แค่อ้อนเมีย

1418 Words
สองหนุ่มออกจากบ้านมายังบ่อนการพนัน ราชสีห์เดินเคียงคู่กับเหมราชพร้อมกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ด้านในมีทั้งโต๊ะเล่นมากกว่า10โต๊ะ ไพ่ ไฮโล มีให้แทงมากกว่า10อย่าง อีกทั้งโปรโมชั่นของทางบ่อนนั้นก็เรียกลูกค้าได้มาก จนทำให้ฝั่งคู่แข่งต้องส่งคนเข้ามาก่อกวนอยู่บ่อยครั้ง "คุณเหมวันนี้มาเองเลยหรือครับ ปกติจะส่งคนมาดู" มาเฟียคุมบ่อนโค้งคำนับก่อนจะพูดขึ้น แล้วเชิญเหมราชเข้าไปข้างในห้องรับรอง หลังจากนั้นลูกน้องคนสำคัญก็เข้าพบ เหมราชแนะนำราชสีห์ให้ทุกคนรู้จัก "นี่คุณราชสีห์ จะมาเป็นนายพวกแกอีกคน คำสั่งเขาก็เหมือนคำสั่งฉัน ดังนั้นเขาจะสั่งให้ทำอะไรก็ไม่ต้องรอฉัน จัดการได้เลย" เมื่อเมียพูดแบบนั้นสิงห์ถึงกับยกยิ้มมุมปาก เหล่าคนคุมบ่อนต่างรายงานปัญหาต่างๆให้คนเป็นนายฟัง เหมราชไขว้ห้างเท้าคางฟังเพราะใช้ความคิด ส่วนสิงห์ราชสีห์นั้น ก็เดินสำรวจห้องรับรองที่อยู่ด้านบนตึกแต่ทว่า ห้องนั้นเป็นห้องกระจกถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ คนข้างนอกหรือข้างล่างจะมองขึ้นมาไม่เห็นด้านใน แต่คนที่อยู่ในห้องกับมองเห็นทุกอย่าง เช่นตอนนี้ สิงห์กำลังจับตามมองคนกลุ่มหนึ่ง ที่เดินวนเวียนหลายโต๊ะแต่ไม่ยอมเล่น ท่าทางของพวกมันเหมือนหน่วยสอดแนมชายฉกรรจ์ราว10คน หยุดยืนมองการเล่นของแต่ละโต๊ะ และก็ทำแบบนั้น จนกระทั้ง "ไอ้เหม!..กูว่าวันนี้น่าจะมีงานเลี้ยงนะ มึงมีแขกแน่"สิงห์ราชสีห์ถึงจะเป็นคนทะเล้นดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เรื่องไหวพริบสังเกตคนนั้นเขาก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน "ยังไงวะ!"เหมราชหันมาถาม ก่อนที่สิงห์จะกวักนิ้วเรียกให้เหมมาที่กระจกแล้วชี้ไป ที่กลุ่มชายฉกรรจ์นั้น "มึงเห็นไหม กลุ่มนั้นกูสังเกตมาสักพักละ แม่ง! ไม่ลงเล่นสักโต๊ะ แต่จับกลุ่มคุยกัน ดูท่าไม่น่ามาเล่น ปกติคนเล่นมันไม่น่าใช้หลักคำนวณนะ"เมื่อสิงห์พูดแบบนั้นเหมก็สั่งลูกน้องลงไปดู สองหนุ่มก็ยืนมองจากด้านบน เมื่อลูกน้องลงไป ไอ้พวกนั้นดูท่าจะอยากมีเรื่องทำเก้ๆกังๆใส่ ผลักอกกันไปมา ทำเอาพวกเล่นค่อยๆวงแตก ผ่านไปไม่นานกลุ่มนั้นก็วางมวยกับหมัดใส่พนักงานกับบอดี้การ์ดคนคุมบ่อน เหตุการชุลมุนวุ่นวายผีพนันวิ่งกระเจิงออกจากบ่อน พร้อมหอบเงินหนีก็มี ทั้งโต๊ะทั้งข้าวของกระจุยกระจายเกลื่อน "เชี้ยเอ้ย! กูว่าละ...มึงรออยู่นี้กูจะลงไป" สิงห์เห็นท่าจะบานปลายจึงสั่งเหมรอข้างบนส่วนตัวก็ขอลุยด้านล่างเมื่อลงไปแล้วก็จัดการ ทั้งเตะ ต่อย หมัดศอก ท่าทางของสิงห์ดูสันทัดไม่น้อย แม้จะโดนสวนบ้างแต่ไม่ถึงกับล้ม จนกระทั้งสิงห์ต้องควักปืนสั้นออกมาแล้วจ่อไปที่ชายอีกคนที่เข้ามาหาเรื่อง "หยุด!!ถ้ามึงยังไม่อยากตาย กูบอกไว้ก่อนระยะแค่นี้กูยิงไม่พลาดแน่" พวกที่มาไม่ได้พกอาวุธสิงห์พอเดาได้ว่า คงมาแค่ก่อกวนให้ลูกค้าหนีและเสียขวัญเสียความมั่นใจเท่านั้น ถ้าเกิดมันจะมาฆ่ามันต้องมีอาวุธ "เฮ้ย!! กลับ เจ้าถิ่นแรงโว้ย" ไอ้หัวหน้าที่โดนปืนจ่อเล็งกระบานนั้นสั่งลูกน้องที่มันเอามา แล้วพากันค่อยๆถอยทับ ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นชีวิต แต่ก็ถือว่ามันทำสำเร็จ เพราะตอนนี้ ลูกค้า หนีหายเกือบหมด ส่วนที่เหลือก็หลบตามซอกหลืบเหตุการณ์สงบก็วิ่งหนีออกไป แต่สิ่งที่เสียหายคือ มือดี หอบเงินหนีไปด้วย สิ่งของกระจ่ายเต็มพื้น พนักงานคนคุมก็บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ต่างจากสิงห์ที่ปากแตกเพราะโดนหมัดสวนมา สิงห์เดินขึ้นมาที่ห้อง ก่อนคนอื่น เมื่อเปิดประตูเข้ามาเท่านั้น "โอ๊ะ!!! โอ้ยยยย เจ็บบ" เหมราชมองไปทางประตูเห็นสิงห์ทรุดตัวล้มลง เหมก็ตกใจเพราะเขาอยู่ข้างบนแม้จะเห็นเหตุการณ์แต่มันก็ใช่ว่าจะเห็นทุกอย่าง "ไอ้สิงห์! เป็นไรมากเปล่าเนี้ย" เหมราชรีบไปพยุงร่างของสิงห์ขึ้นมาก็เห็นว่าใบหน้ามีรอยช้ำอีกทั้งปากแตก แต่ไม่รู้ว่ามันเจ็บตรงไหนอีก "กูแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก" พูดแล้วก็ทำท่าทางอ้าปากผงาบหายใจแรง เหมราชทำหน้าไม่ถูก ลูบคลำไปทั่วร่างก็ไม่มีรอยเลือด "มึงเจ็บตรงไหนเนี่ย เลือดก็ไม่มี ไปโรงบาลดีกว่าไหม" คุณชายเหมราชผู้ไม่เคยต่อยตี ก็ได้แต่เปิดดูตามเนื้อตัวคนน้อง ส่วนสิงห์ก็แอบยิ้มเมื่อเหมดูลนๆ "โอ้ยยย กูหายใจไม่ออกแล้ว แคร็กๆ กูจะตายแล้ว" "ไอ้สิงห์ มึงอย่าล้อเล่นสิวะ" "กูไม่ได้ล้อเล่น กูเจ็บจริงๆ อ้าา" สิงห์ตัวร้ายพูดแล้วก็เอื้อมมือมาจับแขนของเหม "มึงเจ็บตรงไหนมึงก็บอกสิ!!" เหมราชขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าซีดเผือก เมื่ออีกคนทำท่าทำทางเหมือนใจจะขาด ดิ้นพลากๆ อยู่กับเก้าอี้ "กูเจ็บตรงนี้!!" มือของสิงห์จับมือของเหมแล้วเลื่อนต่ำลงไปที่เป้า ตอนนี้ลำเอ็นนั้นมันแข็งจนนูนขึ้น เหมที่สัมผัสก็ขมวดคิ้วอีกรอบ ก่อนจะด่าสิงห์แรงๆ "ไอ้เวรเอ้ย!! ไอ้ชิบหาย คนอุตส่าห์เป็นห่วง มึงเล่นอะไรไม่รู้เวล่ำเวลา" "ที่แรกกูแค่อยากแกล้งมึงแต่มึงก้มตัวลงมาใกล้กู ดูคอเสื้อมึงสิ มึงเปิดกระดุมโชว์ใคร ที่สำคัญกลิ่นตัวมึงหอม กู....เ****น!!!" "เหี้ย!!!" เหมสะบัดแขนของสิงห์ออกแล้วเดินไปนั่งอีกโต๊ะส่วนสิงห์ก็ลุกนั่งตัวตรง เอามือมาเตะที่ริมฝีปาก ที่ตอนนี้มันมีรอยแตก "กูว่าเป็นแบบนี้บ่อยๆ มีหวังเสียลูกค้าแน่" สิงห์พูดขึ้นทำเอาเหมนั้นครุ่นคิด ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้ลงมา จะส่งก็แต่ลูกน้องลงมาดูความเรียบร้อย "มึงคิดว่ายังไง!!" เหมถามกลับมายังสิงห์ "อันดับแรกต้องรู้ให้ได้ใครส่งมันมา ปกติแล้วส่วนมากจะมีแต่ขาประจำมาเล่น ส่วนขาใหม่ก็นานที ดังนั้นมันดูไม่อยาก พวกหน้าใหม่ ให้คุมเข้มกว่านี้ กูว่าคนที่มาก่อกวนบ่อยๆก็คงพวกเดิมๆ แค่มาปั่นป่วนให้วงแตกเท่านั้น" เหมที่นั่งฟังก็พยักหน้าเบาๆ ในเมื่อวันนี้เกิดการเสียหาย เหมก็สั่งพนักงานจัดเก็บทุกอย่าง เรียกทุกคนเข้าพบ พร้อมจะปรับเปลี่ยนระบบใหม่ เมื่อหาทางออกร่วมกันแล้วก็ได้ข้อสรุป ส่วนเรื่องตามสืบต้นตอสิงห์จะเป็นผ่านจัดการ หลังจากจัดการปัญหาเสร็จสองหนุ่มก็กลับมาบ้านตามเดิม "ยาอยู่ไหน กูจะทำแผล"เมื่อมาถึงบ้านสิงห์ก็จัดการถามขึ้นทันที "รออยู่นี่แหละเดี๋ยวไปหยิบให้" น้ำเสียงของเหมดูไม่ห้วนเหมือนทุกครั้งจนราชสีห์นึกแปลกใจ ใบหน้าหล่อย้นคิ้วพลางเบ้ปาก แล้วหย่อนก้นลงนั่ง ไม่นานเหมก็หิ้วกล่องยามา สิงห์เอื้อมมือไปหยิบแต่ดูเหมือนจะช้าไปเพราะถูกเหมขว้ายาไปก่อน "มากูทำให้เอง" "หือ!! กูหูฟาดหรือเปล่าเนี่ย" เหมช้อนสายตาขึ้นมามองก่อนจะหยดแอลกอฮอล์ลงไปที่สำลีแล้วแตะที่ริมฝีปาก "โอ้โอ้ยย เบากูเจ็บ" "เหอะ!! มึงแสดงให้น้อยหน่อยเถอะ สำลีเนี่ยมันยังนิ่มกว่าตีนที่มึงโดนมาอีก" "เอ้า!!หรอ นี่กูแสดงอยู่หรอ กูไม่รู้ตัว"แม้ว่าปากจะแตก โดนสำลีชุบยากดลงแรงแต่ก็ยังมีเสียงพูดขึ้นได้ "ตอแหล!!!" เหมอดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางยียวนของสิงห์ ทั้งๆที่ใบหน้ามีรอยช้ำ ปากแตก แต่ก็กวนประสาทได้เหมือนเดิน "แต่มีอย่างนึงที่กูไม่แสดงนะ แบบว่ากูเล่นจริง มึงอยากรู้ไหม?" เหมมองหน้าคนพูดพร้อมทำหน้าสงสัยก่อนจะถามต่อ "อะไร??" "ก็..เอามึงไง" ​ ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD