น้อยใจเมีย

1351 Words
สองหนุ่มนัดพบลูกค้า ณ ร้านอาหารหรูลูกค้าที่มาก็นักธุรกิจที่ซื้อสินค้าจากเกรียงไกรอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่สั่งมาในนามของเกรียงไกรนั้น ลูกค้าก็รับไปขายต่อ แต่คราวนี้สินค้าที่จะสั่งงวดหน้ารู้สึกว่าราคาจะแพงเพราะต้องการสั่งทำพิเศษ ถ้าต้องการกำไรมากก็ต้องเลี่ยงภาษี "คุณเหมพอจะจัดการได้ไหมครับ ลูกค้าของผมต้องการให้เร็วที่สุด อีกอย่างไม่อยากให้สินค้าเสียหาย" เหมราชหน้านิ่งนั่งฟังก่อนจะตอบไป "ครับ!ผมจะจัดการให้ แต่เรื่องราคาทางนั้นสู้ไหวไหม ถ้าอยากได้ของเร็วราคาก็คงสูงน่าดู" "เรื่องราคาไม่มีปัญหา ขอแค่ได้สินค้าเร็วเพราะเขาต้องการให้ทันวันขึ้นบ้านใหม่" สินค้าที่ว่าเป็นเตียงนอนหลุยส์แต่ที่พิเศษคือต้องสั่งทำให้เหมือนกับสมัยนั้นและมีชิ้นเดียวในโลก ซึ่งบอกเลยว่าราคาแพงมหาศาล แต่ถ้านำเข้ามาได้ อีกทั้งเลี่ยงภาษี กำไรก็ต้องเท่าตัว แต่ถ้าผิดพลาดความเสียหายก็มากโข ดังนั้นคนที่นั่งฟังข้างๆก็กระซิบทันที "มึงแน่ใจนะว่าทัน ไหนจะสั่งทำอีก มึงก็บอกเขาไปซื้อที่ห้างสิ ในแอ๊ปออนไลน์ก็มีหมื่นกว่าบาท"เหมที่ได้ฟังก็หันมามองหน้าลูกค้าพลางอมยิ้มกลัวว่าเขาจะได้ยินก็สามีโง่ขนาดนี้ "เงียบ!" เหมหันไปกระซิบเบาก่อนจะหันมาเชื้อเชิญลูกค้าทานอาหาร ผ่านไปครู่ใหญ่เมื่อเจรจากันเรียบร้อยลูกค้ารายนั้นก็ขอตัวกลับเหลือแค่สองหนุ่มเท่านั้น "ไอ้สิงห์! สมองมึงไม่มีรอยหยักจริงๆ ไม่มีสมองก็เงียบๆไป ไม่ต้องเสนอ!" พูดแล้วก็เตรียมตัวลุกขึ้นแต่สิงห์ราชสีห์ก็พูดขึ้นอีก "กูแค่กังวลถ้าหากไม่ทันตามสัญญาบริษัทโดนปรับเสียหายมา มึงจะเดือดร้อน กูไม่ได้โลภเหมือนมึงนิคิดแต่จะได้ ไม่คิดถึงผลเสีย กูเป็นห่วงหรอก"พูดแล้วก็เดินหนีทันที พร้อมหน้าบึ้งจนเหมมองตาม เมื่อเข้ามานั่งที่รถสิงห์ก็เงียบ ไม่พูดไม่จาทั้งๆที่เคยเป็นคนยั่วโมโหเก่ง เป็นคนล้อเล่นเก่งแต่คราวนี้คงงอนที่เหมบอกว่าไม่มีสมอง พอเข้ามาในห้องทำงาน เหมก็แอบช้อนตามองคนที่นั่งอีกโต๊ะร่วมห้อง ไร้เสียงคุยเสียงถามนั่งศึกษาดูงานเงียบๆจนแปลกใจ จนเหมต้องเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน "เย็นนี้กูจะลงไปดูบ่อน ไปด้วยไหม" ถึงจะถามสามีไปแบบนั้น แต่คนน้องก็ยังเงียบอยู่ "เป็นใบ้หรือไง ถามมีหูหรือเปล่า" "มี!!"คำตอบสั้นๆ ของสิงห์ราชสีห์ แต่เหมกับขมวดคิ้ว นี่มันโกรธคำไหนกันแน่ เพราะก่อนหน้านี่ดุด่าขนาดไหนมันก็ไม่เคยโกรธ จนกระทั้งเสียงมือถือของสิงห์ดังขึ้น ครืดดดด "เอ่อว่าไง กำลังคิดถึงพอดี" สิงห์กดรับแล้วก็เดินออกไปคุยนอกห้อง แต่คำว่าคิดถึงของสิงห์ทำเอาเหมต้องชะงักพร้อมความสงสัยเมื่อสิงห์เดินออกห้องไปแล้ว เหมก็ชะเง้อคอยาวมองตาม "ทำไมต้องออกไปคุยข้างนอกวะ" ความสงสัยที่มีในหัวแต่ก็ยังไม่กล้าตามออกไป ได้แต่มองตามทางชะเง้อคอมอง ผ่านไปสักพักสิงห์ก็ยังไม่เข้ามา ยิ่งทำให้เหมสงสัยใหญ่ ว่าปลายสายนั้นเป็นใครกันแน่ ด้วยความอึกอัด "ทำไมคุยนานจังวะ"ถึงจะชะเง้อคอแล้วชะเง้ออีกสิงห์ก็ยังไม่เข้ามาจนกระทั้งเหมอดไม่ได้ที่จะออกไปดู และก็เห็นสิงห์ยืนคุยอยู่ระเบียงตึกซึ่งมีกระจกใสรายล้อม "เบื่อสิ!! ทำไงได้ก็ต้องทนแหละ เอ่อ..คิดถึงเหมือนกันอยากกลับบ้านแล้วเนี่ย!" ประโยคที่สิงห์คุยกับปลายสายและเป็นประโยคที่เหมเดินออกมาแล้วได้ยิน จนรู้สึกว่าสามีจะนอกใจหรือเปล่า "มึงคุยกับใคร!" สิงห์สะดุ้ง "เอ่อ..แค่นี้ก่อน"สิงห์วางสายก่อนจะหันหน้ามามอง "มีอะไรอีกละพ่อคนมีรอยหยักในสมอง มีอะไรจะใช้"คำพูดของสิงห์เหมือนเป็นการประชด ส่วนปลายสายที่โทรมานั้น คือแฝดพี่น้องเพื่อนซี่ ที่เหมไม่รู้จัก "ไม่มี! เห็นออกมานาน คุยกับใคร?" สิงห์กอดอกมองหน้าเหมที่กำลังจ้องหน้าเขาอยู่ "แล้ว...ทำไมกูต้องบอกด้วย เรื่องส่วนตัว" คำตอบของสิงห์ทำเอาเหมหงุดหงิด ยิ่งคนน้องไม่ยอมบอกยิ่งอยากรู้ "กูต้องรู้สิ เผื่อมึงหักอก.เอ้ย หักหลังกู" สมองมันสั่งปากก็ไวก็เลยหลุดพูดไปจนคนที่ยืนต่อหน้าอย่างสิงห์นั้นยกยิ้ม "เอ้!!! หึงเหรอจ๊ะ" ยิ่งพูดแบบนี้คนพี่ยิ่งหน้านิ่งเข้าไปใหญ่ มันคงได้ทีที่สิงห์ราชสีห์จะเอาคืนบ้าง "ก็..เด็กเก่าไง ก็ธรรมดาละนะคนมันหล่อก็ต้องมีเด็กติดบ้าง" คำพูดประชดของสิงห์เล่นเอาเหมหน้าบึ้งสีหน้าหงุดหงิดขึ้นทันตา จนสิงห์ต้องเอียงหัวซ้ายทีขาวทีมองหน้าเมียก่อนจะพูดต่อ "เพื่อนกูโทรมา แค่คิดถึงไม่ได้ตั้งวงนาน เด็กที่ไหนไม่มีหรอกกูพูดเล่น ใครจะไปกล้านอกใจเมียละจ๊ะ เมียกูฉลาดขนาดนี้ ดูสิรอยหยักไม่ใช่มีแค่สมองนะ ลามมาที่หน้าแล้ว โอ้..ใต้ตายิ่งหยักมาก" พูดแล้วก็เอื้อมมือไปจับหน้าของเหมจนเหมต้องเอามือมาจับบ้าง คำพูดของสิงห์ทำเอาเหมไม่มั่นใจ "ไอ้บ้า! รอยหยักพ่อมึงสิ ไม่มีหรอกกูฉีดโบท๊อกตลอด" สิงห์ที่เห็นคนพี่ดูกังวลก็อดหัวเราะไม่ได้ "มิน่าละ ผิวดีขนาดนี้ที่แท้ก็พึ่งหมอฮ่าๆ ..."เมื่อยั่วคนพี่สำเร็จก็เดินหนีทันทีปล่อยให้เหมยืนกังวลกับใบหน้าหล่อๆอยู่ลำพัง ตกเย็น สองหนุ่มกลับมาที่บ้านก่อน ในเมื่อวันนี้ทั้งสองต้องลงพื้นที่ไปดูอีกธุรกิจสีเทาต้องบอกก่อนว่าเงินดีไม่น้อย แต่ศัตรูก็มีมากเรื่องขัดผลประโยชน์ก็มีเยอะ "ไปที่ไหนก่อน"เสียงสิงห์ถามขึ้นเมื่อเหมนั้นนั่งดูipadอยู่ "ไปใกล้ๆก่อน..เพราะลูกค้าเยอะ ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีคนมาก่อกวนบ่อยๆ" สิงห์ถอนหายใจจนเหมต้องเงยหน้าขึ้นมามอง "เป็นไร ถอนหายใจทำไม" สิงห์หันมามองหน้าเหมอีกครั้ง "ลูกน้องกูที่พ่อจะส่งตัวมาให้ยังไม่มาเลย ไปไหนถ้ามีพวกมันไปด้วยกูก็อุ่นใจ" "ก็คนของกูสี่ห้าคนไปด้วยไม่อุ่นใจหรือไง" สิงห์มองไปยังลูกน้องของเหม ลูกน้องของเหมคงจะเหมือนเหมไม่รู้มันจับปืนสักทีไหมดูท่าแต่ละคนหน้าขาวเหมือนมันพึ่งพอกหน้ามา "อืม!!! อุ่นก็อุ่น"ว่าแล้วก็ถึงเวลาออกบ้าน ก่อนไปสิงห์ราชสีห์ก็ไม่ลืมตรวจสอบอาวุธ ซองสะพายไหล่ที่มีปืนพกสั้นติดตัวถึงสองกระบอก แต่ก็ไม่ลืมถามเหม "มึงออกไปแบบนี้มึงมีปืนติดตัวไหม?" "มีสิ??" "เอาไว้ไหน" "ในรถไง!" สิงห์ที่ได้ยินถึงกับพ้นลมหายใจทันที "มึงเอาไว้ในรถเวลาเกิดเรื่อง รถมึงวิ่งมาช่วยเหมือนทรานร์ฟอร์มเมอร์สหรอ...มึงทำไมได้ใช้ซองเหมือนกู ถ้าไม่ถนัดพก" พูดแล้วก็เปิดโชว์เมีย จนเหมต้องถามต่อ "ก็ดีนะ..มันใส่ได้2กระบอกใช่ไหม" "เปล่า...3!!" "ใส่ตรงไหนวะ3!" "ข้างล่าง!" เหมพยายามหาจุดที่3แต่ไม่เจอจนกระทั้งสิงห์จับหัวของเหมแล้วให้มองที่เป้าตัวเอง "กระบอกที่3อยู่นี่ ใช้กับมึงคนเดียว!!!" "สัส!! ปล่อยหัวกูได้แล้ว หื่นซะไม่มีมึงอ่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD