไปนอนรอที่หน้าทีวี โดยบอกให้หล่อนช่วยถือตามออกไป... "มาแล้วค่ะ" มินตราเดินตามออกมาที่หน้าทีวี ในมือมีกล่องกระดาษใส่ ป๊อบคอร์นที่อบร้อนๆ ติดมาด้วย หล่อนยื่นมันให้คนที่นอนกอดหมอนรออยู่ เขาละสายตาจากเกมกีฬาหน้าจอชั่วคราว "ขอบใจนะ มากินด้วยกันสิ" "แดงโซดาสักแก้วมั้ยคะ" "จะชงให้มั้ยล่ะครับ" "พูดแบบนี้พี่ภีมใช้มาตรงๆ เลยก็ได้นะคะ กินแต่ป๊อบคอร์นเพียวๆ ติดคอแย่เลยค่ะ" หล่อนหัวเราะตบท้าย แต่ก็เดินไปเปิดตู้เย็นทำให้เขา ตามความเคยชินของคนชอบบริการ รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูแลเอาใจใส่ทุกๆ คนในครอบครัว ทุกคนในบ้านนี้คือคนในครอบครัว หล่อนทั้งรักและเคารพ แม้จะไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกันก็ตาม คิดเสมอว่าหากไม่ได้บิดาบุญธรรมอย่างพันเลิศช่วยเอาไว้ ป่านนี้หล่อนคงกลายเป็นเด็กข้างถนน หรือไม่อาจถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของญาติแท้ๆ ตัวเอง หายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมแดงมะนาวโซดาสองแก้ว คิดว่าจะนั่งเป็นเพื่อนเขาสักพักแล้วขึ้นไปนอน แก้วเครื่องดื่มถูกวางลงบนโต๊ะกระจกทรงกลมที่ปลายเท้า หญิงสาวเอนกายลงนอนกอดหมอนบนเดย์เบดตัวเดียวกันกับเขา ความสนิทสนมในแบบพี่น้องนั้นมีมานานจนความชิดใกล้ไม่มีผลต่อความรู้สึกใดๆ ที่มากกว่ามองเขาเป็นแค่พี่ชาย เขาไม่ใช่ภัทรนนท์ที่หล่อนได้แต่ซ่อนรักเอาไว้ไม่ให้เจ้าตัวรู้ มันต้องหลบซ่อนเพราะความเจียมตัวด้วยรู้ว่าไม่คู่ควร ของกินเล่นยามดึกกับน้ำหวานซ่าๆ เปรี้ยวๆ เข้ากันได้ดีกับบรรยากาศที่กำลังสนุกสนานในจอภาพเบื้องหน้า...ภัทรนันท์ละสายตาจากกีฬาในสนามเมื่อได้เวลาพักเบรกครึ่งแรก ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าน้ำแดงในแก้วของตนพร่องไปเกือบหมด รวมทั้งป๊อบคอร์นที่เกือบหมดกล่อง เขาไม่รู้ตัวสักนิดว่ามันหมดเพราะความอร่อยหรือเพราะเพลิดเพลินไปกับเกมฟุตบอล "หมดแล้ว ขออีกแก้วสิครับ บอลยังไม่จบเลย" "อัยย์ว่าจะชงใส่เหยือกมาให้ จะกินกี่แก้วพี่ภีมก็รินเอาเลย" "เบาหวานกินพอดี ขออีกแก้วเดียวพอ" เขายื่นแก้วมาให้พร้อมทำหน้าออดอ้อน มินตราจำต้องลุกไปชงให้เพราะแพ้สายตาออดอ้อนนั้นทุกที...หายไปไม่นานก็กลับมา แต่ไม่ได้มาแค่เครื่องดื่มเท่านั้น ในมือของหล่อนถือกระจาดใส่องุ่นที่ล้างแล้วมาด้วย กะให้เขาไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันเลยทีเดียว หล่อนวางมันบนโต๊ะกระจกตัวเดิม ภัทรนันท์ปรายตามองกระจาดสานที่มีพวงองุ่นใส่มาในนั้นแล้วอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ "นี่ ใจคอจะขุนพี่ให้อ้วนเลยรึไง แค่น้ำแดงก็ต้องว่ายน้ำเป็นชั่วโมงล่ะ ยังจะเอาองุ่นมาอีก" "แล้วจะกินมั้ยล่ะคะ" "กินสิ ถามได้" เสียงหัวเราะดังประสานกันเบาๆ กลางดึกสงัดในบ้านอบอุ่น แต่สักพักแววตาของภัทรนันท์ก็แปรเปลี่ยนคล้ายมีอะไรซ่อนอยู่ในใจ เสียงผ่อนลมหายใจดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะส่งยิ้มจางๆ มาให้คนข้างกาย "ขอบใจนะน้องอัยย์ที่คอยดูแลกันเสมอมา ถ้า…แบมดูแลพี่แบบนี้บ้างก็คงจะดี" มินตราถึงกับชะงักมือที่กำลังคว้านเมล็ดองุ่นออกจากผลเพื่อเตรียมไว้ให้พี่ชายตน รู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ เขาก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา "แต่ว่าตอนนี้พี่แบมกำลังท้องนะคะ พี่ภีมควรที่จะเป็นฝ่ายดูแลเอาใจใส่พี่แบมมากกว่า" "ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า มันมีอะไรมากกว่านั้น…เรื่องบางอย่างที่เด็กอย่างน้องอัยย์ไม่มีวันเข้าใจ" "แล้วเรื่องอะไรล่ะคะ บางทีอัยย์อาจจะช่วยพี่ภีมได้นะ" หล่อนเห็นแววตาของเขาฉายแววขบขัน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นไล่มองตนตั้งแต่หัวจรดเท้า จนต้องก้มมองตามว่าสายตาของเขานั้นสื่อถึงอะไร "ตั้งใจเรียนไปเถอะเราน่ะ มันคือเรื่องของผู้ใหญ่ที่เด็กไม่จำเป็นต้องรู้" เขาเอนกายลงนอนกอดหมอน สายตาเปลี่ยนไปจับจ้องมองกีฬาในจอภาพต่อ ปล่อยให้หล่อนนั่งจมอยู่กับความสงสัยในถ้อยคำนั้นอยู่เงียบๆ เพราะภายนอกที่เห็น เขากับพี่สะใภ้ดูไม่เหมือนคนมีปัญหากันเลยสักนิดเดียว กว่าการแข่งขันจะจบลงเวลาก็ล่วงเลยมาจนครึ่งคืน ภัทรนันท์หันไปมองคนข้างกาย เจ้าตัวนอนกอดหมอนเปลือกตาปิดสนิท หล่อนหลับไปตั้งแต่ตอนไหนนั้นเขาก็ไม่ได้ทันสังเกต เพราะเกมครึ่งหลังสนุกและลุ้นจนไม่อาจละสายตาที่หน้าจอได้เลย ลมหายใจที่สม่ำเสมอและร่างที่นอนตะแคงคุดคู้หันมาทางตน แพขนตางอนยาวที่เห็นได้ชัดเจนยามหล่อนหลับใหล สะกดสายตาคนมองให้เผลอจับจ้องอย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนปีนี้น้องสาวของเขาจะโตเป็นสาวสวยสะพรั่งขึ้นอีกเป็นกอง ความใกล้ชิดทำให้เขาได้หยุดคิดและพิศเพ่งมอง แรงดึงดูดบางอย่างทำให้ยื่นมือไปเขี่ยปอยผมที่ปรกอยู่ข้างแก้มให้พ้นไปจากกรอบหน้า รอยยิ้มเล็กๆ คลี่ออกมา เมื่อเห็นว่าหล่อนหลับลึกจนลืมไปว่าไม่ใช่เตียงนุ่มๆ ในห้องนอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD