ตอนที่13 มากกว่านี้คงไร้ที่ยืน

1210 Words
บทที่13 ธาดาเดินกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่อุ้มร่างผู้หญิงที่อยู่ในปกครองขึ้นมานอนที่ของพักส่วนตัวของเขา แล้วลงไปดูความเรียบร้อยของงานต่างๆ ที่เขาได้แต่โทรคุยกันกับคนดูแลที่เขาได้มอบหมายให้ และตอนนี้เขากลับมาแล้วก็เลยแวะเข้ามาดูสักหน่อย งานทุกอย่างก็ไปได้ดีไม่มีติดขัดอะไร ชายหนุ่มจึงกลับขึ้นมาด้านบน เพื่อมาดูว่าหญิงสาวที่เขาอุ้มขึ้นไปนั้นตื่นหรือยัง และจะได้เดินทางต่อไปที่โรงแรมอีกแห่ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก            ธาดาเปิดประตูเข้าไปสายตาจ้องมองไปยังมนธิรา ที่เขาคิดว่ายังคงนอนอยู่ที่เดิม แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อตาคมเพ่งมองไปยังจุดนั้น ที่มีแต่ความว่างเปล่า             เธอหายไปไหน!! คิ้วหนากระตุกเข้าหากัน             เพื่อให้กระจ่างในสายตาให้แน่ชัด ธาดาเดินเข้าเปิดสวิตช์ไฟ ที่เขาเองเป็นคนปิดก่อนหน้านี้ และกวาดตามองไปยังจุดอับต่างๆ ที่คิดว่าเธอคงหลบซ่อนเขาอยู่ "โธ่โว้ย!" ชายหนุ่มสบถ "รู้สึกโล่งใจได้ไม่เท่าไหร่ ดันมาเจอเรื่องปวดหัวอีกจนได้" ธาดาเอ่ย พร้อมหันหลังออกจากห้อง กวาดตามองไปตามเส้นทางที่เดินวนเชื่อมต่อกันได้ สายตาสะดุดกับอะไรบางอย่าง ก้าวยาวๆ จึงเดินไปยังสิ่งนั้นทันที   "เสื้อ แล้วคนหายไปไหน?!" เสียงหนักๆ ที่เอ่ยออกมาตามหัวใจที่กำลังร้อนรุ่ม แล้วเดินตามเส้นทางเดิน ชายหนุ่มไม่อยากคิดว่ามนธิราจะหนีเขาไป และสิ่งที่กลัวมากว่านั้น หากเธอผลีผลามออกไปโดยไม่มีเขา อาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอก็เป็นแน่            พลากรที่ยืนมองเจ้านายอยู่ แต่ไม่ได้เดินเข้าไปทัก เพราะชายหนุ่มเห็นอยู่แล้วว่าเจ้านายกำลังเดินตรงมาทางที่ชายหนุ่มยืนอยู่             “อ้าว เจ้านาย สวัสดีครับ"            “สวัสดี" เอ่ยรับสีหน้าไม่สู้ดี             พลากรยกมือไหว้ สังเกตเห็นสีหน้าและน้ำเสียงเจ้านายหนุ่มเหมือนกำลังกังวลอะไร ก็ไม่กล้าเอ่ยถาม แต่สีหน้าและสายตาของคนเป็นเจ้านาย มันทำให้ลูกน้องอย่างพลากรอดทนรอไม่ได้                         "มีอะไรหรือเปล่าครับ" ว่าจะไม่ถามแล้วเชียว แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ก็ท่าทางขรึมๆ แบบนี้ เมื่อสิบปีก่อน ไม่มีหรอกที่เจ้านายเขาจะเอ่ยบอกอะไร เพราะอย่างนี้ลูกน้องทุกคนจึงไม่กล้าหือ ยกเว้นชายหนุ่มขี้เล่นอย่างเขา            "นายเห็น...เห็นผู้หญิงบนนี้หรือเปล่า" น้ำเสียงขรึมๆ ที่เอ่ยออกมา เหมือนไม่อยากจะเอ่ยถาม ทำให้พลากรคิ้วผูกปมเล็กน้อย               “ผู้หญิงที่ว่า ตอนนี้ หรือตอนไหนล่ะครับ ก็ผู้หญิงที่นี่มีเยอะนะครับ" พลากรตอบพร้อมถามออกไปอย่างงงๆเหมือนกัน             ธาดายกมือหนาเกาท้ายทอยตัวเอง คำถามที่ต้องการคำตอบ แต่คำตอบที่ตอบมาฟังดูกวนๆ ยังไงไม่รู้             ชายหนุ่มไม่อยากแสดงอาการไม่พอใจกับคำตอบ แต่เขาเองเลือกที่จะถามแบบนั้น มันก็คงเป็นคำตอบที่สมควรแล้ว เพราะคนถามเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน               “แล้วนายมายืนทำอะไรที่นี่" เมื่อได้คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจ ชายหนุ่มก็เลยถามเรื่องอื่นไป              “อ้อ..ผมมารอพนักงานผู้หญิง คงจะเข้ามาทำงานใหม่ ผมไม่เคยเห็นหน้า สวยด้วย" เสียงตอนท้ายเบาลงเหมือนกระซิบ            ใบหน้าคมเข้มผูกปมที่คิ้ว เหมือนไม่ได้สนใจ แต่ "นายว่าอะไรนะ แล้วเธออยู่ไหน?!!!" เสียงเข้มดังรัว จนคนที่ยืนอยู่ใกล้ถึงกับสะดุ้ง             แหม อยู่ใกล้แค่นี้ พูดเสียงดัง...พลากรลูบหูข้างที่อยู่ใกล้ชายหนุ่มป้อยๆ             “อยู่...อยู่ในห้องครับ กำลัง...กำลัง แต่งตัว"             “ให้มันได้อย่างนี้สิ!!" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างคนหัวเสีย                         เธอไม่ได้พาปากมาหรือไง....              และไม่ต้องถามอะไรซ้ำ เข้ามั่นใจว่าผู้หญิงในห้องนั้นเป็นมนธิราแน่นอน คนที่ยืนมองอาการคนเป็นนาย ถึงกับเกาศีรษะตัวเองอย่างงงๆ            มนธิราหน้าร้อนผะผ่าว มองตัวเองซ้ายทีขวาที เหมือนกับว่าชุดที่เธอใส่อยู่นี้มันทำให้เธอเหมือนตัวประหลาด เมื่อมั่นใจว่าจัดการกับชุดใหม่เรียบร้อย ก็เดินตรงมายังประตู              แม้จะใจสั่นอยู่บ้าง ก็ยืดอกพร้อมยอมรับความจริงที่ผู้มีพระคุณต้องการ แม้มันจะขัดกับความรู้สึกก็ตาม             “อุ๊ย!!" มนธิราสะดุ้ง             มนธิราเอื้อมมือหมายจะดึงประตู แต่ก็ต้องผละถอยหลัง เมื่อประตูที่ถูกเปิดเข้ามาโดยที่เธอเกือบหลบไม่ทัน แล้วก็ยิ่งตกใจไปกว่านั้น เมื่อคนที่เธอคิดถึงอยู่นั้น เป็นคนเปิดเข้ามา                             แล้วสีหน้าผิดหวังก็เข้ามาครองใบหน้าหวานทันที แต่ผิดกับสายตาคมเข้ม ที่มองร่างตรงหน้านิ่งงัน รูปร่างกลมกลึง ที่อยู่ในชุดกางเกงหนังสีดำสั้นจู๋ เผยให้เห็นเรียวขาขาวนวล กับเสื้อหนังสีดำเกาะอก เผยให้เห็นร่องอกรำไร            ภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มหน้าร้อนผะผ่าว ก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก ภาพที่เขาเคยเห็นเด็กขี้แยหน้าหวาน ตอนนี้กลายเป็นสาวเซ็กซี่ไปแล้ว และเธอก็น่ามองจนเขาต้องรีบผันหน้าหนี            “ไปถอดซะ หากไม่อยากให้ฉัน...หักคอเธอ!"  ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น หันมองมนธิราที่เริ่มมีอาการเหมือนอยากจะร้องไห้เต็มที                           ชายหนุ่มขบกรามระงับโทสะจนเป็นสันนูน เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหญิงสาวที่เขาอุปการะ จะซื่อจนบื้อขนาดนี้  นี่หากผู้ชายคนอื่นมาเห็นเธอในสภาพนี้ เขาจะควักลูกตาผู้ชายคนนั้นมั้ย?....                          ริอาจจะออกมาโชว์สัดส่วนเอาตอนนี้มันน่านัก...ชายหนุ่มเข่นเขี้ยว ตากลมโตมองชายหนุ่มอย่างตกตะลึงไม่หาย ที่ดันพรวดพราดเข้ามาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง มองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ก่อนจะกลายเป็นซีด                         "ยัง..ยังจะยืนเฉยอยู่อีก จะให้ฉันไปถอดชุดให้เธอเองหรือไง!!" สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างมาก ตวาดดังอีกครั้ง                         ตาคมเข้มหันไปมองด้านหลัง ว่าพลากรที่ยืนคุยกับเขาเมื่อกี้จะโผล่เข้ามาหรือเปล่า เขาไม่อยากให้ใครเห็นรูปร่างสัดส่วนที่โชว์หราอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้                         และไม่รู้ทำไมความคิดแบบนั้นมันผุดขึ้นมาในหัวได้ยังไง มันแปลก... ชายหนุ่มเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน... พลากรเองก็ยังงงๆ จึงขอยืนดูท่าทีเจ้านายอยู่ตรงที่เดิม และดูเหมือนจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างแรง ระหว่างเขากับสาวสวยที่อยู่ในห้องนั้น และก็ต้องทำใจว่ามันต้องมีผลตามมาในความเข้าใจผิดครั้งนี้ ฮึ่ม! พลากร ตบหน้าผากตัวเองที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ผู้หญิงสาวสวยที่ไหนจะมาทำงานในที่แบบนี้...                
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD