CHAPTER 3
กลับมาถึงคฤหาสน์หลังงาม เพื่อนทั้ง 2คนของฉันช่วยกันถือถุงเสื้อผ้าเข้ามาในบ้าน แวนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณเวลล์ เธอก็ไม่ได้เก้กังอะไร ส่วนยูมิก็ดูไม่สนใจอะไรด้วยเช่นกัน
“ว้าววว กำลังจะกินข้าวเย็นกันพอดีเลย” ฉันมองไปที่ห้องกินข้าวแล้วเห็นว่ามีผู้หญิงนั่งอยู่ 2คน และผู้ชาย 1คนซึ่งก็เป็นสามีฉันนั่นเอง
“เดี๋ยวเพียง มึงจะเข้าไปกินด้วยเหรอ” แวนคว้าแขนฉันไว้ในตอนที่ฉันไม่ขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง เปลี่ยนไปห้องนั้นแทน
“ก็ใช่อะดิ ไปกินด้วยกันนะ” ฉันฉีกยิ้มแป้น สาวเท้าก้าวไปด้านใน
“มาแล้วค่า” เอ่ยเสียงดังราวกับกลัวว่าทุกคนจะไม่ได้ยิน แล้วหย่อนสะโพกนั่งลงข้างผู้หญิงแปลกหน้าที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ถัดจากฉันเป็นแวน ส่วนยูมิไปนั่งข้างยายปู
“ใครใช้ให้เธอมานั่งด้วย” คนข้างฉันผุดขึ้นยืนด้วยท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
“ต้องมีใครใช้ด้วยเหรอ” ฉันออกอาการสงสัย แล้วพูดต่อ “ภรรยากินข้าวร่วมโต๊ะกับสามี ต้องมีใครใช้ด้วยเหรอ”
คนนั่งหัวโต๊ะเงียบกริบ ไม่มีคำพูดแย่ ๆ พ่นออกมา ผิดกับแววตาที่คล้ายจะฉีกเนื้อฉันเป็นชิ้น ๆ
“ที่ของแกไม่ใช่ตรงนี้!”
“แล้วที่ของฉันอยู่ตรงไหน” ฉันลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับอีกฝ่าย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
“อย่ามาทำเป็นโง่”
ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่หว่า นักเขียนไม่ได้เขียนบทกินข้าวไว้ จะรู้ไหมล่ะว่าให้กินที่ไหน
“อ๋อ รู้ละ” ฉันนึกออกแล้ว! ฉันเดินอ้อมไปที่ยายปู แล้วสะกิดบ่าเธอเบา ๆ “หลบหน่อยค่ะ ฉันจะนั่งที่ของฉัน”
“กรี๊ดดดดด” ไม่ใช่เสียงของยายปูนะ แต่เป็นเสียงของอีกคนที่แผดดังลั่น พี่ลิ้นจี่เอามืออุดหูทันที ส่วนป้าเงาะก็ทำหน้าเบ้กับเสียงอันโหยหวน
“พอแล้ววิงค์” ในที่สุดคนที่นั่งหัวโต๊ะก็ปริปากพูดได้สักที
ที่แท้เธอก็คือวิงค์ น้องสาวแท้ ๆ ของคุณเวลล์
“พี่เวลล์ก็ดูมันสิคะ” เด็กขี้ฟ้องชี้นิ้วมาทางฉันแล้วกระทืบเท้ารัว ๆ
“เธอไปกินที่ของเธอ” คุณเวลล์หันมาสั่งฉัน ฉันก็เลยชี้ที่เก้าอี้ที่ยายปูนั่ง คนตัวโตถึงกับมองบนคล้ายว่าจะระอาฉันมากขึ้น “ไม่ใช่!”
“แล้วมันที่ไหนล่ะ” บอกสักทีสิว่าที่ไหน จะได้รู้ไว้เป็นข้อมูล
“ครัว!!!” คุณเวลล์ วิงค์ และยายปูเอ่ยออกมาพร้อมกัน ฉันเชิดปากขึ้นด้วยความไม่พอใจ นี่ไล่ฉันไปกินข้าวในครัวกับแม่บ้านเหรอ ถ้าฉันคือคนเก่าก็ไม่อะไรหรอก แต่นี่คือเพียงไง เพียงที่เป็นภรรยาอะ
“ไม่ไป จะกินที่นี่! ใครกินไม่ได้ก็เชิญ!” ฉันยืนกรานเสียงแข็ง แล้วกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง เพื่อนทั้งสองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สงสัยจะแอบสะใจอยู่แน่ ๆ ก็เลยขยิบตาให้ไปหนึ่งที
“ปูขอตัวนะคะพี่เวลล์”
ในที่สุดคนที่ไปก็ไม่ใช่ฉัน!
“เดี๋ยวก่อนปู”
สามีฉันก็ตามผู้หญิงคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา
“เพราะแก!”
ยายเด็กบ้านี่ก็เสียงแหลมเหลือเกิน เธอตามออกไปอีกคน และปิดท้ายด้วยป้าเงาะ ยังดีที่มีพี่ลิ้นจี่อยู่ด้วยในห้องนี้ และจัดการตักข้าวใส่จานให้พวกฉัน
“ไปกันหมดเลยจ้า” แวนระเบิดเสียงหัวเราะหลังจากที่พูดจบ ยูมิยกนิ้วโป้งให้ฉันเป็นการชื่นชม
หลังจากที่อิ่มท้องกันแล้ว ก็หอบถุงเสื้อผ้าขึ้นไปบนห้องนอนของฉัน ฉันเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วรวบออกมาหมดตู้ ทั้งหมดนี้ฉันจะเอาไปบริจาค
“แล้วเสื้อผ้าใหม่นี่มึงจะซักเองไหวเหรอเนี่ย”
“ปกติกูซักผ้าเอง?” ฉันถามแวนกลับไป
“ก็เออน่ะสิ ใครจะมาซักให้มึงล่ะ พี่เวลล์เขาไม่ให้มึงใช้งานคนใช้บ้านเขานี่” แวนตอบกลับพลางพับผ้าจากตู้ใส่ถุงใบใหญ่ที่ซื้อติดมา เธอชะงักมือแล้วตวัดสายตามามองหน้าฉัน “มึงจำไม่ได้เหรอวะ”
“จำได้ดิ กูแกล้งถามขำ ๆ” ฉันแถไปเรื่อย เอาตัวรอดไปวัน ๆ
“เห็นมึงเป็นงี้แล้วกูสบายใจ ของที่กูซื้อมาให้จากญี่ปุ่นน่าจะได้ใช้งาน” ยูมิอมยิ้ม ยิ่งเธอเห็นฉันทำหน้าสงสัย เธอก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างมากขึ้น
“ซื้ออะไรมาให้” ยิ้มแบบนี้ ฉันคิดลึกนะ!
“ลองทาย”
“เซ็กซ์ทอย”
“เฮ้ย ทำไมทายถูกอ่า” ยูมิเบิกตาโพลง มองหน้าฉันด้วยความตกตะลึง ฉันเป่าลมออกจากปากแล้วมองบน ยิ้มแบบนั้นฉันก็คิดได้แค่นี้แหละ
“เอามาดูซิ” ฉันแบมือขอ ฉันเคยเห็นของเล่นของโอโม่มาแล้ว ก็อยากจะเห็นว่าของตัวเองจะเป็นแบบไหน
“มึงขอแบบนี้ กูไม่กล้าให้เลย” ยูมิพูดติดตลก แวนก็หลุดขำไปด้วย
ยูมิส่งเจ้าชิ้นเล็กมาให้ฉัน ตรงส่วนปลายมีลักษณะเป็นใบเล็ก ๆ คล้ายลิ้น ฉันลองกดปุ่มดู ใบเล็กนั่นก็กระดกขึ้นลงรัว ๆ ตามระดับฉันกด
“หูย น่าลอง” มันจะเหมือนลิ้นจริง ๆ ไหมนะ แต่ฉันจะรู้ได้อย่างไร ในเมื่อไม่เคยโดน
“ฮะ!!!” ยูมิและแวนเอ่ยออกมาพร้อมกัน ฉันระบายยิ้มจนตาหยี กดปิดการทำงานแล้วเก็บใส่ถุงผ้าไว้อย่างเดิม พับเสื้อผ้าต่อ ปล่อยให้สองคนนั้นตะลึงงันกันต่อไป