จอมเฉิ่ม: EP1
CHAPTER 1
Phiangrak’s part
“เมื่อไหร่นักเขียนจะมาลงต่อสักทีเนี่ย” ฉันบ่นประโยคเดิมมาเป็นเดือน เหตุเพราะนิยายเรื่องหนึ่งที่อ่านผ่านแอปพลิเคชันนิยายยอดฮิตนั้นไม่มีการอัปเดตตอนใหม่มานานหลายเดือนแล้ว
ในตอนที่ฉันค้นหาแนวที่ชอบและเจอเรื่องนี้เข้า ฉันไม่ได้อ่านว่านักเขียนอัปเดตตอนล่าสุดไปเมื่อไหร่ กดอ่านตอนแรกแล้วอ่านเพลิน ๆ มาจนถึงตอนล่าสุดที่นักเขียนลง ไม่มีตอนต่อไปให้ได้อ่าน ฉันถึงได้รู้ว่านักเขียนไม่ได้มาลงตอนใหม่มานานร่วมปีแล้ว
ฮือ…ทำไมนิยายที่ชอบและคาใจต้องหายเงียบไปแบบนี้ด้วย
ฉันชอบนิยายเรื่องนี้เพราะนางเอกชื่อเดียวกับฉัน ‘เพียงรัก’ เพียงแต่ชื่อเล่นของนางเอกในนิยายชื่อเพียง ส่วนฉันชื่อรัก
แก๊งเพื่อนนางเอกมีสาวประเภทสองและผู้หญิง เหมือนแก๊งฉัน
และสุดท้ายคือฉันชอบแนวที่แต่งงานกันแต่ไม่ได้รักกัน สุดท้ายแล้วพระเอกโบ้ แต่เรื่องนี้นักเขียนยังเขียนไม่ถึงตอนที่พระเอกโบ้ ฉันได้แต่เฝ้ารอว่าสักวันนักเขียนจะมาลงตอนใหม่
“นักเขียนไม่อัป มึงก็หาเรื่องอื่นอ่านสิรัก” โอโม่เอ่ยเสียงเหนื่อยหน่ายพลางปรายตามองฉันราวกับระอาที่ต้องฟังฉันบ่นประโยคเดิมซ้ำ ๆ “แต่ยังไม่ต้องหาอ่านตอนนี้นะยะ ใกล้ถึงเวลาขันหมากแล้ว”
ขันหมากที่โอโม่พูดถึง…งานแต่งสายรุ้ง เพื่อนสนิทอีกคนของฉันน่ะ
“อยากได้ผัวแบบ ‘คุณเวลล์’ เว่อร์ ชอบความท้าทาย!” คุณเวลล์ที่ฉันพูดถึงคือพระเอกนิยายเรื่องที่ฉันรออ่านอยู่ พูดแล้วก็เสียดายที่ชีวิตจริงหาผู้ชายแบบพระเอกนิยายที่ชอบไม่ได้สักที ถึงได้ครองโสดอยู่จนถึงทุกวันนี้
คนหล่อ ๆ ดุ ๆ มาดขรึม ปากร้าย นี่หายากจริง ๆ ได้แต่มโนในหัวจินตนาการแสนหวานต่อไป
“ยังอีก! เลิกเพ้อแล้วเตรียมตัวค่ะสาว” โอโม่ทำท่าง้างมือจะตีฉัน ฉันจึงต้องกดออกจากหน้านิยาย เก็บสมาร์ตโฟนเข้ากระเป๋า แต่งหน้านิดหน่อยก็ออกไปทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาว
ช่วงเวลาของงานที่ฉันรอคอยคือช่วงโยนดอกไม้ ฉันอยากได้ช่อดอกไม้ อยากจะเป็นรายต่อไปที่ได้ลงจากคาน
“มึงอย่าบังกู” ฉันพยายามดันโอโม่สุดแรงให้เธอหลบทางให้กับฉัน ตัวสูงบังฉันแทบมิด แล้วอย่างนี้จะแย่งช่อดอกไม้ได้อย่างไรกัน
“มึงไม่มีทางได้แน่” โอโม่ยังคงแกล้งบังฉัน ดันฉันออก ไม่ให้ฉันได้รับช่อดอกไม้ง่าย ๆ
ฉันจึงรวบรวมแรงที่มีทั้งหมดดันโอโม่ออกแล้วกระโดดรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนมา
“กรี๊ดดด” ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุดฉันก็จะได้ลงจากคาน!
“หน้ากูเกือบทิ่มเลยอีรัก!”
ฉันเบะปากใส่โอโม่ อีกทั้งยังไหวไหล่อย่างยียวน ชื่นชมช่อดอกไม้แสนสวยในมือ และในหัวของฉันก็ภาวนาว่าคนที่จะสอยฉันลงจากคาน เป็นคนที่ตรงสเปกฉันทุกอย่าง…
@ร้านข้างหน้ามีรัก
ติ๊งงง
ฉันนั่งทำบัญชีร้านอยู่ ได้ยินแจ้งเตือนจากแอปนิยายว่านักเขียนอัปตอนใหม่ ก็ว่าจะไม่สนใจแต่พอเหลือบไปเห็นว่าเป็นเรื่องที่ฉันรอคอยให้อัปอยู่นั้น ฉันก็รีบกดเข้าไปอ่านทันที
อ่านไปด่าพระเอกไปตามเดิม แต่ก็อยากได้พระเอกเป็นสามีอยู่นะ ก็บอกแล้วว่าอยากได้แบบนี้! พระเอกอะไรให้นางเอกเอาเสื้อผ้าของคู่ควงตัวเองไปซัก ถ้าเป็นฉันนะ จะเอาคืนให้เจ็บแสบเลย!
อย่างว่า ฉันไม่ใช่นางเอกนิยายที่จะทนจนพระเอกหันมารักเพราะเห็นคุณงามความดี ฉันจะทำให้พระเอกหลงหัวปักหัวปำจนไม่สนใจคนอื่นด้วยทางลัด!
“หนูรุ้งแต่งแล้ว เมื่อไหร่จะถึงคิวหนูรักสักทีน้า”
“นั่นสิภูมิ รักได้ช่อดอกไม้งานแต่งแท้ ๆ แต่ไม่มีวี่แววสักที”
ได้ยินเสียงพ่อแล้วตามด้วยเสียงแม่ซึ่งพูดถึงฉันอยู่ ฉันก็ละสายตาจากสมาร์ตโฟนมามองท่านทั้งสองแล้วผลิยิ้มบาง ๆ
ได้ช่อดอกไม้จากงานแต่งรุ้งมา 2เดือนแล้ว แต่วี่แววจะได้ลงจากคานยังไม่เห็นมีเลย ไร้เงาของใครสักคนที่จะเข้ามาสอยฉันลง
“หายากนี่นา รักเองก็ไม่อยากจะโสดสักหน่อย” ฉันพูดไปตามความจริง อยากมีแฟนอยู่ทุกวัน แต่มันหาแบบที่ถูกใจสุด ๆ ไม่ได้
“พี่รักเลือกเยอะนี่หว่า” เพียงคุณน้องชายของฉันเดินเข้ามานั่งด้วยท่าทางสบาย ๆ เหยียดขายาวแล้วทอดสายตามองผ่านกระจกออกไป
“ก็ต้องเลือกป้ะ” ไม่ใช่ว่าจะไปคว้ามั่วนี่
“แล้วพ่อจะมีโอกาสได้อุ้มหลานไหม”
“โห่พ่อ รัก 25เอง”
“ไม่เกิน 40 พี่รักคงมีแฟนเองแหละพ่อ”
“ไอ้คุณ!” ฉันอยากจะเอาสมุดบัญชีร้านโยนใส่หัวน้องชายตัวดี แต่ก็ไม่ทำหรอก กลัวน้องเจ็บ
“ฮ่า ๆ เราสองคนนี่จริง ๆ เลย” แม่ขวัญพูดยิ้ม ๆ ท่านหันไปพูดกับพ่อภูมิ “ไปค่ะภูมิ เดี๋ยวแม่รอนาน”
“ไปบ้านยายเหรอแม่” คุณถาม
“ใช่ลูก ยายเขาทำขนมจะให้แม่ไปเอา คุณไปกับแม่ไหม”
“ไปครับ อยู่ที่นี่ก็เบื่อพี่รัก” เพียงคุณพูดจบก็รีบวิ่งแจ้นออกไป ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสพ่นคำต่อว่า
“ฮ่า ๆ ไปก่อนนะรัก เดี๋ยวสักพักแม่ก็กลับ”
“ค่ะแม่”
พอทุกคนออกไปแล้ว ฉันจึงอ่านนิยายต่อ…
“คุณรักคะ พอดีว่าวันนี้กุ้งแม่น้ำเข้ามาน้อย และตอนนี้ก็ใกล้จะหมดแล้วค่ะ”
“หา? แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ของมาส่งล่ะคะ มาบอกตอนของใกล้หมดแล้วจะทำยังไงเนี่ย”
หัวหน้าครัวหน้าเจื่อนลงเมื่อฉันพูดด้วยน้ำเสียงเชิงต่อว่า ก็จริงนี่นา หากบอกก่อนหน้านี้อาจจะไปหาซื้อมาได้ไวและไม่ต้องงดขายชั่วคราว ก็รู้ทั้งรู้ว่าเมนูจากกุ้งแม่น้ำขายดีที่สุด
ฉันรีบต่อสายหาร้านที่เคยไปซื้อเวลาที่ร้านประจำของไม่พอส่ง ปลายสายตอบว่ามีกุ้งอยู่แต่ไม่มีคนมาส่ง ด้วยความที่ตัวฉันเองก็เร่งรีบไม่อยากให้ของขาด จึงคว้ากุญแจรถและขับออกไป
“เฮ้ย!” ใจฉันเต้นตึกตักที่คันหน้าเบรกกะทันหัน และฉันเกือบจะชนเข้า ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพรูลมหายใจออกมายาว ๆ ขับต่อไปเรื่อย ๆ อีกไม่เท่าไหร่ก็ถึงจุดหมายแล้ว ทว่า…
“กรี๊ดดดด”
รถพ่วงเลี้ยวออกจากซอยมาโดยที่ไม่ได้ดู รถฉันมาทางตรงพุ่งชนรถพ่วงเต็ม ๆ ไม่สามารถหลบหลีกได้
ฉันรู้สึกถึงความกระแทกอย่างรุนแรง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง…
*****
เรื่องนี้เป็นแนวทะลุมิติเข้ามาในนิยายนะคะ
แต่สุดท้ายก็โยงเข้ากับชีวิตจริงค่ะ นางเอกได้เจอครอบครัวและเพื่อน ๆ ของตัวเองค่ะ
ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่า