"ยินดีตอนรับนักธุรกิจทุกท่านเข้าร่วมยินดี กับสองบริษัทยักษ์ใหญ่ ร่วมจับมือกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เปิดตัวสองทายาทที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ผมในนามพิธีกรขอเชิญ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านปรบมือต้อนรับ คุณ เหมราช อาจเดชา และคุณ ราชสีห์ เทพเพธาขึ้นมากล่าวเปิดงานครับผม"สิ้นเสียงของพิธีกรในงานสองหนุ่มต่างตบเท้าพร้อมขึ้นเวที แต่ทว่าดันก้าวขาขึ้นพร้อมกันจนชนกันเข้า
"มึงจะเบียดทำไมเนี่ย!" สิงห์เอ่ยขึ้นทันทีแต่ก็ไม่ยอมถอย
"มึงก็หลบสิกูจะเดินก่อน"เหมเองก็ไม่ยอมในเมื่อตรงนี้ที่นี่มันเป็นพื้นที่ของตระกูลเขาแล้วคนมาทีหลังจะมาก่อนได้ยังไง สองหนุ่มต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายก็ต้องเบียดกันขึ้นเวที ในเมื่อเบียดกันขึ้นไปแน่นอนว่ามันก็ต้องมีสะดุดกันบ้าง เหมกระแทกไหลใส่สิงห์จนสิงห์เสียหลักเซขึ้นไปก่อน ส่วนตัวเหมราชเดินสง่าขึ้นตามมาติดๆ
"ไอ้ชิบหาย!" สิงห์หันไปด่าเหมเบาๆ เหมทำหน้าเยาะเย้ย อย่างผู้ชนะก่อนที่ตัวของสิงห์จะยืดตัวตรงแล้วกระชับสูทสีดำ พร้อมกับเดินมาหาพิธีกร เสียงปรบมืออีกครั้งเมื่อทั้งคู่หยุดยืนเคียงข้างกันบนเวที
"ต่อจากนี้เราจะให้ผู้บริหารทั้งคู่กล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆ ให้กับแขกในงานนะครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับทั้งคู่แน่นอนว่าเขาทั้งสองอ่านสคริปต์มาเป็นอย่างดีแล้ว โดยที่เหมเป็นคนพูดก่อน
"ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราทั้งสองตระกูลร่วมมือกัน....." คำพูดของเหมทำเอาคนข้างข้างก้มหน้าก้มตาบ่นงึมงำคนเดียวเพราะความหมั่นไส้
"ตอแหล!" ราชสีห์ทำหน้าทำตาทุกครั้งเวลาคนพี่พูดรู้สึกหมั่นไส้จนกระทั่งถึงทีเขาบ้าง
"เชิญคุณราชสีห์ต่อเลยครับ" พิธีกรกล่าวขึ้น ราชสีห์เงยหน้า ดวงตาเพ่งไปที่แขกใบหน้าหล่อเหลาฉีกยิ้มขึ้น
"ผมดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ เกรียงไกรอินเตอร์ไพรส์ และก็รู้สึกยินดีที่ได้รับความต้อนรับที่อบอุ่น..."คำพูดของสิงห์ก็ไม่ต่างกันทำเอาเหมเบ้ปากยกยิ้มเพราะรู้ว่าที่พูดออกมามันในสคริปต์ทั้งนั้น แต่ทว่านอกสคริปต์ก็ย่อมมีเมื่อคนอย่างราชสีห์ นั้นอยากจะแกล้งเหมราชขึ้นมา เพราะหมั่นไส้ในความมาดของอีกคน อยากรู้ว่าต่อหน้าคนอื่นเขาจะเป็นยังไง เมื่อกล่าวเสร็จเท่านั้น สิงห์ก็หันไปกอดเหมทันที
"อะไรของมึงเนี้ย!!"
"อย่าดิ้น!! แสดงให้เนียนหน่อย เขาจะได้รู้ว่าเรารักกัน" คนน้องตัวแสบกอดเหมราชแน่น เสียงปรบมือดังกระหึมขึ้นทันที ส่วนพ่อทั้งสองต่างพยักหน้าแล้วยิ้มภูมิใจคิดว่าลูกชายทั้งสองเข้ากันได้ดี งานเลี้ยงค่ำคืนนั้นลุล่วงผ่านพ้นไป แขกที่มาร่วมงานก็ทยอยกลับ งานเลี้ยงทั้งทีมีหรือราชสีห์แห่งตะวันตกจะไม่เมา เรื่องเหล้ายาไม่ต้องบอกสิงห์ถนัด
"เมาเหมือนหมา!!" เสียงพูดขึ้นเบาๆของเหมราชที่เห็นอีกคนนั่งคอตกอยู่ที่โต๊ะ ถึงจะเมาแต่ก็ยังคงความหล่อเอาไว้
"เดี๋ยวพวกแกสองคนไปบ้านหลังใหม่เลย พ่อจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เดี๋ยวให้ลูกน้องไปส่ง" นายเกรียงไกรบอกลูกชาย เหมราชถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นสภาพอีกคน ลูกน้องขับรถมาส่งเหมราชและราชสีห์ที่บ้าน ตอนนี้ก็กลางดึกแล้ว ลูกน้องมาส่งก็เอาของจำเป็นเข้าบ้านให้ราชสีห์ ไม่นานนายอดิศวรก็ตามลูกชายมาติดๆ
"เดี๋ยวฉันจะส่งไอ้คมมาอยู่กับแก แกจะได้มีคนใช้งาน" นายอดิศวรเอ่ยบอกลูกชายที่นั่งซึมอยู่กับโซฟา งงงวยว่าจะนอนตรงไหน
"ป๊าห้องผมอ่ะ..ห้องไหน"
"กระเป๋าแกอยู่ไหนก็ห้องนั้นแหละ อีกอย่างแกอย่าก่อเรื่อง รู้จักเป็นผู้นำทีดี ไปนอนได้แล้วฉันจะกลับแล้ว" เมื่อพ่อบอกแบบนั้นราชสีห์ก็พยักหน้า ส่วนเหมราชก็ขึ้นข้างบนไปก่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเหนื่อยและเพลีย ไม่นานร่างสูงก็ค่อยๆจับราวบันไดบ้านเดินขึ้นมาช้าๆ
"ชิบหาย!ไม่มีใครช่วยกูสักคนเด็กในบ้านตายห่ากันหมด กูตกบันไดคอหักใครจะบริหารงาน" ทั้งเดินทั้งบ่นจนมาถึงข้างบนบ้านที่มี3ห้องนอนแต่ทว่าไปเปิดห้องไหนก็ล็อค แต่มีอยู่ห้องที่ไม่ได้ล็อค สิงห์เปิดเข้าไปแล้วตรงไปที่เตียงทันทีโดยไม่รู้ว่ามีอีกคนนอนอยู่
ตุ๊บ!!
สิงห์ทิ้งร่างลงข้างๆเหมที่นอนตะแคงหันหลังจนอีกคนสะดุ้งตื่น
"เหี้ย!! มึงเข้ามาทำไมเนี่ย"
"เอ้า!!ก็ห้องอื่นล๊อคจะให้กูนอนไหน"
"มึงก็นอนข้างล่างสิ!" เหมเงยหัวขึ้นมาพูด แสงไฟในห้องพอสลัวสิงห์หลี่ตามองพอลางๆ ด้วยความเมาจึงพูดขึ้น
"โอ้ย!!อย่าเยอะพ่อกูกับพ่อมึงอยากให้เราเอากัน ไหนๆงานเลี้ยงเปิดตัวก็ผ่านแล้วตอนนี้ก็เข้าหอเรามาทำกิจกรรมสนุกๆกันไหนจ๊ะ..เมียจ๋า" พูดเพียงแค่เท่านั้นร่างของสิงห์ก็หล่นจากเตียงทันที พร้อมกับนิ่งสนิทจนเหมเองตกใจ
"ไอ้สิงห์!!..ตายหรือเปล่าวะ ชิบหาย!!" เหมรีบลงจากเตียงแล้วเปิดไฟตรงหัวเตียงตรงมาที่ร่างที่นอนแผ่หราอยู่ แต่ก็ต้องโล่งใจเมื่อได้ยินเสียง
กร๊อกกก ฟี~~~
สิงห์หลับสนิท น้ำก็ไม่ได้อาบแถมเหมยังให้นอนท่านั้นโดยไม่เอาผ้าห่มให้ ส่วนตัวเหมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงสบายใจเฉิ่ม
รุ่งเช้า
แสงแดดอ่อนๆทอแสงลอดผ้าม่านมายังห้องนอนราชสีห์ที่พึ่งลืมตาตื่นค่อยๆพยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้นพร้อมกุมหัว
"กูนอนตรงนี้ได้ไงวะ" ว่าแล้วก็กวาดสายตาไปรอบๆห้องเห็นกระเป๋าใบใหญ่ของตัวเองวางอยู่จึงจัดการเอาเสื้อผ้าออกมาอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จคนตัวสูงก็คิดจะจัดเก็บข้าวของของตัวเอง แต่พอเปิดตู้เท่านั้น
"เชี้ย!! ของไอ้หมอนั้นอยู่ที่นี่ได้ไงวะ" เมื่อคิดได้ก็รีบเดินลงมาจากบนบ้านทันที มองหาเหมราชจนทั่วบ้าน แต่กลับเจออีกคนยืนทำกับข้าวอยู่
"เหอะ!!มิน่ากูได้กลิ่นอะไรเหม็นๆ"
"ปากหมา!!เขาเรียกหอม มึงนี่น่าจะจมูกมีปัญหาเท่าๆกับสมองมึงอะ" คุณชายอย่างเหมราชนอกจากสมองจะดีแล้วการฝีมือยังดีอีก ตอนที่เขาเรียนอยู่ต่างประเทศตัวเขาก็ทำกับข้าวกินเองตลอด
"เสื้อผ้ามึง..ไปอยู่ในห้องกูได้ไง" เหมเหลือบสายตาขึ้นมามองคนที่ยืนพ้นลมออกจากปาก
"ห้องมึงที่ไหน ห้องกูต่างหาก เมื่อคืนกูลืมล๊อคห้องเถอะ มึงถึงเข้าได้”
“อ้าว!!ก็พ่อกูบอกกระเป๋ากูอยู่ห้องไหนก็ห้องนั้นนิ” เมื่อคิดถึงคำที่พ่อบอกก็พอเริ่มเข้าใจ เหมเงียบเพราะเมื่อคืน มันยังเรียกเขาว่าเมียจ๋าอยู่เลย สงสัยสมองมันจะฝ่อจริงๆ แต่ราชสีห์กับยืนคิดว่าเมื่อคืนเขาขึ้นบ้านยังไงก่อนเพราะในหัวมันเบลอไปหมด