ตอนที่ 11

1064 Words
“คุณเหม...ช่วยขวัญด้วย ได้โปรด...” เธอบิดกายอ้อนวอนเขาโดยไม่เหลือความอายใดๆ เหมันต์ครางลึกในลำคอ ของหวานชิ้นใหญ่ช่างนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินให้หมดทั้งตัว หัวใจชายหนุ่มเต้นระทึก ยิ่งได้ยินคำวิงวอนกระเส่าแว่วหวาน เขาก็ยิ่งเร่งเร้าปรนเปรอจนร่างสาวแอ่นค้าง กลั่นหยดน้ำหวานหลั่งรินให้เขาได้กลืนกินจนอิ่มเปรม ก่อนที่ร่างนั้นจะอ่อนระทวยลงอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรง เหมันต์จัดแจงเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เข้าที่เหมือนเดิม แล้วเคลื่อนตัวขึ้นมานอนเคียงข้างกัน ลำแขนแกร่งสอดลงใต้ศีรษะทุยเพื่อให้เธอได้หนุนนอนต่างหมอน เพียงขวัญยังคงหลับตาพริ้ม เห็นได้ชัดว่าจังหวะลมหายใจเธอยังไม่เป็นปกติ ชายหนุ่มกดจูบลงบนขมับสวยชื้นเหงื่อ “ผมบอกคุณหรือยังว่าคุณทำอาหารอร่อยมาก” เพียงขวัญลืมตาขึ้นมองสบตาคมวาวในระยะใกล้ ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่เหนือขมับของเธอ “แต่คนทำอร่อยกว่ามากกกกก” คนพูดจงใจลากเสียงสุดท้ายยาว และยิ้ม กรุ้มกริ่มให้ ใบหน้าสาวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันใด เพียงขวัญจึงเลือกที่จะซุกหน้ากับอกกว้างของเขา หัวใจเต้นระรัว ยิ่งพอหลับตาลงแล้วนึกถึงเสียงอ้อนวอนของตน และท่าทางเชื้อเชิญตอบสนองเขาเมื่อสักครู่นี้แล้ว เธอก็อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้ เสียงหัวเราะเบาๆของเขาดังขึ้นพร้อมกับอ้อมกอดที่กระชับร่างเธอแน่นขึ้น เพียงขวัญสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แข็งขึงอยู่กลางกายเขา เธอกำลังจะขยับร่างออกห่าง หากไม่ได้ยินคำขู่ของคนตัวโตเสียก่อน “นอนนิ่งๆ ถ้ายังไม่อยากให้มันเข้าไปอยู่ในตัวคุณ” เพียงขวัญนอนนิ่งๆอย่างที่ เขาบอกจริงๆ แล้วเธอก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขาจนกระทั่ง “ขวัญ ขวัญตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มมาพร้อมกับจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่พวงแก้มเนียน มือใหญ่ลูบไล้ไปตามลำคอระหงและเลื่อนลงไปยังชายเสื้อ ก่อนจะสอดมือควานสูงขึ้นเพื่อสัมผัสความนุ่มหยุ่นเต็มมือ “อือ...” คนถูกปลุกอืออาในลำคอ ขยับตัวยุกยิก “ตื่นได้แล้ว ผมจะพาไปปลายนา” จมูกของคนพูดกดหนักๆอีกครั้งที่แก้มใส มือใหญ่บีบอกอวบแรงขึ้นอย่างจงใจ “อุ๊ย! คุณเหม” เมื่อลืมตาตื่น ใบหน้าใครอีกคนที่อยู่ในระยะประชิดทำให้เพียงขวัญอุทานออกมา “คุณขี้เซา ผมต้องปลุกทุกทีเลย” เหมันต์ชักมือออกจากอกอวบอย่างแสนเสียดาย เขาลุกขึ้นนั่งแล้วช่วยพยุงร่างของคนขี้เซาขึ้นมานั่งเคียงกัน “ทีหลังไม่ต้องปลุกขวัญก็ได้นะคะ” เธอก้มหน้าบอกเสียงเบา อยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาปลุกเธอได้แบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวที่สุด “ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหม” “ค่ะ” เพียงขวัญขยับร่างลุกขึ้นยืนด้วยขาที่สั่นเทาเล็กน้อย เพราะฝีมือการปลุกของคนตัวโต เหมันต์รีบลุกขึ้นตาม “อะ...อะไรคะ” หญิงสาวหันกลับมาเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาลุกขึ้นมา ยืนซ้อนหลังในระยะใกล้กันเกินไป จนเธอกลัวว่าเขาจะทำอะไรให้ต้องอกสั่นขวัญหายอีก “ก็เห็นตัวสั่น ผมกลัวคุณจะล้มลงหัวฟาดพื้น” “ขวัญไม่เป็นไรค่ะ” เพียงขวัญตอบเสียงแผ่ว แล้วรีบผละออกห่างความอบอุ่นที่แผ่ลามอยู่ชิดแผ่นหลัง เธอจะล้มหัวฟาดพื้นก็เพราะเขานั่นแหละ ต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องสั่นอยู่อย่างนี้ “ผมรอข้างนอกนะ เร็วหน่อยล่ะ อย่ามัวโอ้เอ้” “คนบ้าอำนาจ ชอบออกคำสั่ง” คนได้ยินคำสั่งยู่ปากให้ผนังและหลังคาบ้าน บ่นเบาๆกับแจกันใบใหญ่ที่มุมห้อง ขณะที่กำลังเดินเร็วตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกด้านหนึ่งของบ้าน วงแขนเรียวโอบกอดเอวสอบของสารถีหนุ่มไว้แน่น เพราะเขาปั่นจักรยานได้น่าหวาดเสียวเป็นที่สุด เพียงขวัญไม่แน่ใจว่าเขาตั้งใจแกล้งหรือเปล่า เพราะขณะที่ทำหน้าที่สารถีเขาก็บ่นแล้วบ่นอีกว่าเธอตัวหนัก เธอทำปากขมุบขมิบอยากจะโวยเขานัก เธอตัวเล็กนิดเดียวหนักถึงครึ่งน้ำหนักตัวของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตัวเองนั่นแหละตัวใหญ่ยังกะยักษ์ หนักก็หนักเพราะเขาเองต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเธอสักนิด “ถึงแล้ว ลงไปได้แล้ว เกาะแน่นยังกะปลิง” เพียงขวัญอยากจะทุบแผ่นหลังกว้างแรงๆสักครั้ง คนอะไรปากร้าย น่าทุบที่สุด อารมณ์ตอนปกติกับอารมณ์ในตอนที่ทำให้เธอใจสั่นด้วยสัมผัสแสนวาบหวามนั้น ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ใบหน้าหวานร้อนวูบวาบรีบคลายวงแขนออก แล้วลงไปยืนรอคำสั่งเงียบๆ “ตามมาสิ เดี๋ยวก็มืดค่ำก่อนได้ทำอะไรกันพอดี” เหมันต์พูดจบก็เดินเร็วไปทางอีกด้านของหนองน้ำใหญ่ หญิงสาวรีบเดินตาม สายตาก็เริ่มสำรวจบรรยากาศรอบกาย เธอเพิ่งสังเกตว่าถนนลาดยางที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านกับบ้านของเหมันต์สิ้นสุดลงที่บ้านของเขา ส่วนทางเล็กๆที่เชื่อมต่อจากบริเวณหลังบ้านจนมาถึงปลายนาเป็นเพียงถนนลูกรังแคบๆเท่านั้น “เหม่ออยู่ได้ เดี๋ยวก็ตกน้ำหรอก” ใบหน้างามสะบัดค้อนให้แผ่นหลังกว้าง รีบ สาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น “เป็นไงบ้างลุงช่วง อีกไม่เกินสองสัปดาห์ก็เกี่ยวได้แล้วนี่” ชายสูงวัยที่กำลังนั่งอยู่ บนแคร่ไม่ไผ่ ซึ่งอยู่ใต้เพิงมุงด้วยหญ้าแฝกหันกลับมายิ้มโชว์ฟันหลอด้านหน้าหนึ่งซี่ “อ้าว...คุณเหม ก็ว่าจะเกี่ยวช่วงนั้นล่ะครับ นี่ก็ไปติดต่อรถเกี่ยวนวดข้าวไว้แล้วครับ” ลุงช่วงเก็บยาสูบมวนใบตองแห้งไว้ในถุง แล้วรีบเหน็บไว้ที่ผ้าขาวม้าคาดเอวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าสองหนุ่มสาว ยืนมือกุมเป้าก้มหน้าอย่างเกรงใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD