“ยังอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์ค่ะ” มันมากมายจนคนที่ไม่เคยเกิดมาพบกับความร่ำรวยไม่อยากจะเชื่อ ว่าเธอจะมีเงินในบัญชีมากมายขนาดนี้
ตอนอยู่ที่ต่างจังหวัด จำนวนเงินมากสุดที่เธอเคยเห็นก็มีเพียงแค่หลักหมื่น และเธอคิดว่านี่คือสิ่งจำเป็นหากต้องจากไป เธอจะไม่คืนในสิ่งที่เขาให้ และเธอจะไม่ยอมให้ลูกต้องลำบาก
“ยังรักกันอยู่ไหม” เขาถามอีกอย่าง หลังจากวางใจเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับเมียและลูกไปแล้ว
“รักค่ะ”
“สัญญาว่าจะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”
“หนูไม่รู้ค่ะ” เธอเบือนหน้าหนีสายตาเว้าวอนคู่นั้น จากกันทั้งที่ยังรักน่ะดีแล้ว ใครล่ะจะปฏิเสธว่าไม่อยากอยู่กับคนที่เรารัก แต่เธอก็มีเหตุผลที่ต้องไปเช่นเดียวกัน ไหนจะครอบครัวเขาที่จ้องแต่จะกลั่นแกล้งรังแกไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะคำพูดเหยียดหยามดูถูกต่างๆ นานา แต่นั่นยังไม่มีผลกับเธอเท่ากับที่ได้รู้ว่า พ่อกับแม่ของเธอเองนั้นรอการกลับไปของเธอทุกวินาที ท่านแก่ลงไปมาก และตอนนี้ก็กำลังป่วยหนัก
เธอได้รับรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เอง หลังจากออกไปส่งลูกชายไปโรงเรียนตามปกติ ก่อนจะตัดสินใจใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรกลับไปที่บ้าน คนเป็นแม่รับสาย และร้องไห้มากมายเมื่อได้ยินเสียงลูกสาวที่หายออกไปจากบ้านหลายปี
เธอเป็นลูกอกตัญญูที่ทิ้งพ่อกับแม่มาเพียงเพราะเหตุผลคือ ไม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อกับแม่หมั้นหมายไว้ให้ ผู้ชายคนนั้นร่ำรวยและจะทำให้เธอมีชีวิตสุขสบาย และบุพการีไม่ต้องการให้เธอมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนกับที่ท่านทั้งสองเผชิญกับมันมาทั้งชีวิต
ตอนนั้นหญิงสาวคิดเพียงว่ารับไม่ได้กับการถูกบังคับ รู้ดีว่าการทำอาชีพเกษตรกรรมคงไม่สามารถสร้างความร่ำรวยขึ้นมาได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่อาจฝืนใจแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก แม้เขาจะแสนดีแค่ไหนก็ตาม
นับสิบปีที่จากบ้านมาและไม่เคยติดต่อ และมันคงเป็นเพราะเวรกรรมที่ทำกับพ่อแม่ให้ท่านทุกข์ใจ ตัวเองถึงได้ต้องมาเผชิญชะตากรรมเจ็บปวดไม่ต่างกันแบบนี้ และเธอไม่อยากให้ลูกชายต้องเจ็บเหมือนเธออีกแล้ว
“เมื่อไหร่ที่เรื่องทางนี้เรียบร้อย ฉันจะไปหาเธอกับลูก และเมื่อถึงวันนั้นเราจะอยู่ด้วยกัน จะไม่แยกจากกันอีก ตกลงไหม”
“ไม่ค่ะ เราจะไม่เจอกันอีก”
“งั้นก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” เขาตวาดกร้าว
“คนใจร้าย! หนูเกลียดคุณ!”
“อยากจะเกลียดก็เชิญ แต่ถ้าไม่รับปากตามที่ขอ ก็ไม่ต้องไป!” เขาย้ำหนักแน่น
คนเป็นเมียเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าคนใจร้ายที่เธอทั้งรักทั้งชัง กระนั้นเขาก็จับคางให้หันหน้ามาสบตา
“เพราะรักนะ ถึงยอมให้ไป แต่มันไม่ได้แปลว่าเราจะเลิกกัน เราไม่มีวันเลิกกัน ต่อให้ฉันต้องแต่งงานกับใคร หรือต่อให้เธอต้องแยกไปอยู่ที่อื่น และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว”
“คุณสามจะไม่ไปตามหาคุณวิหรือคะ” เธอถามเสียงเบา ในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน เธออดสงสารเจ้าหล่อนไม่ได้
วิชชุดาคือเมียแต่งที่สามีไม่เคยเหลียวแล จนเธอท้องและคลอด แล้วเธอก็จากไป ทิ้งลูกไว้ไม่เคยกลับมาดูดำดูดี
“ไม่มีทาง และฉันก็จะไม่คืนดาต้าให้”
“โธ่ อย่าใจร้ายนักเลยค่ะ คุณวิเธอคงเจ็บปวดมาก”
“ช่วยไม่ได้ เขาทำตัวเขาเอง อย่าพูดเรื่องคนอื่นอีกเลยนะ เธอจะไปเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ค่ะ หนูจะออกไปแต่เช้า เพราะต้องไปทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ลูกด้วย”
คำตอบที่ได้ยินทำให้เขาถึงกับหลับตาแน่น ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองจะทนได้ ถ้าได้เห็นเมียรักและลูกชายเดินจากไป
“ฉันจะพาดาต้าออกไปข้างนอกแต่เช้าเหมือนกัน อย่าโกรธถ้าจะไม่ไปส่ง ฉันคงทนมองเธอกับลูกเดินออกไปจากที่นี่ไม่ได้หรอก”
“หนูรู้ค่ะ” ว่าก่อนจะน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งอย่างกลั้นไม่ได้ มันเจ็บที่ต้องจากกัน แต่ถ้ายังทนอยู่โดยที่อะไรๆ ยังไม่ได้รับการสะสางมันคงจะแย่กว่านี้
และที่สำคัญ ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องกลับไปทำ การกลับไปยังเส้นทางของตัวเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยยังเก็บความรักไว้ในหัวใจ มันไม่ได้หายไปไหน มันจะยังคงอยู่อย่างนั้น
สิ้นคำที่ดูก็รู้ว่าเหนื่อยล้า บทรักสุดท้ายระหว่างเธอและเขาก็ค่อยๆ ถูกบรรจงถ่ายทอดให้กันอย่างลึกซึ้ง เชื่องช้า และเต็มไปด้วยการฝากฝังหัวใจไว้ในทุกๆ อณูเนื้อของกันและกัน…
15 ปีต่อมา กรุงเทพมหานคร
สองหนุ่มหล่อสูสีมีความต่างอยู่ที่สีผิว ยืนเด่นเป็นสง่าเป็นจุดสนใจอยู่ในห้างสรรพสินค้าสุดหรูใจกลางเมืองหลวง คนหนึ่งนิ่งขรึมไม่สนใจไยดีกับสิ่งรอบตัว ต่างกับอีกคนที่สายตากะลิ้มกะเหลี่ยวาววับส่งให้สาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาเป็นระยะ
ผ่านไปราวๆ สิบนาที คนที่ยืนกอดอกนิ่งมานานก็ต้องไปหันไปตามแรงสะกิดของอีกคน เมื่อเป้าหมายที่พวกเขามารอวันนี้กำลังเดินเข้ามาหา
“แอนนี่จ๋า ไม่เจอกันนาน...นมโต...ขึ้นเป็นกองเลยนะจ๊ะ” ธนวัฒน์เป็นคนเอ่ยทักก่อน ทำเอาคนมาใหม่ถึงกับหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจ รู้ทันมันดีเลยว่าจงใจแบ่งวรรคตอนประโยคให้ส่อเค้าไปในทางทะลึ่ง