หลังจากออกมาจากห้องของสิงห์ เหมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเข้าบริษัท ซึ่งก็ไม่ต่างจากสิงห์เท่าไหร่นัก สองหนุ่มลงมาจากห้องเวลาไล่กัน เช้านี้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มปลา กาแฟ ไส้กรอก ตามสไตล์อาหารเช้าเบาๆ เมื่อนั่งลงที่โต๊ะ ต้องบอกก่อนว่าบ้านนี้เมียเป็นใหญ่เพราะดูจากการนั่งโต๊ะทานข้าวเหมราชเป็นคนนั่งหัวโต๊ะตลอด
"ป้าวัน..ทำอาหารน่าทานนะเนี่ย หอมด้วย" เมื่อหย่อนก้นลงกับเก้าอี้สิงห์ราชสีห์ก็เอ่ยชมทันที แต่ไร้เสียงขัดแย้งของอีกฝ่าย จนสิงห์ต้องช้อนตาขึ้นมา แต่เหมนั้นก็เอาแต่เงียบ นั่งก้มหน้าทานอย่างไม่ใยดี
"อร่อยหรือเปล่าวะ ...มึงทานเหมือนตายอดตายอยาก" ถึงจะพูดไปแบบนั้นเหมก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ทำเอาสิงห์นึกหมั่นไส้ นี่มันจะนิ่งไปไหน
"อย่างว่าแหละ เมื่อคืนมึงคงเหนื่อย....ก็มึงครางซะขนาดนั้น" แต่คราวนี้ประโยคนี้ทำเอาเหมต้องช้อนสายตาดุขึ้นมามองบ้าง สิงห์นั่งมองหน้าทำหน้าทำตาใส่จนเหมเองอดไม่ได้
"ครางพ่อมึงสิ!!...รีบๆแดกนั่งโต๊ะอาหารไม่มีใครสอนมารยาทบนโต๊ะให้มึงหรือไง นิละนะเขาเรียก..สันดาน" พูดประโยคเจ็บจี๊ดให้สิงห์ไปแล้ว ก็ก้มหน้าทาน ส่วนสิงห์แทนที่จะโกรธดันยิ้ม แล้วตอบโต้กลับทันที
"ก็สอนนะ เจ้าคุณพ่อกูบอกให้พูดจาดีๆ ห้ามใช้คำหยาบ เพราะมันไม่มีมารยาทหนะขอรับ" สิงห์พูดยั่วจนเหมหมดทางโต้เถียง ได้แต่เหลือบสายตาขึ้นมองแล้วก็เอาผ้าเช็ดปากก่อนจะลุกออกไป
"กูอิ่มแล้ว..จะไปรอที่รถ"
"อะไรวะ...กูยังไม่ได้กินเลย" เสียงของสิงห์บ่นขึ้นก่อนจะตักข้าวเข้าปากสองสามคำแล้วรีบวิ่งตามออกไปทันที
ณ บริษัท
"การขนส่งมีปัญหาตรงไหนไหม" เสียงของเหมเอ่ยถามยังเลขาสาวส่วนตัวที่ยืนรอเอกสารที่เหมต้องเซ็น
"ไม่มีค่ะ ลูกค้าตอบรับดีสินค้าเป็นที่น่าพอใจ ทางเราจัดส่งถึงหน้าบ้านเรียกความประทับใจได้มากค่ะ" เหมได้ฟังก็พยักหน้าพร้อมกับอ่านเอกสารตรงหน้าเงียบๆ ด้านสิงห์เขากำลังศึกษาเกี่ยวกับบ่อนการพนันนอกชานเมืองรายชื่อลูกค้าที่อยู่ในระบบ ipad สิงห์ขมวดคิ้วหนาอ่านรายละเอียดก่อนจะพูดขึ้น
"ผีพนันเยอะเหมือนกันแฮะ!" เสียงพูดเบาๆกับตัวเองก่อนจะกดดูอย่างอื่น บ่อนลับๆที่ลักรอบเปิดไม่ได้มีแค่ที่เดียว มีถึง3ที่ แต่อยู่คนละเขตพื้นที่กันสิงห์ตรวจดูทุกอย่าง เพราะเขาเองก็ต้องลงไปดูไปสัมผัส เนื่องจากธุรกิจสีเทานี้ต้องการขยายสาขาไปยังภาคใต้อีกต่างหาก พื้นที่ไหนที่พ่อของเขาสามารถควบคุมได้ ก็เป็นที่หมายใหม่ของธุรกิจนี้ เมื่อดูไปสักพักแน่นอนละว่าเขาย่อมมีคำถามในหัว สิงห์เงยหน้าขึ้นมามองเหมคนที่ก้มเซ็นเอกสาร สิงห์ลุกจากเก้าอี้ตรงดิ่งมาที่เหมและเลขาสาวสวย ก่อนจะหยุดยืนข้างตัวเหมราช แล้วโน้มตัวต่ำพร้อมipad
"เมียจ๋าตรงนี้..!!"
เปี๊ย!!!
เสียงมือหนาตบไปที่ปากของสิงห์ทันที ถึงแม้ว่าสิงห์จะยังพูดไม่จบก็เถอะ
"มึงตบปากกูทำไมเนี้ย..กูเจ็บนะ" เมื่อสิงห์ราชสีห์พูดแบบนั้นแล้ว เขาก็ยืดตัวตรงเอามือจับไปที่ริมฝีปาก ส่วนเลขาคนสวยก็ยืนอมยิ้ม จนเหมต้องหันมามองหน้า
"เธอออกไปก่อน..ไป มีอะไรเดียวฉันเรียก" เมื่อสั่งเลขาแล้วเหมราชก็ยื่นเอกสารส่งให้ เลขาคนสวยเดินออกจากห้องเท่านั้น เหมก็จัดการสิงห์ทันที
"มึงแหกตาดูไหมว่ามีคนอยู่ ก่อนจะพูดอะไรคิดซะบ้าง" คำพูดของเหมทำเอาสิงห์สงสัย ไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดไปกันแน่
"กูพูดอะไรผิด! ก็มึงเป็นเมียกูอ่ะ คนเขารู้ทั้งบริษัทหรือเปล่าวะ เขาคงไม่คิดว่า การผูกสัญญากันระหว่าง เพธากรุ๊ปกับเกรียงไกร จะเอากูกับมึงมาเล่นขายของเป็นพี่น้องท้องติดกันหรอกใช่ไหม...แม่งตบมาได้ฟันกูหักหรือเปล่าวะเนี้ย" ทั้งพูดทั้งบ่น จนเหมเองอดไม่ได้ที่จะตอบกลับ ถึงแม้มันจะเป็นความจริงก็เถอะ แต่เรื่องแบบนี้มันควรอยู่ลับหลังคนอื่น
"กูไม่เถียงเรื่องพ่อกูกับพ่อมึง อยากให้เราได้กัน ที่จริงกูแค่เล่นตามน้ำ มึงเองเหอะเ****นจนทนไม่ไหวฉวยโอกาสตอนกูเมา อีกอย่างภาพลักษณ์มึงรู้จักหรือเปล่า มึงเรียกกูเมียจ๋า เขาจะได้เอาไปล้อทั้งบริษัท ไอ้โง่" สิงห์ชะงัก พร้อมเพ่งพิจารณาภาพลักษณ์ของคุณชายที่ตอนนี้ใส่สูทผูกไททรงผมเรียบหรู ใบหน้าขาวผ่องจมูกโด่งรับเรียวปากหยัก ดูแล้วก็ทำหน้าทำตาทะเล้นล้อเรียน
"เออวะ...ภาพลักษณ์จริงๆ แต่กูดันจำได้..ไอ้ภาพลักษณ์เมื่อคืน สิงห์อ้า สิงห์อ๊ะอ๊ะ ซี๊ดดด"
ตุบ
สิงห์ยังพูดไม่จบ แฟ้มเอกสารก็ลอยมาทันที แต่สิงห์ร้ายหลบทันซะก่อน
"เถียงไม่สู้ก็ใช้แต่อารมณ์ ระวังหน้ายับนะครับคุณเมีย!"
"มึงออกไปเลย..ไอ้เวร!"
เสียงก่นด่าตามหลัง เมื่อสิงห์ราชสีห์วิ่งหลบระเบิดออกมาข้างนอก ระเบิดลูกนั้นก็จากเมียสุดที่รักที่พึ่งเข้าหอลงโรงเมื่อคืนสดๆร้อนๆ แต่ไหงเป็นว่ารสชาติความหวานนั้นไม่มีหลงเหลือแม้แต่น้อย
"กูอยากให้พนักงานมาเห็นภาพลักษณ์มึงตอนนี้จัง แม่ง..กดขี่ข่มเหงขนาดไหน ชิบหาย" พูดแล้วก็ปรับลุคให้ดูน่าเกรงขามทันที ราชสีห์ใบหน้าของเขาจะดูดุดัน คนอื่นที่ไม่รู้จักก็อาจไม่กล้ามองหรือสบตา สิงห์เดินดูทั่วบริษัทพนักต่างโค้งคำนับ ชายหนุ่มหน้านิ่ง ล้วงกระเป๋ายืนมองการทำงานของพนักงานแผนกต่างๆ จนกระทั้ง
ครืดด
สิงห์ล้วงกระเป๋าหยิบมือถือขึ้นมากดรับ เมื่อปลายสายนั้นขึ้นชื่อว่า ป๊า!
"ครับ"
(เป็นไง แกก่อเรื่องอะไรหรือเปล่า)
"โทรมาเนี่ย จะถามสารทุกข์สุขดิบลูกชายไม่มีอะ ใจคอป๊าจะไม่เป็นห่วงผมหรือไง” ปลายสายนั้นเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อ
(ห่วง พรุ่งนี้ไอ้คมกับไอ้จอมจะขึ้นไปดูแลแก)
“ว๊าว..ขอบคุณคราบ ผมนึกว่าป๊าจะลืมแล้วซะอีก” คมและจอมเป็นลูกน้องที่สิงห์ไว้วางใจ จะว่าไปเป็นลูกน้องที่ตามใจนายสุดๆ กินเที่ยว หรือจะไปไหน ไปกัน อีกอย่างสิงห์เลี้ยงลูกน้องให้เป็นกันเองไม่มีสูงต่ำทำตัวตามสบาย
(อยู่ที่นั้นก็อย่างก่อเรื่องละ เข้าใจไหม)
“คราบบบ ป๊า บอกครั้งที่ร้อยแล้ว”
เมื่อวางสายพ่อแล้วสิงห์ราชสีห์ก็ขอเดินชมบริษัทสักพัก ไม่นาน เหมราชก็ออกมาจากห้อง พร้อมเลขาสาวสวย เมื่อสิงห์เห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปดักแล้วถามขึ้น
“ไปไหน!”
“กูมีนัดทานข้าวกับลูกค้า”
“อ้าว!!แล้วกูละ” เหมราชหันมามองหน้า ก่อนจะหลับตาค้อนใส่
“มึงต้องให้บอกอีกหรอ..ไอ้ควาย”ประโยคท้ายไม่ได้ออกเสียงเพียงแค่ทำปากเท่านั้น เพราะเลขาคนสวยยืนอยู่ข้างหลัง สิงห์ที่เห็นแบบนั้นก็ได้แค่ยิ้ม กัดฟันยิ้มก่อนจะตอบ
“ครับ!” เมื่อเหมเดินสวนนำหน้าออกไปก่อน สิงห์จึงพูดขึ้น
“กดขี่กูเข้าไปคิดว่าถิ่นตัวเอง ...กลับบ้านก่อนเถอะมึง กูจะกด และขี่มึงเอง เหอะ....”