ซ้ำคนที่แนะนำให้รู้จัก ก็รู้จักดีอยู่แล้วเพราะเป็นพี่สาวของเพื่อน แต่จำต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก
เรียกว่าเป็นการสั่นสองเท่าเลยก็ว่าได้ กลัวจะทำอะไรส่อพิรุธออกไปชะมัด อมิตพุทธ อาเมน สาธุ หญิงสาวพร่ำสวดมนต์สารพัดศาสนาอยู่ในใจ
และที่สั่นสุดคงเป็นประโยคนี้
“พี่บุษครับนี่พริมภรรยาผมครับ”
“ภรรยาภัทรหรือจ๊ะ”
แม้จะรู้เรื่องราวทั้งหมดจากน้องสาวแล้ว แต่บุษราก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ เรื่องของพริมาที่มาอยู่บ้านของนรภัทรเธอไม่ได้นึกติดใจอะไรนัก เพราะฟังจากที่เล่าแล้วมันเป็นเรื่องความจำเป็นบังคับ
แต่ที่กำลังติดใจระคนประหลาดใจเป็นเรื่องของพ่อนักเขียนบท ที่เธอรักเอ็นดูเหมือนน้องชายมากกว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนไม่ช่างพูดซ้ำ ยังเป็นเสือยิ้มยากอย่างนรภัทร จะกลายเป็นคนช่างคิดอะไรได้พิศดารแบบนี้ เพราะเรื่องที่กระทำนั้นราวกับในละคร ที่เจ้าตัวเป็นคนเขียนบทอย่างไรอย่างนั้น
แถมยังพูดออกมาว่าเพื่อนสนิทของน้องสาว
